รถ "Hop-On Hop-Off" เป็นยังไงนะ : What is the "Hop-On Hop-Off"? ในซีรี่ย์ลุยโลกกว้างที่ดานัง (ตอนที่ 6) highlights: ความดีงามพระรามแปดของโคโค่ วัดซวงหลินอึ๋งที่ไม่ได้ออกเสียงว่าซวงหลินอึ๋ง วิวข้างทางเมืองดานังที่สวยมากกกกกกกกก --------------------------------------------------------------------------------- หลังจากเมื่อตอนก่อนๆ [ลุยโลกกว้างที่ดานัง (ตอนที่ 5)] เราใช้ชีวิตอยู่ในดานังด้วยการนั่งชัทเทิลบัสบ้าง เดินบ้าง วันนี้เราจะได้มาลองนั่งรถสาธารณะอื่นกันแล้วววว *0* ซึ่งพาหนะที่เราจะนั่งก็คือ "รถบัสสองชั้น Hop-On Hop-Off" นั่นเอง หลายคนอาจจะไม่รู้จัก เราก็ไม่รู้จักเหมือนกัน 5555 คือหลังจากที่เราดูข้อมูลของรถสาธารณะต่างๆ ของเวียดนามแล้วเป็นอะไรที่ปวดตับมากกกก มันมีแอพบอกสายรถเมล์ท้องถิ่นนะ แต่เราไม่รู้ว่าป้ายที่จอดอยู่ตรงไหนบ้าง ใกล้อะไรบ้าง มันเสริซหาไม่เจอเลย แล้วเป็นภาษาเวียดนามหมดเลยเธอเอ๊ยยยย เดาไม่ได้เลยว่าที่นี่ที่ไหน บวกกับราคาไม่คงที่แล้วแต่กระเป๋ารถจะเรียกเก็บ โอ้แมรรร่ แล้วจะไปนู้นมานี่ด้วยการเรียก Grab เป็นอะไรที่บานปลายมากสำหรับการไปกันแค่สองคน ดังนั้นเราก็ต้องหาทางเลือกอื่น เราก็ค้นไปค้นมาจนมาเจอ "Coco City Tour" ซึ่งโคโค่เป็นทางเลือกที่ดีมากๆ ของเราเลย เพราะว่าเป็นรถที่จอดตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในเมืองดานัง แล้วก็มีไปจนถึงเมืองฮอยอันเลยด้วย จ่ายเหมาๆ จะขึ้นกี่เที่ยวลงกี่เที่ยวก็ได้ ก็จะมีให้เลือกแบบ 24 hr. 48 hr. เราซื้อมาในราคา 249฿/48hr. คือก่อนที่เราจะซื้อเราก็แชทไปถามเขาก่อนว่า 48 hr. นี่จะนับยังไง นับตามเวลาเที่ยงคืนของแต่ละวันเลยไหม เขาก็บอกว่าเราขึ้นครั้งแรกตอนกี่โมงก็นับไปอีกเลย 48 hr. ซึ่งมันช่วยให้เราประหยัดค่าเดินทางไปได้เยอะ โดยทริปนี้เราใช้บริการโคโค่ไป 9 ครั้ง คิดราคาต่อเที่ยวก็ประมาณเที่ยวละ 28 บาทเอง *0* (เครดิตภาพจาก Try to try ก็แค่ออกไปลอง) และนี่คือหน้าตาของโคโค่ จะมีส่วนที่เป็นห้องแอร์ กับส่วนที่ชมวิวได้แต่ร้อนมากกก แนะนำให้ไปนั่งช่วงตอนแดดร่มลมตก (เครดิตภาพจาก Try to try ก็แค่ออกไปลอง) เราไปรอขึ้นรถครั้งแรกที่ตลาดฮานตอน 11.00 พนักงานเขาจะถามว่าเราจะไปไหน คือจากที่ดูไปเราคิดว่าอาจจะต้องเปลี่ยนสายรถเองอะไรเอง แต่พอไปถึงจริงๆ คือพนักงานเขาประสานให้หมดเลยว่าเราต้องไปเปลี่ยนสายรถที่ไหน ง่ายแบบแค่รู้ว่าเราจะไปไหนก็พอ ที่เหลือพนักงานทำให้หมดแล้ว พอบอกจุดหมายปลายทางเสร็จ เขาก็จะให้ตั๋วเรามาก็ต้องเก็บไว้ดีๆ ห้ามหาย ใช้ได้ 48 hr. เชียวนะ (เครดิตภาพจาก Try to try ก็แค่ออกไปลอง) จุดหมายปลายทางที่เราจะไปคือวัดซวงหลินอึ๋ง คนไทยทุกคนออกเสียงแบบนี้จ้าาา เราก็มั่นใจมากว่าออกเสียงแบบนี้ ปรากฏพนักงานงง 