สีพื้นๆ อย่างสีขาวและสีดำเป็นสีที่สามารถใช้ได้หลากหลายโอกาส โดยในครั้งนี้เราจะมากล่าวถึงสีของรองเท้ากัน ซึ่งสีพื้นฐานอย่างสีขาวและสีดำเป็นสีที่มีความคลาสสิกในตัวของมันเอง เป็นสีที่ไม่ฉูดฉาดปรู๊ดปร๊าด อีกทั้งไม่ต้องเสียเวลาคิดมากในการเลือกหยิบรองเท้าสักคู่ เพื่อสวมใส่ในวันที่ต้องการจะออกไปใช้ชีวิตและทำกิจกรรมต่างๆ "สีขาว"และ"สีดำ" จัดได้ว่ามีกลิ่นอายของความเป็นวินเทจและคลาสสิกผสมผสานรวมกันอยู่ เนื่องด้วยในสมัยเมื่อครั้งกระนู้น โทรทัศน์รวมทั้งสื่ออย่างสิ่งพิมพ์ยังคงเป็นสีขาวดำ ถึงแม้ผู้นำด้านแฟชั่นในยุคนั้นจะใส่เสื้อผ้าที่มีสีสัน แต่มื่อถูกถ่ายทอดผ่านสื่อต่างๆ มันจะออกมาในรูปแบบหรือโทนขาวดำ จึงส่งผลให้ภาพที่ถูกถ่ายทอดในสมัยนั้น ความมีสีสันยังไม่ได้เข้าไปมีอิทธิพลมากเท่าไรนัก ขอขอบคุณภาพประกอบจาก: https://pixabay.com/photos/james-dean-american-actor-397027/ ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างรูปถ่ายของเจมส์ ดีน นักแสดงหนุ่มผู้เป็นต้นแบบแห่งความเท่ในยุคสมัยนั้น เขาใส่เพียงรองเท้าผ้าใบสีขาวเรียบๆ กับกางเกงสแล็คสีดำและเสื้อยืดสีขาว ก็เรียกได้ว่าเท่อย่างจะหาใครเปรียบได้ นอกจากนี้รองเท้าสีขาวและสีดำสามารถใส่คู่กับกางเกง,เสื้อได้แทบทุกสี และได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกางเกงยีนส์ กางเกงขาสั้น หรือแม้แต่กระโปรงก็ตาม หากสังเกตุดีๆ เราจะเห็นได้ว่ารองเท้าสีฉูดฉาดที่ถูกผลิตออกมา พอหมดกระแสก็หายไปตามกาลเวลา (อาจจะวนกลับมาใหม่ แต่ใช้เวลาค่อนข้างนาน) ส่วนรองเท้าสีขาวและสีดำ ไม่เคยตกเทรนด์ไปตามกระแสใดๆ เลย มันคงอยู่อย่างมีเสถียรภาพในเส้นทางสายแฟชั่นและการแต่งตัวของผู้คนในแต่ละยุคสมัยเรื่อยมา หากเราจะเลือกใช้รองเท้าที่มีสีสันมาสวมใส่ก็มิผิดแปลกแต่อย่างใด เพราะบางครั้งเราอาจเบื่อสีพื้นๆ และต้องการสวมใส่รองเท้าที่มีสีสันบ้าง แต่การมีรองเท้าสีขาวและสีดำติดชั้นวางไว้ เชื่อว่าวันที่ง่ายๆ สบายๆ หรือวันที่ไม่อยากคิดอะไรมาก เราจะหยิบมันมาสวมใส่ได้ เป็นการ "Back to Basic" ที่ร่วมสมัยและไม่มีการเอาท์หรือตกเทรนด์อย่างแน่นอน. หมายเหตุ: รองเท้าที่ใช้ประกอบในภาพประกอบไปด้วย แบรนด์ Converse รุ่น Jack Purcell, รองเท้าผ้าใบ MUJI, และสุดท้ายคือสุดยอดความคลาสิก"รองเท้านันยาง"ของไทยเรา ที่พวกเราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ท่านสามารถเลือกชม ซื้อหา รองเท้าดังกล่าวได้ตามห้างสรรพสินค้าและร้านค้ารองเท้าทั่วไป