ฟุตบอลโลก 2018 (FIFA World Cup 2018) ที่จัดขึ้นที่ประเทศรัสเซีย เป็นอีกหนึ่งทัวร์นาเมนต์ที่เต็มไปด้วยคุณภาพและสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นได้ จนฟุตบอลโลก 2018 เป็นที่จดจำของแฟนบอลมาถึงทุกวันนี้ วันนี้ผมจะขอพาทุกท่านย้อนเวลาไปชมแมตช์เด็ด ๆ ในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย พร้อมแล้วไปกันเลย โปรตุเกส 3 – 3 สเปน รอบแบ่งกลุ่มนัดแรกโปรตุเกสพบกับสเปน โปรตุเกสขึ้นนำก่อน 1 – 0 จากลูกจุดโทษของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่ดีเอโก้ คอสต้า ก็ซัดประตูตีเสมอ 1 – 1 ให้กับสเปน ก่อนที่โปรตุเกสจะขึ้นนำ 2 – 1 จากลูกยิงของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ และก็เป็นดีเอโก้ คอสต้า คนเดิมที่ยิงประตูตีเสมอ 2 – 2 ต่อด้วยนาโช่ ยิงให้สเปนขึ้นนำ 3 – 2 เกมส์เหมือนจะจบด้วยชัยชนะของสเปน แต่คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซัดฟรีคลิกสุดสวยตีเสมอเป็น 3 – 3 ซึ่งในเกมส์วันนั้นเป็นเกมส์แรกของการทำแฮตทริกในฟุตบอลโลก 2018 อีกด้วย โครเอเชีย 3 – 0 อาร์เจนตินา เกมส์พลิกล็อคที่แฟนอาร์เจนตินาไม่อยากจดจำมากนัก เมื่อทีมฟ้าขาวอาร์เจนตินาแพ้เละเทะต่อโครเอเชียถึง 0 – 3 โดยเกมส์ในวันนั้นอาร์เจนตินาจัดผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามนำโดย ลิโอเนล เมสซี่, เซร์คิโอ อเกวโร่, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ส่วนโครเอเชียนำทีมโดยลูก้า โมดริช, มาริโอ มานด์ซูคิซ, อีวาน ราคิติช โครเอเชียได้ประตูจากอันเต้ เรบิช, ลูก้า โมดริช, อีวาน ราคิติช ช่วยกันยิงคนละประตู การแพ้ต่อโครเอเชียในเกมส์นั้นทำให้อาร์เจนตินาต้องลุ้นจนถึงนัดสุดท้ายเพื่อเข้ารอบ เกาหลีใต้ 2 – 0 เยอรมัน เกมส์นี้เป็นเกมส์พลิกล็อคอย่างแท้จริง เมื่อแชมป์เก่าจากฟุตบอลโลก 2014 อย่างเยอรมัน แพ้ให้กับเกาหลีใต้อย่างเหลือเชื่อ 2 – 0 โดยเยอรมันจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามทั้ง มานูเอล นอยเออร์, มัตส์ ฮุมเมิ่ลส์, ซามี่ เคดิร่า, โทนี่ โครส, เมซุต โอซิล, มาร์โก รอย ส่วนเกาหลีใต้นำทัพโดย ซน เฮือง มิน ปีกความเร็วสูงจากสเปอร์ เกาหลีใต้ได้ประตูจากการยิงของคิม ยอง กวอน และซน เฮือง มิน ซึ่งผลจากการแพ้ในเกมส์นั้น ส่งผลให้เยอรมันตกรอบและยังคะแนนน้อยที่สุดในกลุ่มอีกด้วย ฝรั่งเศส 4 – 3 อาร์เจนตินา เกมส์นี้เป็นการเจอกันของสองทีมที่เต็มไปด้วยผู้เล่นระดับโลกมากมาย ส่งผลให้เกมส์นี้มันระดับ 5 ดาว