คุณเคยรู้หรือไม่ว่า ประเทศที่เต็มไปด้วยอิสระเสรีอย่างประเทศสหรัฐอเมริกาก็เคยห้ามขายเหล้าเช่นกัน ด้วยกฎหมายที่เข้มงวดเช่นนี้ลองนึกดูสิว่ามันจะลำบากมากแค่ไหน กับการที่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ในการซื้อขายเหล้าเถื่อนเหล่านั้นกัน ซึ่งทำให้นึงถึงสถานการณ์ในปัจจุบันนี้ทันทีเพราะในยุค Covid-19 สำหรับคอเหล้าแล้วอาจจะทำใจยอมรับได้ยากและส่วนใหญ่ก็ไม่พึงพอใจต่อมาตรการของรัฐบาลสักเท่าไหร่นัก เเต่เนื่องจากมันเกี่ยวข้องต่อความมั่นคงของประเทศและความปลอดภัยของประชาชน รัฐบาลจึงจำเป็นต้องออกมาตรการนี้ ในปี 1922 หลังจากการปฏิวัติประเทศที่เพิ่งเสร็จสิ้นจากการทำสงคราม เมื่อประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาต้องการระดมทุนในการก่อตั้งประเทศและเพื่อทดแทนค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการทำสงครามที่ผ่านมา ทำให้รัฐบาลต้องเรียกเก็บภาษีจากประชาชนที่ทำการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งบางครอบครัวสามารถผลิตได้เพียงเล็กน้อย เพื่อใช้ภายในครอบครัวหรือการค้าขายและเพื่อแลกเปลี่ยนสิ่งของหรืออาหารที่จำเป็นเท่านั้น โดยการผลิตมักนำเมล็ดพืชหรือผลไม้สดนำมากลั่น แล้วแปรรูปเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไม่ว่าจะผลิตเพียงเล็กน้อยหรือจำนวนมาก รัฐบาลก็จำเป็นที่จะต้องเรียกเก็บภาษีสรรพสามิตเหล้ากลั่นเหล่านั้น เนื่องจากเป็นวิธีการชำระหนี้แห่งชาติของประชาชนและเป็นวิธีที่แสดงให้เห็นถึงการมีอำนาจของรัฐบาลกลาง โดย Moonshining หรือการขายเหล้าเถื่อนยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางตอนใต้ของประเทศ เช่น รัฐเคนทักกี รัฐเวอร์จิเนียและรัฐเเคโรไลนา เมื่อถึงเวลาต้องห้ามและความต้องการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐทางใต้จึงเป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผิดกฎหมาย โดยการผลิตส่วนใหญ่มักอยู่ในพื้นที่ที่ห่างใกลหรือในป่า ทำให้สามารถหลีกเลี่ยงจากการสังเกตหรือการจับกุมของทางการได้ดีกว่า เช่นนั้นเองนักบวชจึงโดนเรียกตัวอยู่บ่อยครั้งเพื่อสืบหาเบาะแส แต่อย่างไรก็ตามคนที่เป็นส่วนหนึ่งของโรงกลั่นผิดกฎหมายมักตระหนักได้ดีว่าพวกเขาจะต้องตื่นตัวตลอดเวลาเพื่อที่จะได้หลบหนีการจับกุมได้อย่างทันท่วงทีและเพื่อให้พวกเขามีเวลาเพิ่มขึ้นในการหลบหนีโดยการเดินทางเท้า Moonshiners บางคนจึงคิดค้นวิธีที่จะตบตาเเละเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่ศุลกากร พวกเขาจึงทำการอำพรางรอยเท้าเพื่อหลอกล่อผู้จับกุมให้ไปอีกทาง โดยการใช้ "รองเท้าวัว หรือ รองเท้ากีบวัว" ซึ่งรองเท้าชนิดนี้ มีลักษณะเป็นแถบโลหะ ใช้บล็อกไม้แกะสลักให้คล้ายกับกีบเท้าของวัวและผูกมัดไว้กับรองเท้าที่พวกเขาสวมใส่อยู่ แนวความคิดนี้ก็คือถ้าตำรวจพบรอยเท้าของมนุษย์ในพื้นที่ที่คนทั่วไปมักจะไม่ไปนั้น จะเป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนว่ามีบางสิ่งที่ผิดปกติและมันก็คุ้มค่าต่อการค้นหาของทางการเป็นอย่างมาก เนื่องจากมันอาจจะนำไปสู่การค้นพบสิ่งผิดกฎหมาย แน่นอนว่าเช่นนั้นแล้วเหล่า Moonshiners จึงจำเป็นต้องอำพรางรอยเท้าเพื่อที่พวกเขาจะสามารถหลบหนีจากการจับกุมได้ โดยภายหลังเจ้าหน้าที่เชื่อว่าคนที่ประดิษฐ์รองเท้ากีบวัวนี้ มีแนวคิดเดียวกันกับเรื่องราวของเชอร์ล็อคโฮม เนื่องจากคนร้ายยัดเท้าของตัวเองใส่รองเท้าที่มีลักษณะคล้ายกับกีบเท้าของสัตว์ชนิดหนึ่งนั่นก็คือม้า ไม่นานการค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผิดกฎหมายหรือเหล้าเถื่อนเริ่มมีการขยายวงกว้างมากขึ้นทำให้องค์กรอาชญากรรมเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีการลักลอบลำเลียงสุรากลั่นที่ผิดกฎหมายเหล่านั้นเข้าสู่เขตตัวเมืองและมันก็สำเร็จในที่สุด จนเหล้าเถื่อนเหล่านั้นสามารถสร้างกำไรให้แก่ Moonshinersได้เป็นกอบเป็นกำ แต่แล้วสิ่งประดิษฐ์สุดล้ำที่เรียกว่ารองเท้ากีบวัวนี้ก็ไม่สามารถที่จะช่วยให้เหล่าวายร้าย Moonshiners รอดพ้นจากเงื้อมมือของกฎหมายไปได้ เพราะสุดท้ายแล้วทางการก็ทำการกวาดล้างระบบเจ้าพ่อเหล้าเถื่อนเหล่านั้นได้ในที่สุดขอขอบคุณรูปภาพจาก Flickr และ Unsplashภาพหน้าปก / ภาพที่1 /ภาพที่2 / ภาพที่3