"บทสวดมนต์ตอนเช้า เสริมสิริมงคล เริ่มต้นวันที่ดี"ตามคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า การสวดมนต์ถือเป็นการเจริญสติ สมาธิ มีจิตที่ตั้งมั่น เมื่อเรามีสติก็เกิดปัญญาการสวดมนต์ถือเป็นการฝึกสมาธิอย่างหนึ่งเพื่อให้เรามีใจจดจ่อต่อสิ่งนั้นๆ ไม่วอกแวก สติมุ่งพิจารณากับบทสวดนั้นๆ ได้ทบทวน ได้ฝึกจิตให้นิ่งและมั่นคง การสวดมนต์สามารถทำได้ทุกเวลา แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือช่วงเวลาที่เงียบสงบ เช่นตอนเช้าและก่อนนอน เพราะช่วงเวลาที่เงียบสงบจะทำให้เรามีสติ และอยู่กับตัวเองได้มากขึ้น ไม่วอกแวก ไม่ฟุ้งซ่าน อีกทั้งการสวดมนต์ นั่งสมาธิ เจริญสติตอนเช้า จะทำให้จิตเรานิ่ง เกิดปัญญา ร่างกายตื่นตัว ผ่อนคลายจากความตึงเครียดต่างๆ พร้อมเริ่มต้นวันใหม่ มีสติ มีสมาธิในการเรียน การทำงานและทำกิจกรรมต่างๆมากขึ้น บทสวดมนต์ที่เหมาะสำหรับการสวดในตอนเช้า มีหลากหลายมากมาย แต่วันนี้จะนำบทสวดมนต์ที่มีความหมายดีๆ และเป็นสิริมงคลกับชีวิต เหมาะกับการเริ่มต้นวันใหม่ มาแนะนำกันค่ะคำบูชาพระรัตนตรัยอิมินา สักกาเรนะ พุทธังอะภิปูชะยามิ อิมินา สักกาเรนะ ธัมมังอะภิปูชะยามิ อิมินา สักกาเรนะ สังฆังอะภิปูชะยามิคำนมัสการพระรัตนตรัยอะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธังภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ--- พระผู้มีพระภาคเจ้า, เป็นพระอรหันต์ดับเพลิงกิเลสเพลิงทุกข์สิ้นเชิง ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง ข้าพเจ้าขออภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้า, ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน (กราบ)สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมังนะมัสสามิ--- พระธรรมเป็นธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้า, ตรัสไว้ดีแล้ว , ข้าพเจ้าขอนมัสการ พระธรรม (กราบ)สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆังนะมามิ--- พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า, ปฏิบัติดีแล้ว ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระสงฆ์ (กราบ) ___________________คำอาราธนาศีล 5มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะสีลานิยาจามะทุติยัมปิ มะยังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะสีลานิยาจามะตะติยัมปิ มะยังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะสีลานิยาจามะบทอาราธนาศีล5 เป็นการสมาทานศีล ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ก่อน บริสุทธิ์ทั้งผู้ให้และผู้รับศีล ทำจิตใจให้สะอาด บริสุทธิ์ และตั้งใจรับศีลอย่างเต็มใจ ศีลนั้นก็จะเป็นศีลที่บริสุทธิ์ เกิดกุศล คำนมัสการพระพุทธเจ้านะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 ครั้ง)บทสวดไตรสรณคมณ์พุทธัง สะระนัง คัจฉามิธัมมัง สะระนัง คัจฉามิสังฆัง สะระนัง คัจฉามิทุติยัมปิ พุทธัง สะระนัง คัจฉามิทุติยัมปิ ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิทุติยัมปิ สังฆัง สะระนัง คัจฉามิตะติยัมปิ พุทธัง สะระนัง คัจฉามิตะติยัมปิ ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิตะติยัมปิ สังฆัง สะระนัง คัจฉามิบทสวดไตรสรณคมน์ ถือเป็นการระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และเป็นบทสวดที่มีมานานตั้งแต่สมัยพุทธกาล คำสมาทานศีล 5ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทังสะมาทิยามิ (ข้าพเจ้าของดเว้น จากการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนสัตว์)อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทังสะมาทิยามิ (ข้าพเจ้าของดเว้น จากการลักทรัพย์)กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทังสะมาทิยามิ (ข้าพเจ้าของดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม)มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทังสะมาทิยามิ (ข้าพเจ้าของดเว้น จากการพูดเท็จ พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ)สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทังสะมาทิยามิ (ข้าพเจ้าของดเว้น จากการดื่มสุรา และของมึนเมาต่าง)**อานิสงส์ ของการรักษาศีล คือ ศีลทำให้เจริญโภคทรัพย์ ศีลทำให้มีเมตตากรุณา จิตใจสะอาด ศีลนำพาไปสู่สุขคติและนิพพานคำขอขมาพระรัตนตรัยสัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเตการขอขมาพระรัตนตรัย ถือเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับ พุทธศาสนิกชน เพราะถือเป็นการแสดงความเคารพต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระพุทธศาสนาและผู้มีพระคุณ ถือเป็นการขอขมาต่อความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้นบทสวดมนต์สวดอิติปิโสอิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติสวากขาโต ภะคะวาตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูห ฮีติสุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโตสาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะปุริสะ ปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโตสาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติตามหลักความเชื่อ การสวดบทอิติปิโส ช่วยทำให้จิตใจสงบ มีสมาธิ แน่วแน่ เข้มแข็ง กล้าหาญ ช่วยคุ้มครองปัดเป่าภยันตรายทั้งหลาย นิยมสวดเพื่อเสริมดวงชะตาและคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย อีกทั้งยังช่วยเสริมสิริมงคล เสริมบารมีชีวิตด้วยบทสวดแผ่เมตตาให้แก่ตนเองอะหัง สุขิโตโหมิอะหัง นิททุกโขโหมิอะหัง อะเวโรโหมิอะหัง อัพยาปัชโฌโหมิอะหัง อะนีโฆโหมิสุขี อัตตานัง ปะริหะรามิบทสวดแผ่เมตตาให้แก่สรรพสัตว์สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ จากไป ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นอะเวรา โหนตุ จงเป็นสุข ๆ เถิด อย่าได้มีเวรแก่กัน และกันเลยอัพญาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขๆ เถิด อย่าได้พยาบาทเบียดเบียน ซึ่งกันและกันเลยอะนี ฆา โหนตุ จงเป็นสุข ๆ เถิด อย่าได้มีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลยสุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัย ทั้งสิ้นนี้เทอญ บทแผ่เมตตาให้ตนเองและสรรพสัตว์ เชื่อว่าสวดแล้ว ทำให้จิตใจสงบ เป็นสุข มีเมตตากรุณาต่อตนเอง เพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ใจและกายเป็นสุข เทวดาคุ้มครองปกปักรักษา ช่วยให้ใจเย็นและมีสติมากขึ้นการสวดมนต์ เจริญภาวนาและการนั่งสมาธิ ถือเป็นการฝึกจิตตนให้มั่นคง การสวดมนต์สามารถทำได้ทุกเวลาไม่มีข้อจำกัด แต่ควรเป็นช่วงเวลาและสถานที่ ที่เงียบสงบ เพื่อให้เหมาะกับการฝึกสติ สมาธิ ปราศจากสิ่งรบกวน เมื่อมีสมาธิก็เกิดปัญญา แก้ปัญหาต่างๆได้รอบคอบ มีสติ ใจเย็น อีกทั้งจิตใจที่เป็นกุศล มีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ เป็นพื้นฐานจิตใจและนิสัยที่ดี สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมร่วมกับผู้อื่นได้อย่างสงบสุข ***รูปภาพทั้งหมดถ่ายโดยผู้เขียนขอบคุณข้อมูลจาก - สำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคำแหง- มูลนิธิสัมมาอาชีวะเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !