นิทานคืออะไร?นิทานคือโลกแฟนตาซีที่แสนโหดร้าย ที่วาดให้ขัดกับความป่าเถื่อนรุนแรงของโลกความเป็นจริง - โกมุนยอง มาทำความรู้จักกับนิทานสุดดาร์กที่อ่านแล้วไปจี้จุดหัวใจ จากข้อคิดที่ถูกแฝงเอาไว้มากมายจากเรื่อง It's okay to Not Be okay เรื่องหัวใจ ไม่ไหวอย่าฝืน นิทานของโกมุนยอง (เกริ่นเรื่อง) กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในปราสาทลึกเข้าไปในป่าแห่งหนึ่ง มีสาวน้อยโฉมงามอาศัยอยู่ วันหนึ่งสาวน้อยที่ทั้งเหงาและเบื่อเพราะมักจะอยู่คนเดียว ได้ออกจากปราสาทเพื่อไปหาเพื่อนเล่นด้วย แต่ไม่ว่าเธอจะให้ของขวัญดีเลิศมากแค่ไหน ก็ไม่มีใครยอมรับเธอ สาวน้อยรู้เหตุผลในตอนหลังว่าเธอคือ ‘สัตว์ประหลาดที่มีเงาแห่งความตายติดตาม’ เธอถูกเรียกว่าอย่างนั้น “สัตว์ประหลาดล่ะ สัตว์ประหลาด” สาวน้อยโกรธทุกคนบนโลกใบนี้มาก เธอต้องการระบายโทสะใส่ใครสักคน เธอตกปลาเพื่อหวังระบายโทสะ แต่แล้วเธอกลับได้ช่วยชีวิตเด็กหนุ่มผู้หนึ่งจากความตายโดยไม่ตั้งใจ หลังจากที่ช่วยชีวิตเด็กหนุ่มผู้นี้ขึ้นมา เงาน่าหวาดกลัวที่คอยตามเธออยู่ตลอดก็หายไปอย่างน่าประหลาด จนเด็กหนุ่มกลายเป็นผู้ที่คอยเดินตามเธอเสมอ ไม่ว่าจะไปที่ใด เขาก็จะเดินตามเธอไป วันหนึ่งสาวน้อยถาม “นี่ นายจะอยู่ข้างฉันตลอดไปใช่ไหม ?” เด็กหนุ่มตอบว่า “แน่นอน ฉันจะไม่หนีไปไหนเด็ดขาด” สาวน้อยฉีกผีเสื้อออกเป็น 2 ส่วนพร้อมกับดวงตาที่ว่างเปล่าแล้วถามขึ้นว่า “ต่อให้เป็นแบบนี้น่ะเหรอ” เด็กหนุ่มเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งหนีไปทันที หลังจากนั้นเงาแห่งความตายก็กลับมาหาสาวน้อยที่เหลืออยู่ตัวคนเดียวอีกครั้ง และกระซิบบอกเธอว่า “ไม่มีใครอยู่เคียงข้างแกได้หรอก เพราะว่าแกเป็นสัตว์ประหลาด อย่าลืมความจริงข้อนี้ล่ะ เข้าใจไหม ?” สาวน้อยตอบกลับไปว่า “ค่ะ...แม่”เด็กน้อยผู้โตมาด้วยฝันร้าย (The Boy Who Fed on Nightmares)หนุ่มน้อยคนหนึ่งมักจะตื่นขึ้นจากฝันร้ายทุกคน วันนี้หนุ่มน้อยก็ตื่นขึ้นจากฝันร้ายที่น่าหวาดกลัวอีกเช่นเคย เพราะความทรงจำในอดีตที่อยากจะลืมตามมาหลอกหลอนทุกคืน หนุ่มน้อยเลยต้องทนทุกข์ทรมานอย่างไม่สิ้นสุด วันหนึ่งเขาจึงไปขอพรกับแม่มดแล้วว่า “ท่านแม่มด ได้โปรดเถอะเพื่อไม่ให้ผมฝันร้ายอีก ช่วยลบความทรงจำเลวร้ายทั้งหมดในหัวผมที แล้วผมจะมอบทุกอย่างที่ท่านต้องการให้” วันเวลาผ่านไป เมื่อหนุ่มน้อยเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ก็ไม่ฝันร้ายเหมือนเช่นเคยอีก แต่เขากลับไม่เคยมีความสุขเลยสักนิดเดียว คืนหนึ่งเมื่อจันทร์เต็มดวงสีเลือดลอยเด่น แม่มดก็ได้ปรากฎตัวอีกครั้งเพื่อกลับมารับข้อแลกเปลี่ยนจากพรที่ให้ไป แต่เด็กน้อยคนนั้นกลับตะโกนใส่แม่มดอย่างคับแค้นใจว่า “ลบความทรงจำเลวร้ายของผมไปหมดแล้ว แต่ทำไมผมยังไม่มีความสุขอีก!!!” แต่หลังจากนั้นแม่มดก็เอาวิญญาณของเขาไปตามที่ได้ตกลงกันไว้แล้วพูดขึ้นว่า “ความทรงจำที่เจ็บปวดและทุกข์ทรมาน ความทรงจำที่เสียใจอย่างสุดซึ้ง ความทรงจำที่ทำให้คนอื่นและตัวเองเจ็บปวด ความทรงจำของการถูกทอดทิ้ง มีแค่คนที่เก็บความทรงจำเหล่านั้นไว้ในใจและใช้ชีวิตต่อไป ที่จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น มุ่งมั่นมากขึ้น และสุขุมกว่าเดิมได้ ความสุขน่ะ มีแต่คนเหล่านั้นที่จะได้มันไปครอง เพราะฉะนั้นอย่าลืมแล้วผ่านมันไปให้ได้ ถ้าผ่านมันไปไม่ได้ เธอก็จะเป็นแค่เด็กน้อยที่จิตวิญญาณไม่เติบโตเท่านั้นเอง”เด็กน้อยซอมบี้ (Zombie Kid)เด็กชายคนหนึ่งเกิดในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง เขาเป็นเด็กที่แตกต่างจากคนอื่นทั่วไป เพราะเขามีผิวขาวซีดและมีลูกตาที่โตมากกว่าเด็กคนอื่น เมื่อเด็กน้อยคนนั้นโตขึ้น แม่ของเขาก็รู้ได้เองว่าเด็กคนนี้ไม่มีความรู้สึกใดๆ เป็นแค่เพียงซอมบี้ที่ต้องการอาหารมาหล่อเลี้ยงเท่านั้น ดังนั้นเพื่อไม่ให้คนในหมู่บ้านรู้ แม่จึงเอาเขาขังไว้ในห้องใต้ดิน และเธอจะแอบไปขโมยสัตว์เลี้ยงบ้านอื่นมาให้ลูกกินทุกคืน เธอแอบเลี้ยงเขาเช่นนั้นเรื่อยมา วันหนึ่งขโมยไก่ อีกวันเป็นหมู ผ่านไปหลายปี จนอยู่มาวันหนึ่งโรคระบาดมาเยือนหมู่บ้าน สัตว์เลี้ยงและผู้คนก็ตายที่เหลืออยู่พากันตายไปมาก ส่วนคนที่เหลือรอดก็พากันหนีออกจากหมู่บ้าน แต่แม่ที่ไม่สามารถทอดทิ้งลูกของเขาไปได้ ในที่สุดแม่จึงตัดขาข้างหนึ่งของตัวเองให้ลูกกิน วันต่อมาก็ตัดแขนหนึ่งข้าง ค่อยๆ ตัดทีละอย่างไปจนหมด และเมื่อเธอเหลือเพียงลำตัว เธอโผเข้าสู่อ้อมกอดของลูกน้อยเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อมอบร่างที่เหลือของตัวเองให้แก่ลูกของเธอ ลูกน้อยกอดแม่ที่เหลือแต่เพียงลำตัวแน่นด้วยแขนทั้งสองข้าง แล้วพูดออกมาเป็นครั้งแรกว่า “แม่ช่างอบอุ่นเหลือเกิน” เจ้าหมาในวันใบไม้ผลิกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีหมาน้อยตัวหนึ่งที่เก็บซ่อนความรู้สึกได้เก่งมาก เจ้าหมาน้อยใช้ชีวิตโดยการถูกผูกไว้ใต้ต้นไม้ซึ่งมีร่มเงาปกคลุม มันมักจะกระดิกหาง และยังน่ารักน่าเอ็นดูอีกด้วย ผู้คนในหมู่บ้านเรียกมันว่า ‘เจ้าหมาในวันใบไม้ผลิ’ แต่เจ้าหมาที่เล่นกับเด็กๆ อย่างสนุกสนานในตอนกลางวัน กลับส่งเสียงครางและแอบร้องไห้ในตอนกลางคืนเสมอ ความจริงแล้ว เจ้าหมาในวันใบไม้ผลิก็อยากจะปลดเชือกที่ถูกล่ามไว้ และไปวิ่งเล่นในทุ่งกว้างของฤดูใบไม้ผลิ แต่เพราะมันไม่สามารถทำแบบนั้นได้ จึงร้องไห้อย่างเศร้าสร้อยทุกคืน วันหนึ่งหัวใจกระซิบถามเจ้าหมาในวันใบไม้ผลิว่า “นี่ ทำไมนายไม่ปลดเชือกที่ล่ามไว้แล้วหนีไปซะล่ะ” เจ้าหมาในวันใบไม้ผลิตอบกลับว่า “ฉันโดนผูกมานานมาก เลยลืมวิธีปลดเชือกไปแล้ว” นิทานจากเรื่อง It's okay to Not Be okay ถือว่าเปี่ยมไปด้วยข้อคิดมากมาย อีกทั้งยังให้มุมมองของโลกนิทานที่ไม่ได้มีแค่เจ้าหญิง เจ้าชาย หรือจุดจบอย่าง Happy Ending เสมอไป ดังเช่นที่โกมุนยอง - นางเอกของเรื่อง ได้กล่าวว่านิทานไม่ใช่ยากดประสาทที่ช่วยมอบความหวังและความฝัน แต่เป็นยากระตุ้นให้เผชิญกับความเป็นจริง เพราะงั้นทุกคนได้โปรดอ่านนิทานเยอะๆ แล้วตื่นจากฝันสักทีนะคะสามารถติดตามซีรีย์เรื่อง It's okay to Not Be okay เรื่องหัวใจ ไม่ไหวอย่าฝืน (2020) ได้ทาง TVN และ Netflix ขอขอบคุณรูปประกอบปก/ รูปประกอบที่1/ รูปประกอบที่2/ รูปประกอบที่3/ รูปประกอบที่4