หากพูดถึงซีรี่ส์เกาหลี ใครหลายคนคงมีภาพจำว่าเป็นซีรี่ส์โรแมนติก ขายความสวยความหล่อของตัวละคร แต่ไม่ใช่เลยกับ Extracurricular ซีรี่ส์วัยรุ่นเกาหลีเรื่องใหม่จาก original Netflix ที่ลงจอเมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา โดยลงทีเดียว 10 ตอนจบ Extracurricular แปลเป็นไทยตรง ๆ ว่า การเรียนรู้นอกหลักสูตรซึ่งเกี่ยวโยงโดยตรงกับเนื้อหาหลักของซีรี่ส์เรื่องนี้ ในชั้นเรียนมัธยมที่สุดแสนธรรมดาที่มีทั้งเด็กเรียน เด็กธรรมดา เด็กเกเร ใครจะคิดล่ะว่า โอจีซู เด็กหนุ่มที่ 1 ของรุ่น เงียบ ๆ โลกส่วนตัวสูง เขาจะสร้างโลกไว้สองใบ ซึ่งอีกใบหนึ่งคือโลกด้านมืดและอาชญากรรมร้ายแรงอย่างการเป็นพ่อเล้า หรือในมุมมองของโอจีซูที่คิดว่าเขาไม่ใช่พ่อเล้าแต่เป็นผู้คุ้มครองอันตรายให้เหล่าหญิงสาวที่ขายบริการในเล้าของเขา โดยโอจีซูมีหน้าที่เป็นคนกลาง ขายหญิงสาวผ่าน application ให้กับหนุ่มที่ต้องการซื้อ และหากหญิงสาวไปเจอคนโรคจิตเข้าก็จะมี กำไล ที่จะส่งข้อมูลมาที่ App ว่าเธอต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งจีซูจะส่งข้อมูลไปให้ หัวหน้าอี ชายแก่ลึกลับที่จะคอยไปช่วยเหลือหญิงสาวเหล่านั้นให้พ้นอันตราย โดยตลอดการทำงานที่ผ่านมา ทุกคนไม่รู้เลยว่าคนกลางคนนี้เป็นใคร ทุกคนจะรู้จักกันในนาม คุณอา โอจีซูเลือกทำงานนี้เพราะเขาไม่มีครอบครัว ไม่มีเงิน เพียงแค่ต้องการเงินในการเรียนมัธยม เรียนพิเศษ เรียนมหาวิทยาลัย และทำงานอย่างคนปกติเท่านั้น แต่จู่ ๆ แพกยูริ เพื่อนร่วมชั้นเรียนที่โอจีซูแอบชอบก็เข้ามายุ่งกับชีวิตของเขาและล่วงรู้โลกอีกใบของเขา! จนเรื่องมันถลำลึกมากขึ้นจนทุกอย่างแทบจะระเบิดออกมา ใครสนใจการเรียนรู้นอกหลักสูตรหรือ Extracurricular นี้ ก็สามารถหาดูได้ที่ Netflix และเดี๋ยวนี้กล่อง True ID TV ก็สามารถชม Netflixได้แล้วนะคะ เพิ่มความชัดระดับ HD ผ่านทางจอทีวีของเราไปเลยค่ะ ขอเตือนว่า คนขวัญอ่อน คนกลัวเลือดไม่ควรดูนะคะ เพราะเนื้อหาและภาพค่อนข้างจะรุนแรง (บางทีผู้เขียนก็ต้องกด Skip ในบางฉากไปเพราะทนไม่ไหว)คำเตือน : เนื้อหาต่อไปนี้จะมีส่วนที่สปอยเนื้อเรื่องบางส่วนข้อคิดที่ได้จากเรื่อง : สิ่งที่ผิดกฎหมายไม่มีทางที่จะปิดได้มิด ธุรกิจที่จีซูทำที่ได้ทำทุกอย่างผ่าน Application ผ่านที่แปลงเสียงของตัวเองให้เป็นเสียงหุ่นยนต์ การแลกเปลี่ยนเงินก็ทำผ่านตู้ล็อคเกอร์สาธารณะ ถือว่ามีความเซฟตัวเองเพื่อป้องกันว่าหากเรื่องแดงขึ้นมาก็จะสาวถึงตัวเขาได้ยาก แต่สุดท้ายโลกก็ต้องรู้สิ่งที่เราทำ ดั่งประโยคที่ว่า ความลับไม่มีในโลก ทุกคนมีปัญหา จีซูเหมือนจะเป็นเด็กที่ชีวิตราบรื่น เรียนได้ที่ 1 แต่เขาก็ไม่มีครอบครัว พ่อยังติดการพนันขโมยเงินเขาไปหมด ชีวิตที่เป็นอยู่ทุกวันจึงเป็นชีวิตที่เขาเลือกสร้างเอง เพียงแค่อยากมีเงินเพื่อทำตัวเป็นนักเรียนทั่วไปเท่านั้น กยูริ ถึงบ้านจะรวยดูเป็นสาวมั่นที่โรงเรียน แต่ใครจะคิดว่าเธอมีจิตใจที่เปราะบางมากจากความกดดันของครอบครัว ในซีรี่ส์พอเป็นฉากกยูริกับครอบครัวเมื่อไหร่ผู้เขียนจะรู้สึกอึดอัดมาก ดูแล้วก็สะท้อนสังคมในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี มินฮี เป็นวัยรุ่นสาวสุดสวยที่คบกับอดีตประธานนักเรียน มีเงินมากมายมาเปย์แฟนหนุ่มของตัวเอง แต่หารู้ไม่ว่าเงินมากมายที่เธอได้มานั้นมาจากอาชีพอย่างว่า มินฮีไม่มีความรักให้กับตัวเองเลย เธอกลัวคนอื่นไม่รัก จนต้องทำงานแบบนี้ เพื่อจะได้เงินไปให้แฟนหนุ่มของเธอและอีกหลายตัวครที่สะท้อนสังคมว่าไม่มีใครมีชีวิตที่สมบูรณ์ 100% หรอกค่ะ เราล้วนมีปัญหา และในเรื่องก็ให้ข้อคิดตอนสุดท้ายว่าปัญหาที่มีก็ควรแก้ให้ถูกทาง การทำอะไรที่ผิดไม่ใช่ทางออกของปัญหาที่แท้จริง ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ทั้งความรักที่กยูริมีให้จีซู เป็นความรักที่บริสุทธิ์ เธอยอมทำทุก ๆ อย่างเพื่อเขา อย่างตอนที่จีซูบอกว่าเธอไม่เคยเป็นแนวหน้าแก้ปัญหาเลย เธอจึงตัดสินใจจะไปฆ่าศัตรูให้เอง ทั้ง ๆ ที่เธอไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนแถมยังไปตัวคนเดียว และตอนจบที่เธอจะพาจีซูหนีไปต่างประเทศด้วย แต่จีซูก็บาดเจ็บหนักมากจนบอกให้เธอไปคนเดียว แต่เธอก็ไม่ยอมจะพาจีซูไปด้วย และความรักระหว่างมินฮีกับหัวหน้าอี ซึ่งมันไม่ใช่ความรักแบบคนรักสักทีเดียว แต่มันคือความห่วงใยที่มนุษย์คนหนึ่งโหยหาที่จะได้รับ ที่มินฮีได้รับจากหัวหน้าอีเสมอ ในเรื่องจะเห็นได้ชัดเลยว่ามินฮีรักหัวหน้าอีมากจนยอมทำทุกอย่างเพื่อจะช่วยชีวิตเขา เราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว มีคนที่พร้อมจะช่วยเหลือเราเสมอ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง บางครั้งเราอาจเหมือนจีซูที่คิดว่าโลกนี้ช่างมืดมนชีวิตเขาไม่เหลืออะไร อยากพูดอะไร อยากปรึกษาใครก็ไม่ได้ แต่ที่จริงแล้วเขายังมีอาจารย์ประจำชั้นที่คอยอยู่เคียงข้างเขาแล้วพร้อมจะฟังเขาระเบิดมันออกมา แต่ในเรื่องก็ไม่ทันการจนเรื่องมันเลยเถิดซึ่งเป็นคติที่เตือนใจว่าปัญหาที่เรามี อย่าเก็บไว้คนเดียว ปรึกษาคนที่ไว้ใจ หรือหน่วยงานที่จะช่วยเราก็ได้ อย่างมินฮีที่เป็นเยาวชนแต่ทำอาชีพที่ไม่เหมาะสม ก็มีตำรวจพยายามเข้ามาช่วยเธอสิ่งที่ไม่ชอบในเรื่อง : มินฮีที่เข้ามาทำงานให้กับพระเอกหรือโอจีซูเพราะต้องการเงินเอง ทั้ง ๆ ที่จีซูมีกฎว่าไม่อยากทำก็ไม่เป็นไร ไม่ได้บังคับว่าให้ใครต้องทำ สามารถขอออกได้ตลอด แต่นางก็ทนทำเพราะเงิน แต่ตอนจบกลับมาโวยวายให้จีซูว่าที่เรื่องเป็นแบบนี้ มีคนตาย กลายเป็นเรื่องใหญ่ก็เพราะจีซู ซึ่งเอาตรง ๆ มินฮีเนี่ยแหละเป็นตัวแปรหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจนี้น่าสงสัยโดยเลือกไปทำงานในวันที่คุณอากับหัวหน้าอีติดธุระซึ่งแจ้งให้ทุกคนทราบแล้ว จนทำให้ตำรวจสงสัยจนตามเธอเจอ ผู้เขียนจึงไม่ค่อยชอบตัวละครนี้มากนัก และตอนจบที่ให้คนดูคิดต่อเองว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งหนังหลาย ๆ เรื่องก็ทำแบบนี้ ซึ่งส่วนตัวแล้วผู้เขียนไม่ชอบเลย เพราะมันคือการไม่จบจริงสิ่งที่ชอบในเรื่อง : ภาพดีมากได้อารมณ์เหมือนภาพยนตร์ สีและกลิ่นอายเกาหลีคือชัดเจน ส่วนตัวคือชอบเพลงประกอบมาก ๆ จังหวะมันระทึกใจ และให้ความรู้สึกว่านี่ไม่ใช่หนังวัยรุ่นเกาหลีทั่วไปนะจ๊ะ และอีกอย่างเลยคือนักแสดง แสดงได้ดีมาก โดยเฉพาะพระเอกอย่าง โอจีซู ซึ่งแสดงโดยคิมดงฮี (จาก sky castle และ Itaewon class) ซึ่งเขามีประสบการณ์การแสดงไม่กี่เรื่องเอง แต่เรื่องนี้เล่นแล้วเราสัมผัสได้ ส่วนตัวชอบสายตาที่ไม่กล้าสบตา ล่อกแล่ก ไม่มั่นใจซึ่งมันดูจริง และการแสดงของหัวหน้าอี แสดงโดย ชเว มินซู ทำให้คนดูรู้สึกผูกพันและรักเขา ทั้ง ๆ ที่แทบไม่มีบทพูดเลย ตอนฉากที่บานาน่าคาราโอเกะคือลุ้นตัวเกร็งเลยค่ะ สุดท้ายแล้ว Extracurricular เป็นอีกซีรี่ส์หนึ่งที่ทุกคนควรดู จึงขออนุญาตแนะนำเหมือนกับตอนจบของซีรี่ส์นะคะว่า หากมีปัญหา ให้คุยกับผู้ใหญ่ที่ไว้ใจ หรือติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในโลกนี้ยังมีคนที่จะอยู่เคียงข้างเรา และคอยช่วยเราอย่างแน่นอนค่ะ :) สู้ ๆ กับชีวิตไปด้วยกันนะคะขอขอบคุณรูปภาพหน้าปกจาก Netflix และรูปภาพประอื่น ๆ จาก trailer ใน Netflix