55555555 ดูจากตารางเดินรถของโคโค่รอบก็ต่อไปก็คือตอนเที่ยงตรง กับวัดซวงหลินอึ๋งที่กว้างมากกกกกก ไม่รู้จะทันรถรอบเที่ยงตรงไหมนะ ต้องลองเดินก่อน แล้วก็ตามทำเนียมของคนที่จะไม่ได้รูป อีกแล้วววว (_ _") เราก็ถ่ายรูปให้เพื่อนเราก่อนเหมือนเดิม พอเราจะถ่ายบ้าง เขาก็ยกครอบครัวเรียกกันมาถ่ายเลยจ้าาา 5555555555 ไม่ถ่ายแล่ววว งอนนน (เครดิตภาพจาก Try to try ก็แค่ออกไปลอง) แล้วด้วยความใกล้เที่ยง อากาศมันร้อนมากกกกกกกก เราก็เลยมองๆ หาที่นั่งพัก แล้วใกล้ๆ กันมันมีร้านค้าด้วย ราคาไม่ชาร์จเพิ่ม คือดีงาม หยิบเน็ตขึ้นมานั่งเล่นเพลินๆ หลังจากที่เมื่อวานมันใช้ไม่ได้ วันนี้ไม่รู้ทำไมใช้ได้เฉย นั่งไปสักพักเหมือนฝรั่งเขาไม่เคยเห็นลิง หยิบมือถือมาถ่ายรูปกันใหญ่ 5555 เราก็เลยไปถ่ายกับเขาบ้าง (เครดิตภาพจาก Try to try ก็แค่ออกไปลอง) หลักๆ ที่นี่มันคือวัด มันก็จะมีอะไรที่เป็นวัดอะนะ (เครดิตภาพจาก Try to try ก็แค่ออกไปลอง) แต่ไฮไลท์ที่ดั้นด้นมาที่นี่ซึ่งอยู่ไกลจากเมืองดานังมากๆ คือ "วิวข้างวัด" เป็นอะไรที่ดีงามพระรามแปดมากกกกก (เครดิตภาพจาก Try to try ก็แค่ออกไปลอง) มีภาพกว้างหลายมุมเลยแหละ ต้องมาเดินให้ทั่ว (เครดิตภาพจาก Try to try ก็แค่ออกไปลอง) สุดท้ายเราก็ทันโคโค่รอบเที่ยงตรงด้วย วิวข้างทางเป็นอะไรที่ควรค่าแก่การมานั่งชมเมืองจริงๆ ผ่านทั้งท่าเรือ ทั้งสะพาน มันเป็นเส้นทางที่คนอื่นไม่ค่อยมากัน (เครดิตภาพจาก Try to try ก็แค่ออกไปลอง) แล้วเราก็กลับมาหลบร้อนที่ Hostel ก่อน ระหว่างทางเข้าแอบเห็นร้านขายขนมปังฉบับเวียดนามที่เขาเรียกกันว่า "บั๋นหมี่" ก็เลยซื้อมาลองชิมดู ราคาก็ไม่แพง 20.000 VND เอง แล้วก็มาชิมกาแฟแก้วที่ 3 ของวันนี้ที่ Hostel 555555 กาแฟเวียดนามมีขึ้นชื่อหลายอย่าง ทั้งกาเฟเสือด๊า (Café Sua Da) กาแฟไข่ แล้วก็กาแฟมะพร้าว ไหนๆ มาแล้วก็ต้องลองให้หมด (เครดิตภาพจาก Try to try ก็แค่ออกไปลอง) พอแดดร่มลมตกสักหน่อยเราก็มายืนรอโคโค่อยู่ที่เดิมก็คือป้ายตลาดฮาน จริงๆ ป้ายไหนก็ได้นะ แต่ป้ายตลาดฮานอยู่ใกล้เราที่สุด ถ้าหันหลังให้ตลาดเราจะเจอวิวแม่น้ำฮานที่สวยมากกกกก (เครดิตภาพจาก Try to try ก็แค่ออกไปลอง) และที่ต่อไปที่เราจะไปเพราะว่าเราอยากไปขึ้นลิฟท์แก้วที่ Mable mountain แค่นั้นเลย 5555 แต่ป้ายจอดโคโค่อยู่ไกลมากกกกกกก เราก็เลยต้องเดินต่อเข้าไปอีกหน่อยนึง ซึ่งก็ไม่ต้องกลัวหลงใดใดเพราะเราจะมองเห็นลิฟท์แก้วเด่นเป็นสง่าอยู่ข้างหน้านั่นเอง (เครดิตภาพจาก Try to try ก็แค่ออกไปลอง) ส่วนวิวในลิฟท์แก้วจะสวยแค่ไหนยังไง ติดตามได้ใน [ลุยโลกกว้างที่ดานัง (ตอนที่ 7)] หรือติดตามการเดินทางอื่นๆ ของเราได้ที่ เพจ "Try to Try ก็แค่ออกไปลอง" แล้วจะรู้ว่าการก้าวออกจาก Comfort zone ของตัวเองมันสนุกแค่ไหน