ตลอดทั้งเกมส์พลิกไปพลิกมา ฝรั่งเศสขึ้นนำก่อน 1- 0 จากจุดโทษของอองตวน กริซมันน์ แต่ก็ถูกอาร์เจนตินาตามตีเสมอ 1 – 1 จากลูกยิงสุดสวยของอังเกล ดิมาเรีย และแซงขึ้นนำ 2 – 1 ในครึ่งหลังจากลูกยิงแฉลบเมสซี ฝรั่งเศสตามตีเสมอ 2 - 2 จากลูกยิงไซด์ก้อยของเบนจามิน ปาวาร์ด และสุดท้ายเป็นคีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ที่โชว์ที่เด็ดซัด 2 ประตู ช่วยให้ฝรั่งเศสเอาชนะอาร์เจนตินาไปอย่างสุดมัน 4 – 3 ส่งอาร์เจนตินากลับบ้านอย่างเจ็บช้ำ เบลเยียม 2 – 1 บราซิล เกมส์นี้ติโบต์ กูร์กตัวส์ ประตูจอมหนึบของเบลเยียมโชว์ฟอร์มเทพ เซฟลูกสำคัญหลายลูก จนพาเบลเยียมเอาชนะเต็งหนึ่งอย่างบราซิลได้ 2 – 1 เกมส์นี้เบลเยียมขึ้นนำก่อน 1 – 0 จากการทำเข้าประตูตัวเองของแฟร์นานดินโญ่ และขึ้นนำ 2 – 0 จากเดอ บรอยน์ ส่วนบราซิลได้ประตูคืนหนึ่งลูกจากออกุสโต้ จากชัยชนะในเกมส์นี้ส่งผลให้เบลเยียม เข้ารอบตัดเชือกเป็นครั้งแรกในรอบ 32 ปี โดยเกมส์ต่อไปเบลเยียมจะพบกับฝรั่งเศส ฝรั่งเศส 4 – 2 โครเอเชีย นัดชิงฟุตบอลโลก 2018 เป็นการเจอกันระหว่างฝรั่งเศส - โครเอเชีย ซึ่งฝรั่งเศสลุ้นเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 2 ส่วนโครเอเชียถือว่าเป็นม้ามืดของจริง โดยพวกเขาสามารถเอาชนะทีมชาติอังกฤษได้ในรอบรองชนะเลิศ และผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ตลอด 90 นาทีของการแข่งขัน ฝรั่งเศสเป็นฝ่ายขึ้นนำก่อนจากการโหม่งบอลผิดเหลี่ยมจนเข้าประตูตัวเองของมาริโอ มานด์ซูคิช แต่โครเอเชียก็มาตามตีเสมอได้จากการยิงสุดสวยของเปริซิช ช่วงท้ายของครึ่งแรกฝรั่งเศสได้จุดโทษ จากการทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษของเปริซิช อองตวน กริซมันน์ รับหน้าที่ยิ่งจุดโทษ ฝรั่งเศสขึ้นนำอีกครั้ง 2 – 1 จากนั้นครึ่งหลังฝรั่งเศสได้เพิ่มอีก 2 ลูกจากพอล ป็อกบาและคีเลียน เอ็มบัปเป ส่วนโครเอเชียได้คืนหนึ่งลูกในครึ่งหลังจากการยิงของมาริโอ มานด์ซูคิช จบเกมส์ฝรั่งเศสเอาชนะโครเอเชีย 4 – 2 คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 2 ไปครองอย่างยิ่งใหญ่ ขอบคุณภาพประกอบจาก True4U : รูปประกอบที่ 1 / รูปประกอบที่ 2 / รูปประกอบที่ 3 / รูปประกอบที่ 4 / รูปประกอบที่ 5 / รูปประกอบที่ 6 ภาพปกโดย : Gellinger from pixabay.com ชมคลิปไฮไลท์จาก True4U : โปรตุเกส 3 – 3 สเปน / โครเอเชีย 3 – 0 อาร์เจนตินา / เกาหลีใต้ 2 – 0 เยอรมัน / ฝรั่งเศส 4 – 3 อาร์เจนตินา / เบลเยียม 2 – 1 บราซิล / ฝรั่งเศส 4 – 2 โครเอเชีย