ในยุคสมัยแห่งเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ ผู้คนต่างพากันใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายมากขึ้น ทั้งการติดต่อสื่อสารหรือข่าวสารที่ไวเพียงปลายนิ้วเลื่อนคลิก ยิ่งเหล่าข้อมูลเดินทางได้ไวเท่าไหร่ ยิ่งทันใจเท่านั้น หากแต่ชีวิตที่รวดเร็วและรอบรู้ ก็ยังขึ้นชื่อว่าคือชีวิต และชีวิตไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้คนมากมายจึงยังต้องการที่พึ่งไม่ต่างกับมนุษย์ยุคสมัยก่อน จะริเริ่มทำการสิ่งใด ขอให้มีกำลังใจและที่ยึดเหนี่ยว ก็พร้อมเดินหน้าในเรื่องนั้นๆได้อย่างสบายใจมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะชาวผู้เกิดปีระกา ที่ถูกทักทายจากศาสตร์จีนกันตั้งแต่ต้นปี ว่าในปี 2566 นี้ ระกาชงเต็มๆร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำเอาใครหลายคนแทบนั่งไม่ติดกันเลยทีเดียว ในวันนี้เราจึงอยากเชิญชวนทุกท่าน มาทำความรู้จักและร่วมสักการะบูชาพระธาตุประจำปีเกิดของคนปีระกากันค่ะ ไม่ใช่เพื่อการบูชาอย่างงมงาย แต่เพื่อทำความเข้าใจว่า แม้แต่การน้อมใจให้เคารพในสิ่งที่ควรเคารพ ก็ช่วยให้ชีวิตดีขึ้นและมีความสุขได้ เมื่อจิตใจเราเข้มแข็งมากพอแล้ว ไม่ว่าปีไหนชงหรือไม่ เราก็จะสามารถก้าวข้าวผ่านอุปสรรคทุกสิ่งอย่างไปได้ด้วยดีอย่างแน่นอนค่ะ หลายคนอาจเกิดคำถามที่ว่า ใครคือผู้ริเริ่มการไหว้ขอพรพระธาตุตามปีเกิด? และเราเองก็คือหนึ่งในผู้ที่มีคำถามนี้ในใจ จากการศึกษาข้อมูล ทำให้เราพบว่าการไหว้พระธาตุตามปีนักษัตรนั้น คือคติความเชื่อของชาวล้านนามาแต่โบราณ โดยในสมัยก่อน ชาวล้านนา ล้านช้างและพม่า มีความสัมพันธ์ที่ดีงามต่อกันดังเช่นพี่น้อง สืบสานวัฒนธรรมรูปแบบใกล้เคียงกัน และพวกเขาได้ร่วมกันสร้างคติการไหว้บูชาพระธาตุประจำปีเกิดในเมืองเหนือขึ้นเพื่อคงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นนี้ไว้ ในความเชื่อที่ว่า พระธาตุประจำปีเกิด จะเป็นสถานที่สถิตที่แรก ของดวงวิญญาณมนุษย์เมื่อหลุดลอยออกจากกายสังขาร การได้เดินทางเพื่อกราบไหว้เคารพบูชาพระธาตุประจำปีเกิดจะช่วยให้เราได้ทำความรู้จักที่ไปและชีวิตจะเจริญรุ่งเรือง พระบรมสารีริกธาตุคืออะไร? สืบเนื่องไปยังยุคสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช หลังการปรินิพานของพระพุทธเจ้าแล้ว พระองค์ได้ทรงโปรดให้มีการขุดและแจกจ่ายพระบรมสารีริกธาตุ หรือก็คือกระดูกของพระพุทธเจ้า แล้วแจกจ่ายไปยังเมืองต่างๆเพื่อเป็นที่เคารพบูชา พระธาตุจะถูกบรรจุไว้ในสถูปเจดีย์ ซึ่งจะมีศิลปะ ปัตยกรรมแตกต่างกันออกไปตามท้องที่ สำหรับองค์พระธาตุหริภุญชัยนั้น ประกอบไปด้วย ธาตุกระหม่อม ธาตุกระดูกอก ธาตุกระดูกนิ้วมือ และธาตุย่อยอีกเต็มบาตรหนึ่ง วัดพระธาตุหริภุญชัย หรือที่ชาวล้านนาสมัยก่อนเรียกว่าวัดเจดีย์หลวงแห่งนี้ สร้างบนพื้นที่ 28 ไร่เศษ มีสิ่งที่น่าสนใจให้เยี่ยมชมและสักการะบูชาหลากหลาย เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว รวมทั้งผู้มีจิตศัทธาในพระพุทธศาสนาเอาไว้ จะมีส่วนใดน่าสนใจบ้าง เราจะพาไปเยี่ยมชมกันค่ะ เริ่มกันที่ลานจอดรถ ท่านใดที่ขับรถยนต์ส่วนตัวมาเอง สามารถเลือกจอดได้บริเวณด้านหน้าสุดก่อนถึงประตูทางเข้า หรือสามารถขับเข้าประตูมามองทางด้านซ้ายมือจะพบกับลานจอดรถด้านในอีกหนึ่งจุด และท่านสามารถวนรถไปทางซ้ายเพื่อหาจุดจอดได้อีกค่ะ เมื่อจอดรถเรียบร้อยแล้ว ด้านหน้าสุดก่อนเดินเข้าประตูชั้นใน จะมีซุ้มขายตั๋วสำหรับนักท่องเที่ยว รวมไปถึงซุ้มขายดอกไม้ธูปเทียน ราคา ณ เดือนพฤศจิกายน 2565 คือชุดละ 30 บาท ให้หยอดใส่ตู้ได้เลย ประกอบไปด้วย ดอกไม้ น้ำสำหรับสรงน้ำพระธาตุ 1 ขวด ธูปและเทียนประจำวันเกิด ก่อนเดินเข้ามาด้านใน จะพบกับซุ้มประตูโขง ซึ่งมีสิงห์คู่ สูงประมาณ 3 เมตรเฝ้าอยู่ที่หน้าประตู เมื่อเข้ามาด้านในจะพบกับวิหารหลายหลัง อาทิเช่น วิหารพระเจ้าทันใจ วิหารพระเจ้าแดง วิหารหลวง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของพระธาตุหริภุญชัย ด้านในประดิษฐานองค์พระประธาน พระมหามุนีศรีหริภุญชัย พระพุทธรูปปางมารวิชัย องค์พระสีเหลืองอร่าม เมื่อได้เดินเข้าไปด้านในวิหารหลวง มีบรรยากาศเย็นสบายมาก กราบพระและนั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง สามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานความสงบร่มเย็นอย่างชัดเจน ภายในรู้สึกโปร่งโล่งเบาสบาย คล้ายกับว่าความเหนื่อยหนักทั้งหลายได้หายไปจนหมดสิ้น นั่งจนใจเบาและพอใจก็เดินออกมาด้านนอก อ้อมไปทางด้านหลัง ถอดรองเท้าไว้ในจุดที่มีให้บริการ ตรงนี้หากไปวันที่แดดจัด จะร้อนเท้าอย่างมากเลยนะคะ แนะนำให้ใส่ถุงเท้าหรือเตรียมรองเท้าผ้าไปด้วย มาถึงหน้าพระธาตุแล้ว ให้ทุกท่านสงบสำรวมจิตใจ จุดธูปเทียนแล้วสวดบูชา แจ้งเหตุหรือขอพรอันดีงามแก่องค์พระธาตุเบื้องหน้าได้เลยนะคะ หลังจากไหว้ขอพรเรียบร้อยแล้ว ท่านใดมีจิตเลื่อมใส เราขอแนะนำให้เดินเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุ 3 รอบ น้อมจิตตั้งสมาธิไว้กับตัวเอง คำบูชาพระธาตุสุวัณณะเจติยัง หะริภุญชะยัฐฐังวะระ โมลีธาตุรัง อุฬเสฏฐัง สะหะอังคุละผัฏฐังกัจจายะโน นามิตปัตตะ ปุรังสิเนนะ เมยหัง ปะนะมามิธาตุงสิระสา นะมามิ อะหังวันทามิ ทูระโตฯ ทางด้านซ้ายมือขององค์พระธาตุจะมีจุดสรงน้ำอยู่ ทุกท่านสามารถเดินขึ้นบันไดแล้วเทน้ำลงบนรางส่งน้ำไปยังพระธาตุได้เลยค่ะ อย่าลืมสำรวมจิตใจด้วยนะคะ ขอเน้นย้ำให้ทุกท่านทำทุกขั้นตอนอย่างตั้งใจค่ะ หลังจากเวียนเทียนและสรงน้ำเรียบร้อยแล้ว ก็ยังคงมีจุดที่น่าสนใจให้ท่านได้เดินเยี่ยมชมอยู่อีกหลายจุดด้วยกัน อาทิเช่น วิหารพระไสยาสน์ พระเจ้าละโว้ รอยพระพุทธบาทสี่รอย วิหารพระเจ้าพันตน เป็นต้น หลังจากเดินจนทั่วบริเวณแล้ว ทางวัดก็มีจุดบริการห้องน้ำ ขายวัตถุมงคล อาหารและเครื่องดื่ม รวมไปถึงจุดเสี่ยงโชคไว้บริการทุกท่านด้วย สถานที่สุดขลังแห่งนี้พร้อมต้อนรับชาวปีระกาและผู้เลื่อมใสศรัทธาในพุทธศาสนาทุกปีนักษัตร วันหยุดนี้ท่านใดต้องการท่องเที่ยวอย่างสุขีและสงบจิตใจ ขอแนะนำวัดแห่งนี้เลยค่ะ รับรองว่าท่านจะสัมผัสได้ถึงพลังงานดีอย่างแน่นอน : ) 7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์