สวัสดีค่าทุกคน วันนี้ก็ถือเป็นวันดีที่เราจะมาแชร์ประสบการณ์การย้อมผมแบบที่ไม่ใช่โฟมด้วยตัวเอง บวกกับการย้อมสีผมแบบแฟนซีครั้งแรกในชีวิต แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่าที่เราสามารถย้อมผมสีฉูดฉาดได้ ก็เพราะว่าตอนนี้เราเรียนมหาลัยอยู่ ซึ่งทางมหาลัยเองก็มีอิสระให้กับนิสิตได้จัดการกับผมหรือร่างกายตัวเองได้ตามสะดวกเนื่องจากหลาย ๆ คนบรรลุนิติภาวะแล้ว และสามารถดูแลร่างกายของตัวเองได้นั่นเองค่ะ แต่ก็ต้องดูความเหมาะสมกับสาขาที่เรียนด้วยนะคะ (รูปภาพโดยผู้เขียน) การย้อมผมครั้งนี้ของเรามันเริ่มจากที่เราได้ไปดูมิวสิควิดีโอเพลง Above the time ของ IU นักร้องเกาหลีในดวงใจของเรา ซึ่งในมิวสิควิดีโอนี้ IU ทำผมสีม่วงออกพาสเทลเล็ก ๆ หลังจากที่เราเห็นก็ได้แต่อุทานในใจว่า โอ้มายกอด ปังมากแม่ ปังจนอยากจะทำตามขึ้นมาทันที แต่มันก็ปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เราต้องคิดให้ดีก่อนที่จะทำ ทั้งการที่ไม่มีประสบการณ์การทำผมสีแนว ๆ นี้มาก่อน ทั้งแม่ไม่ค่อยอยากให้ย้อมผมซักเท่าไหร่ (แต่เราก็แอบกัดสีผมมาแล้ว ฮ่า ๆ ๆ) เพราะเเม่เป็นห่วงกลัวผมเราจะเสีย เราก็ครุ่นคิดมาได้ประมาณอาทิตย์หนึ่ง และสุดท้ายเราก็ตัดสินใจที่จะทำเพราะว่าเพื่อนคนหนึ่งได้บอกกับเราว่า "ถ้าอยากทำก็ทำเลย เดี๋ยวเรียนจบไปก็ไม่ได้ทำแล้วนะผมสีนี้อ่ะ" เออก็จริงของมัน เพราะส่วนใหญ่พอจบไปทำงานเเล้วนายจ้างก็คงไม่ค่อยชอบใจให้พนักงานทำผมสีฉูดฉาดซักเท่าไหร่นัก พอคิดได้อย่างเลิกเรียนเราก็ตรงไปซื้ออุปกรณ์ทันทีเลยค่ะ (รูปภาพโดยผู้เขียน) และอุปกรณ์ที่เราได้มาสำหรับการย้อมผมสีม่วงครั้งนี้ก็คือ ยาม่วง เยนเชี่ยนไวโอเลต ซึ่งเป็นยาที่มีสรรพคุณรักษาพวกเชื้อราทั้งภายในและภายนอกร่างกายที่คนส่วนใหญ่นิยมนำมาทาตามร่างกายนั่นเองค่ะ สรรพคุณอีกอย่างของมันก็คือยาย้อมผมดี ๆ นี่เอง ซึ่งเราได้มาในราคาเพียง 14 บาทเท่านั้น แม่เจ้า ครั้งนี้จะเป็นการย้อมผมที่ถูกที่สุดในชีวิตของเราเลย ได้ของสำคัญมาแล้ว ต่อมาไปดูวิธีทำกันเลยดีค่ะ (รูปภาพโดยผู้เขียน) ขั้นตอนเเรกเราก็เตรียมอุปกรณ์สำหรับการย้อมครั้งนี้ก่อนเลยค่ะ โดยจะมี ยาม่วง ครีมนวด ถ้วยผสม และถุงมือ ถุงมือนี่สำคัญมากเลยนะคะ เพราะอานุภาพการติดมือและเล็บของยาม่วงนับเป็นที่เลื่องลืออย่างมากในวงการการย้อมผม