รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะที่มียอดนิยมสูง ด้วยความที่ราคานั้นสามารถเข้าถึงและจับต้องได้ ในบรรดาบุคคลทั่วไป อีกทั้งยังมีความรวดเร็วความคล่องตัวมากกว่ารถยนต์เป็นหลายเท่า ด้วยเหตุนี้เองจักรยานยนต์จึงเป็นที่นิยมอันดับต้นๆ ของยานพาหนะเลยก็ว่าได้ แต่จะมีกี่ท่านที่เป็นผู้ใช้ผู้ขับขี่ที่ดูแลรถจักรยานยนต์ของตัวเองได้อย่างถูกต้องและถูกวิธีกัน วันนี้จะพาทุกท่านมารู้จักว่า รถจักรยานยนต์ 4 จังหวะ น้ำมันเครื่องแห้งร้ายแรงแค่ไหน และมีผลอย่างไรกันครับทำไมต้องระบุว่ารถจักรยานยนต์ 4 จังหวะ เนื่องจากรถจักรยานยนต์นั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ระบบ คือ ระบบ 2 จังหวะ หรือ 2T โดยใช้น้ำมัน 2T เติมลงในถังน้ำมัน 2T ทำทำแยกไว้ เพื่อใช้ในการหล่อลื่นลูกสูบในห้องเผาไหม้ ส่วนน้ำมันเครื่องก็ใช้ 4T ในการหล่อลื่นระบบเฟืองเกียร์ในห้องเครื่องยนต์ จึงแทบไม่มีโอกาสที่น้ำมันเครื่องในจักรยานยนต์ 2 จังหวะจะแห้งได้เลย แต่ควรเปลี่ยนถ่ายตามระยะเวลาที่กำหนดเพราะการหล่อลื่นก็จะลดลงเลื่อยๆ สังเกตเวลาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องระบบ 2 จังหวะ สีน้ำมันจะยังคงใสเหมือนใหม่อยู่เลยแต่ความหนืดหรือการหล่อลื่นจะลดลง เรียกได้ว่าไหลเป็นน้ำเปล่าเลยก็ว่าได้ถ้าหมดสภาพแล้ว เหตุผลที่น้ำมันเครื่องไม่ดำเพราะไม่ได้เข้าไปหล่อลื่นลูกสูบในห้องเผาไหม้เหมือนรถจักรยานยนต์ระบบ 4 จังหวะนั่นเองและในส่วน ระบบ 4 จังหวะ หรือ 4T นั้นจะใช้น้ำมันเครื่องมาหล่อลื่นลูกสูบในห้องเผาไหม้ร่วมกับใช้หล่อลื่นระบบเฟืองเกียร์ภายในห้องเครื่องยนต์ด้วย จึงทำให้นำมันเครื่องของรถจักรยานยนต์ระบบ 4 จังหวะนั้นดำและแห้งไวนั่นเองครับเมื่อเราทราบที่ไปที่มาของน้ำมันเครื่องแล้ว ทีนี้เรามาดูกันนะครับว่าผลกระทบเมื่อน้ำมันเครื่องแห้งจนหมดนั้นเป็นอย่างไรกันครับสิ่งแรกที่ได้รับผลกระทบเลยก็คือ วาล์วไอดี ไอเสีย เมื่อไม่มีน้ำมันเครื่องมาหล่อลื่นก็จะทำให้บ่าวาล์วนั้นกระทบกันกับเสื้อวาล์วจนเป็นรอยทำให้วาล์วรั่ว ไม่มีกำลังอัด จุดระเบิดในห้องเผาไหม้ไม่ได้ ก็คือสตาร์ทเครื่องไม่ติด หรือติดแล้วบิดไปก็วูบดับ ส่วนใหญ่อาการนี้จะเกิดกับรถที่ใช้งานไม่หนัก ขับขี่เบาๆ ทั่วไปก็จะทำให้วาล์วรั่วและไม่สามารถใช้งานรถได้ต้องนำไปซ่อมก่อนทีนี้มาดูเมื่อหากเราใช้รถจักรยานยนต์ด้วยความเร็วหรือใช้งานหนักๆ อยู่แล้วน้ำมันเครื่องเกิดแห้ง สิ่งที่ตามมานั้นรุนแรงและอันตรายมากๆ ครับ นั่นก็คือ ลูกสูบติด เพราะสภาพภายในห้องเผาไหม้และห้องเครื่องยนต์นั้นมีความร้อนสูง ทำให้เกิดการไหม้ภายในห้องเครื่องลูกสูบก็จะติดและเสียดสีกับกระบอกลูกสูบขยับไม่ได้ทำให้เป็นรอย และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเพราะรถจะหยุดทันทีเมื่อลูกสูบติด ถ้าโชคดีรถก็แค่ดับไปและสตาร์ทไม่ได้ เครื่องจะติดไม่หมุนอีกเลยเมื่อหยุดแล้วนั่นเองจึงจำเป็นต้องทำการคว้านกระบอกสูบและเปลี่ยนลูกสูบใหม่ครับถ้าหากใช้ความเร็วมากๆ ไม่ใช่แค่ชุดลูกสูบและวาล์วที่จะเสียหาย ยังรวมไปถึงชุดเฟืองต่างๆ ภายในห้องเครื่องอีกด้วย ฉะนั้นแล้วอยากจะแนะนำทุกท่านให้ตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่องให้เป็นประจำก่อนการใช้งานรถนะครับ อย่าไปกลัวสิ้นเปลืองเพราะจะเข้ากับคำที่โบราณกล่าวไว้ว่า "เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย" เอานะครับ ภาพโดยผู้เขียนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !