วันหยุดนี้ไปไหนดี? ไม่ไกลกรุงเทพฯ แต่ก็หลีกหนีความวุ่นวายในเมืองใหญ่ได้ จะมีที่ไหนเหมาะเจาะไปกว่า "นนทบุรี" ได้อีก.. สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากหาคาเฟ่สงบ ๆ ไม่แออัดวุ่นวาย แต่ก็ไม่เดินทางไกลจนเกินไป ที่สำคัญคือสวยชิค เหมาะกับการเช็คอิน ถ่ายรูปสวย ๆ ลง Insragram ให้เพื่อนอิจฉา มารู้จักกับ 5 คาเฟ่น่านั่งในย่านนนทบุรีกันค่ะ รับรองว่านอกจากความเก๋ความชิคแล้ว เรื่องของรสชาติก็ไม่ผิดหวังแน่นอน ไปดูกันเลยค่ะว่ามีที่ไหนบ้าง 1. Foreste' Cafe By ANNA-NAVA 🌿 คาเฟ่สีเขียวที่เหมือนหลุดเข้าไปในป่าอเมซอน สมกับชื่อ Foreste' Cafe ตั้งอยู่ที่ย่านปากเกร็ด ตกแต่งด้วยสไตล์ Glass House หรือเรือนกระจก ห้อมล้อมด้วยสวนที่จัดแบบธรรมชาติ ให้บรรยากาศคล้ายป่า มีพัดลมไอน้ำคอยเป่าให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในม่านหมอก พร้อมน้ำตกเล็ก ๆ ในสวน นั่งอ่านหนังสือไป ฟังเสียงน้ำไหลไป เพลินใจอย่าบอกใครเลยล่ะค่ะ เครื่องดื่มและอาหารทานเล่นรสชาติดีทีเดียว ราคาอยู่ที่ประมาณ 70 - 150 มี Wi-fi สำหรับลูกค้า บรรยากาศกว้างขวาง สามารถไปได้โดยไม่ต้องจองล่วงหน้าค่ะ มุมถ่ายรูปสวย ๆ เยอะมาก สีเขียวให้ความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย เหมาะกับการพักผ่อนเยียวยาจิตใจ นั่งได้ทั้งวันก็ไม่เบื่อค่ะ 📍พิกัด GPS : กดที่นี่ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 07.00 - 18.00 น. โทร : 081-9094031 Facebook Fanpage : Foreste’ cafe by anna-nava 2. RONGSI STUDIO โรงสี สตูดิโอ ⛴💨 "Rongsri Studio - โรงสี สตูดิโอ" เป็นคาเฟ่สไตล์รัสติก สร้างขึ้นจากโครงสร้างเดิมที่เป็นโรงสีเก่าอายุกว่า 100 ปี นำมาปรับปรุงใหม่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ ให้ความคลาสสิค และสดชื่นด้วยสีเขียวของต้นไม้ สุดชิคอย่าบอกใครเลยล่ะค่ะ โรงสี สตูดิโอ ตั้งอยู่ริมน้ำที่เกาะเกร็ด จึงต้องนั่งเรือข้ามฟากไปจากท่าเรือปากเกร็ดค่ะ ค่าเรือข้ามฟากราคา 10 บาท ได้ประสบการณ์และวิวดี ๆ ระหว่างข้ามเรือด้วยล่ะค่ะ คาเฟ่เป็นทั้งร้านอาหารไทย และคาเฟ่ขนมหวาน-เครื่องดื่ม บรรยากาศกว้างขวาง มีให้เลือกโซนนั่งตามใจชอบค่ะ อยากจะนั่งในห้องแอร์เย็น ๆ หรืออยากจะออกไปนั่งรับลมริมน้ำ ได้แอร์ธรรมชาติ และบรรยากาศหลักล้าน โดยเฉพาะหากไปช่วงเย็นก่อนพระอาทิตย์ตกดิน จะสวยเป็นพิเศษเลยล่ะค่ะ อาหารและเครื่องดื่มที่นี่ไม่ได้มีเพียงเมนูกาแฟและขนมหวานเหมือนคาเฟ่ทั่วไป แต่เป็นร้านอาหารไทยที่มีสไตล์เฉพาะตัว และรสชาติดีเลิศมาก ๆ เมนูเด็ดของร้านคือกุ้งแม่น้ำเผา และปลานึ่งมะนาว เสิร์ฟบนถาดสังกะสีแบบดั้งเดิม ให้บรรยากาศคลาสสิคสุด ๆ ไปเลย เป็นอีกที่หนึ่งที่เหมาะสำหรับจัดงานสังสรรค์รื่นเริงเป็นหมู่คณะ หรือจะมาเสพบรรยากาศอย่างเดียวก็คุ้มแล้วค่ะ 📍พิกัด GPS : กดที่นี่ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 - 22.00 น. โทร : 081-9094031 Facebook Fanpage : Rongsi Studio โรงสี สตูดิโอ 3. The Old School : Specialty Coffee 🍧🍀 คาเฟ่เรือนกระจกอีกแห่งสำหรับสายรักธรรมชาติ มีกลิ่นอายสไตล์วินเทจสมกับชื่อคาเฟ่ ล่าสุดเพิ่งได้รับรางวัล Wongnai User's Choice 2020 ไปหมาด ๆ การันตีคุณภาพน่าสนใจทีเดียว ขึ้นชื่อว่าเรือนกระจก แน่นอนว่าต้องมีต้นไม้ดอกไม้ปลูกภายในคาเฟ่แน่นอน และดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของ The Old School : Specialty Coffee ก็คือดอกกุหลาบค่ะ ต้นกุหลาบหลากหลายสายพันธุ์ถูกปลูกในเรือนกระจก มีโซนของน้ำตกจำลอง และบ่อปลาสวยงาม ให้ความสดชื่นทั้งบรรยากาศ และสดชื่นต่อใจของแขกที่แวะมาเยี่ยมเยียนคาเฟ่แห่งนี้ ที่สำคัญคือคนไม่เยอะจนเกินไป สงบ เหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจวันหยุดมาก ๆ ค่ะ จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของ The Old School : Specialty Coffee คือความหลงใหลในรสชาติของเมล็ดกาแฟ เจ้าของร้านให้ความใส่ใจกับรสชาติและกระบวนการชงกาแฟ ตั้งแต่การคัดสรรเมล็ดกาแฟคุณภาพที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร ไปจนถึงกรรมวิธีในการชงสกัดที่มีมาตรฐานและทันสมัย เมนูขึ้นชื่อที่เป็น Signature ของที่นี่ที่ไม่ควรพลาดเลยคือ Drip Coffee, Cold Brew Coffee, Hot Latte และเมนูประยุกต์อย่าง Emotion, Make Love และ Dirty ค่ะ เรียกว่าใครที่เป็นคอกาแฟตัวจริงต้องไม่พลาดมาที่นี่ให้ได้เลยค่ะ แต่แม้จะไม่ชอบดื่มกาแฟ ที่นี่ก็มีเมนูเครื่องดื่มอื่น ๆ และเบเกอรี่รสชาติดีให้ลิ้มลองหลากหลายเมนู ราคาอยู่ที่ประมาณตั้งแต่ 60-250 บาทค่ะ 📍พิกัด GPS : กดที่นี่ ใกล้ MRT สถานีตลาดบางใหญ่ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00 - 18.00 น. โทร : 063-5296564 Facebook Fanpage : The Old School : Specialty Coffee 4. TANWA The Food Project 🍰🍃 คาเฟ่สไตล์มินิมอลที่กำลังมาแรงในปีนี้ ตกแต่งร้านแบบกึ่ง Loft กึ่ง Modern เน้นสีเอิร์ธโทนที่กำลังเป็นเทรนด์ ตัดกับเฟอร์นิเจอร์ลายไม้สีน้ำตาล ทำให้บรรยากาศร้านดูสว่างสบายตา เหมาะมากกับการถ่ายรูปชิค ๆ อัพลง IG รสชาติกาแฟก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าภาพลักษณ์เลยค่ะ ละมุนกลมกล่อม ลงตัวมาก ๆ นั่งจิบในร้านก็ได้บรรยากาศแบบมูจิสุด ๆ ในส่วนของอาหาร นอกจากอาหารไทยแล้วยังมีเมนูอาหารอิตาเลี่ยนที่หาทานได้ยากจากคาเฟ่อื่น รวมไปถึงอาหารเพื่อสุขภาพหลากหลายเมนู เมนูแนะนำของที่นี่คือ "ข้าวปลาแซลมอนลุยสวน" เนื้อปลาแซลมอนชิ้นใหญ่กรอบนอกนุ่มในที่มาพร้อมกับเครื่องยำสมุนไพร เคียงมากับข้าวสังข์หยดพัทลุงแบบปลอดสาร และยังใช้ลูกเกดสีทองเพื่อให้ความหวานแทนน้ำตาล คลีนมาก เอาใจคนรักสุขภาพสุด