บางครั้งชีวิตมีเรื่องคาดไม่ถึงมากมายเกิดขึ้น โดยไม่แจ้งเตือนล่วงหน้า มาโดยไม่ทันตั้งตัว และแทบไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ บางครั้งเป็นเรื่องที่เราไม่ได้เข้ายุ่งเกี่ยวด้วยมาก่อน ไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร แต่เรื่องเหล่านั้นกลับสร้างปัญหาให้เราได้อย่างไม่น่าเชื่อกับสถานกาารณ์โควิด-19 ตอนนี้ เป็นเรื่องที่เราไม่ได้ตั้งรับกันมาก่อน บางประเทศเลือกใช้วิธีรับมือที่เด็ดขาดไว้ก่อน บ้านเราก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ เคอร์ฟิวหลังสี่ทุ่ม ประกาศล็อคดาวน์ อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ หากใครคิดว่าสถานการณ์ในช่วงนี้โหดร้ายแล้ว ต้องดูหนังแนวติดอยู่ในที่แคบเรื่องนี้ ผู้เขียนรู้จักหนังเรื่องนี้จากกระทู้ 40 หนังหักมุมในเว็บไซต์พันธิป Buried เป็นหนังปี 2010 เล่าเรื่องตัวละครที่ชื่อ พอล คอนรอย (ไรอัน เรย์โนล์) พอลเป็นคนขับรถก่อสร้าง เป็นอเมริกันชนที่ต้องไปทำงานในอิรัก เขาตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืดในกล่องสี่เหลี่ยมแคบๆ ต่อมาเขาค้นพบว่ากล่องสี่เหลี่ยมนี้คือโลงที่ถูกฝังอยู่ใต้พื้นดิน เมื่อพยายามจับต้นชนปลายเรื่องราวทั้งหมด ก่อนหน้านั้นขบวนรถของเขาถูกโจมตีโดยใครสักคน หลังจากนั้นเขาก็ถูกจับมาอยู่ที่นี่ แต่พอลไม่อาจหาเหตุผลให้ตัวเองได้ว่าทำไม และคนที่จับมาต้องการอะไร อย่างที่บอกว่าหนังเรื่องนี้ไม่มีตัวละครอื่น เป็นการพยายามปะติดปะต่อความทรงจำของเขาล้วนๆ หนังจึงใช้วิธีให้ตัวละครพูดกับตัวละครอื่นผ่านทางโทรศัพท์ซึ่งปรากฏเพียงเสียง มีอุปกรณ์ทิ้งไว้ให้เขาไม่กี่อย่าง แต่จะเรียกว่าอุปกรณ์เอาตัวรอดก็ไม่แน่ใจว่าจะเรียกแบบนั้นได้ไหม เพราะนอกจากไร้ประโยชน์แล้วอุปกรณ์บางอย่างยังสร้างเรื่องสร้างปัญหาให้เขาอีกด้วย ไฟแชค โทรศัพท์ที่แบตเหลือน้อยมาก และแท่งเรืองแสง ไฟฉาย และมีดพก เขาต้องอยู่ในพื้นที่จำกัด ปัจจัยยังชีพไม่มี อุปกรณ์เอาชีวิตรอดขาดไร้ประสิทธิภาพ ไม่ต่างจากเราใช่วงนี้หรอกหนังเรื่องนี้เป็นหนังแบบที่เรียกว่า One Location ตัวละครติดอยู่ในสถานทีเดียวทั้งเรื่อง ต้องยอมรับว่าผู้กำกับคือ ร็อดริโก้ คอร์เทส ฝีมือเฉียบขาดในการวางพล็อต ภายใต้ข้อจำกัดที่มากมายของเรื่อง เราจะได้เห็นการดิ้นรนของตัวละครพอล สลดหดหู่กับผลจากการโทรศัพท์หาหน่วยงานที่คิดว่าจะช่วยได้ ลุ้นระทึกกับสิ่งมีชีวิตไม่ได้รับเชิญที่พรวดพลาดเข้ามาภายในโลง และตอนจบที่... ต้องร้องเฮ้ยหนักมาก เป็นหนังที่ต้องใช้ความอดทนค่อนข้างมาก สำหรับคอหนังแนวนี้น่าจะชอบ ต้องยอมรับว่าผู้กำกับคือ ร็อดริโก้ คอร์เทส ฝีมือเฉียบขาดในการวางพล็อต วางเงื่อนไขให้ตัวละคร ท้าทายขีดจำกัดการเล่าเรื่องด้วยการลดองค์ประกอบของฉากและแบ็คกราวด์ต่างๆ ลงจนเหลือไม่กี่อย่าง การทำหนังที่มีตัวละครคนเดียวอยู่ในสถานที่เดียวไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะหนังที่ใช้นักแสดงคนเดียวตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง แทบไม่มีใครทำ หนังสไตล์ที่ที่นึกออกก็มี Cast Away ที่มีทอม แฮงส์เล่นเป็นพนักงานบริษัทเฟดเอ็กซ์เครื่องบินตกกลางทะเลมาเกยฝั่งที่เกาะร้าง Life Of Pi หนังที่ตัวละครเรือแตกต้องใช้ชีวิตอยู่บนเรือชูชีพกลางทะเลเวิ้งว้างกับเสือเบงกอล 127 Hours หนังที่ตัวละครนักปีนเขาต้องติดอยู่ในซอกหินนานห้าวัน และอีกหลายๆ เรื่องที่หลงหูหลงตา ในจำนวนนี้ Buried มีความดีงามแตกต่างจากหนังอื่นๆ ตรงที่การวางเงื่อนไขให้ตัวละครอยู่ในที่แคบกว่าหนังเรื่องไหนๆ ซ้ำยังแทบกระดุกกระดิกร่างกายไม่ได้ ต้องดิ้นพลิกไปพลิกมาอยู่ในโลงเท่านั้น และคอยจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่ขยันเกิดขึ้นต่อเนื่องจนเราอดสิ้นหวังกับตัวละครไม่ได้ แต่ที่บาดใจสุดๆ คือฉากจบ ใครได้ดูเป็นต้องร้องเฮ้ยอย่างแน่นอน Buried เป็นหนังอีกเรื่องจากค่าย Lionsgate ไม่ทำให้ผิดหวังเช่นเคย จัดจำหน่ายโดย Warner Bro. ในสถานการณ์ที่ว่าร้ายแล้ว อยู่บ้านดูหนังแนวนี้ก็ไม่เลวนะ แล้วจะพบว่ายังมีที่ร้ายกว่าร้าย จนเรื่องของเราดูเบาไปเลยทีเดียว ขอบคุณภาพปก และภาพประกอบทั้งหมดจากเว็บไซต์ IMDB