ว่ามันล้างไม่ออก ต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์เลยทีเดียวกว่ามันจะค่อย ๆ หลุดไป ขั้นตอนการย้อม (ฉบับเรา) 1. ผสมครีมนวดกับยาม่วงเข้าด้วยกัน ปริมาณยาม่วงตามต้องการ หากอยากได้สีม่วงที่เข้มหน่อยก็ใส่เยอะ แต่ถ้าหากอยากได้อ่อน ๆ ก็ใส่น้อย (รูปภาพโดยผู้เขียน) 2. จากนั้นก็ค่อย ๆ แบ่งผมออกเป็นช่อ และค่อย ๆ ย้อมทีละช่อจนทั่วหัว (รูปภาพโดยผู้เขียน) 3. เมื่อย้อมทั่วหัวแล้วให้พักไว้ 30 นาทีแล้วล้างออก ผลปรากฏว่าสีผมที่ออกมามันไม่ม่วงเลยค่ะซิส เพราะว่าเราใส่น้อยไป ใส่ยาม่วงไปแค่ครึ่งฝาเท่านั้น เพราะคิดว่าแค่นี้คงจะม่วงแล้ว มองไปมองมา มันไม่ได้อ่ะ มันต้องซ้ำอีกซักรอบ รอบนี้เราผสมสีม่วงลงไป 2 ฝาครึ่งกับครีมนวดประมาณครึ่งถ้วย สีที่ออกมาค่อนข้างเข้มทีเดียว เราลงมือย้อมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ขี้เกียจแบ่งเป้นช่อแล้ว ก็เลยทาไปเลยทั้งหัว คิดว่ามันทั่วอยู่นะ พอ 30 นาทีผ่านไป เราก็ได้ทำการล้างออก รอบนี้มาจ้า ม่วงแบบม่วงมาก แต่ม่วงเฉพาะช่วงโคนผม ส่วนปลายคือเทา ๆ เนื่องจากความขี้เกียจของเรานั่นเเหละ แต่จะบอกว่าถึงมันจะไม่เท่ากันทั้งหัว แต่เราก็ไม่รู้สึกว่ามันเเย่เลยค่ะ แต่กลับมองว่ามันสวย คือสีสวยมาก ๆ มันผสมกันในหัวมีทั้งสีเทาสีม่วงรวม ๆ ละคือดี คือตอนอยู่ในห้องที่ไม่ค่อยมีเเสงมันจะออกเป็นสีม่วงน้ำเงิน แต่พอโดนแสงหรือแดด จะมองเห็นเป็นม่วงชมพู เราแอบถ่ายลงสตอรี่ไอจีมีเพื่อนไดเรคมาว่าสวย ก็รู้สึกใจฟู ฮ่า ๆ ๆ และนี่คือรูป Before & After ค่ะ (รูปภาพโดยผู้เขียน) (รูปภาพโดยผู้เขียน) แต่ต้องบอกก่อนว่าสีม่วงที่ย้อมมานี้มันจะไม่ได้ติดแบบถาวร เพราะถ้าเราสระผมบ่อย ๆ ก็จะทำให้สีค่อย ๆ หลุดไปนั่นเองค่ะ แต่ข้อดีของมันเลยคือประหยัด และไม่ทำให้ผมเสียเหมือนยาย้อมผมที่เป็นสารเคมีทั่วไป หากใครกำลังคิดอยู่ว่าจะลองย้อมผมสีม่วง เราขอเชียร์เจ้าตัวยาม่วงนี่เลยค่ะ รับรองถูกใจแน่ ๆ แต่ถ้าอยากได้แบบสีเท่ากันทั้งหัวต้องหาคนมาย้อมให้นะคะ ย้อมเองมองไม่เห็นจริง ๆ สำหรับน้อง ๆ มัธยมถ้าอยากย้อมบ้างต้องรอช่วงปิดเทอมนะคะ แล้วก็อย่าลืมขออนุญาตผู้ปกครองก่อนจะทำด้วยน้า และสำหรับวันนี้เราขอตัวไปดัดผมเตรียมไปเรียนพรุ่งนี้ก่อนนะคะ สวัสดีค่า (รูปภาพปกจาก Pixabay : https://bit.ly/39BQbR4 )