ยังจำเหตุการณ์สำคัญในวัยเด็กของคุณได้ไหม พอนึกถึงความทรงจำต่อเพื่อน ๆ ในสมัยเรียนเมื่อไหร่ ภาพวันวานก็ยังคงตรึงอยู่ในจิตใจตลอดเสมอมาในวัยเด็กเรามักจะหากิจกรรมสนุก ๆ ไม่ว่าจะเป็น เกม กีฬา การละเล่น มาทำร่วมกันกับหมู่เพื่อน ๆ เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดจากการเรียนในช่วงพักกลางวันหรือช่วงเย็น สิ่งเหล่านี้นอกจากจะสร้างความสนุกสนานเพลิดเพลินแล้ว ก็ยังสร้างความสามัคคี ความคุ้นเคยในหมู่เพื่อนของเรา อีกทั้งกิจกรรมต่าง ๆ ที่เราได้ทำร่วมกันกับเพื่อน ๆ ยังเป็นส่วนหนึ่งในเมมโมรี่ความทรงจำที่จะคอยย้ำเตือนความผูกพันซึ่งกันและกันของเราท่านผู้อ่านหลายท่านคงเคยรู้จักกีฬาพื้นบ้านอย่าง “หมากเก็บ” กันมาบ้างแล้วนะครับ วันนี้ผู้เขียนจะขอนำเสนอเรื่องราวที่เรียกว่าเมื่อพูดถึงแล้ว ก็อาจทำให้หลาย ๆ ท่าน อยากย้อนเวลากลับไปนั่งกับพื้นทำกิจกรรมสวนเสเฮฮากันเพื่อน ๆ แบบนี้อีกครั้งเป็นแน่ครับหมากเก็บ คือการละเล่นของเด็ก ๆ ที่สมมุติเอาก้อนหิน ลูกไม้ หรือห่วงโซ่พลาสติก ลูกปัด มาเป็นหมาก สำหรับโยนและเก็บนั่นเองครับเจ้าหมากเก็บนั้นมีวิธีการเล่นที่แสนเรียบง่าย เริ่มแรกจะเป็นการทอย หรือที่เรียกว่า ขึ้นร้าน โดยผู้เล่นจะโยนหมากขึ้นเลยหัวแล้วใช้หลังมือรับและอีกวิธีหนึ่งคือโยนขึ้นแล้วใช้มือตวัดรับ แล้ววางให้กระจายลงพื้นหลังจากนั้นผู้เล่นก็จะหยิบหมากเก็บมา 1 ลูกแล้วโยนขึ้นเหนือหัว แล้วใช้มือเดิมหยิบหมากบนพื้นในขณะที่หมากลูกแรกลอยอยู่ จากนั้นก็จะใช้มือข้างเดียวกันกับที่หยิบหมากบนพื้นนั้นรอรับหมากที่กำลังจะตกลงมาหมากเก็บมักเรียกเป็นด่าน หรือเป็นแม่ บางที่ก็เรียกเป็นอี แล้วแต่พื้นที่ไป ในภาคเหนือมักเรียกเป็นแม่ เช่นแม่ 1 ก็เก็บ 1 ลูก โยน 1 ลูก ส่วนแม่ 2 ก็โยน เก็บ 2 ลูก โยน 1 ลูก ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงแม่ 5 แม่ 6 เลยก็มี ส่วนกติกาที่สำคัญก็คือห้ามให้ผู้เล่นหยิบโดนหมากลูกอื่นที่ตนเองไม่ได้ตั้งใจเก็บ หากโดนก็จะต้องเริ่มเล่นแม่ 1 ใหม่ หมากเก็บนอกจากจะเป็นกีฬาพื้นบ้านที่สร้างความสนุกสนาน สามัคคีแล้ว ยังเป็นการฝึกฝนสมาธิ การสังเกต รวมถึงการอวดความสามารถ และชื่นชมความสามารถของผู้อื่นอีกด้วยข้อสำคัญของการเล่นหมากเก็บที่ผู้เขียนชอบมากที่สุดคือ “เล่นแล้วก็เก็บ” ผู้เล่นจะรู้รักษาของ รู้ว่าหากจะนำอุปกรณ์มาเล่นในครั้งหน้าได้อีก ครั้งนี้ก็ต้องเก็บให้เรียบร้อย ไม่งั้นก็ต้องหาอุปกรณ์มาใช้เล่นอีกทุกครั้ง ซึ่งถือว่าสิ้นเปลืองอย่างมาก เราจึงมักพบเห็นเด็กชั้นประถมศึกษาพกหมากเก็บไว้ที่กระเป๋าเสื้อ หรือกระเป๋ากระโปรงเสมือนหนึ่งเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เครื่องหนึ่งติดตัวเลยทีเดียวครับ ภาพโดย : ผู้เขียน