ๆ ราคาอาหารและเครื่องดื่มที่นี่จะอยู่ที่ประมาณ 80-250 บาทค่ะ ไม่แพงเลยหากเทียบกับคุณภาพที่ได้ TANWA The Food Project นอกจากจะเป็นคาเฟ่อาหารและเครื่องดื่มแล้ว ที่นี่ยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ TANWA หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแต่งกาย เครื่องครัว และของแตกแต่งบ้านในสไตล์เดียวกันกับร้านเลยค่ะ สีเอิร์ธโทน เรียบ ๆ แต่เก๋ ถูกใจสายมินิมอลแน่นอน ในส่วนของคาเฟ่นั้นเป็นอีกหนึ่งโปรเจคของแบรนด์ TANWA ค่ะ จึงได้ชื่อว่า The Food Project นั่นเอง เป็นอีกหนึ่งคาเฟ่ที่แนะนำจริงว่าต้องมาสักครั้งจริง ๆ กลับไปบ้านจะได้แรงบันดาลใจในการจัดบ้านแน่นอนค่ะ ฮ่า ๆ 📍พิกัด GPS : กดที่นี่ เปิดให้บริการวันอังคาร-อาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) เวลา 11.00-20.00 น. วันศุกร์-เสาร์ เวลา 11.00-22.00 โทร : 02-0064455 Facebook Fanpage : TANWA The Food Project 5. Pliew Cafe' ~ 🍰🍃 Plieu Cafe' (พริ้ว) คาเฟ่เล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมลับแห่งหนึ่งย่านสนามบินน้ำ แต่รับรองว่าใครเข้ามาเจอแล้วหาทางออกได้แน่นอน ด้วยสน่ห์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เรียบง่ายแต่นั่งแล้วสบายใจ ตกแต่งสไตล์ Loft กลิ่นอายวินเทจ ตัวคาเฟ่มี 2 ชั้น แต่ด้วยความนิยมคนจึงแน่นขนัดอยู่แทบทุกวัน เมนูกาแฟของที่นี่ขึ้นชื่อว่าเด็ด กาแฟหอมละมุนมาก ๆ หากได้ลองสักครั้งต้องมีครั้งต่อไปแน่นอน นอกจากกาแฟและเครื่องดื่มที่หอมหรุ่นละมุนลิ้นแล้ว เมนูเบเกอรี่และไอศครีมของที่นี่จัดว่าโดดเด่นและเป็นจุดขายทีเดียวค่ะ โดยเฉพาะเมนูวาฟเฟิลไอศครีมรสต่าง ๆ ตกแต่งหน้าตาของแต่ละเมนูได้น่าประทับใจมาก ใครสายถ่ายรูปต้องไม่พลาดไปชักภาพลง IG เลยค่ะ ราคาโดยรวมจะอยู่ที่ประมาณ 70-250 บาทค่ะ อาจจะสูสีกับคาเฟ่ในเมือง แต่เมื่อเทียบกับรสชาติและคุณภาพแล้ว คุ้มแน่นอน ที่สำคัญคือบริการจากร้านน่ารักมาก ๆ พนักงานยิ้มแย้มเป็นกันเอง ให้ความสบายใจในการมาเยี่ยมเยียนจนกลายเป็นลูกค้าประจำแบบไม่รู้ตัวเลยล่ะค่ะ แต่อาจจะหาที่จอดรถยากนิดหน่อย เพราะร้านอยู่ในซอยเล็กมาก งานนี้ต้องใช้เทคนิคส่วนตัวกันแล้วล่ะค่ะฮ่า ๆ 📍พิกัด GPS : กดที่นี่ เปิดให้บริการวันอังคาร-อาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) เวลา 09.00-19.00 น. วันศุกร์-เสาร์ ให้บริการถึง 19.30 น. โทร : 081-4071245 Facebook Fanpage : Plieu Cafe' แต่ละที่น่าไปสุด ๆ เลยใช่ไหมล่ะคะ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เลย เดินทางสะดวกแน่นอน วันหยุดที่ไม่รู้จะทำอะไร อย่าลืมแวะไปเช็คอิน ถ่ายรูปสวย ๆ ลง IG อวดเพื่อน ๆ กันค่า~ :) เรื่อง : ดารัณ พันสวะนัด (ผู้เขียน) ขอบคุณภาพประกอบทั้งหมดจาก Facebook Fanpage ของร้านตาม Link ที่ให้ไว้ค่ะ