ได้มาแล้วจ้า หลังจากจองผ่าน เวปไซต์ของ AIS ไปตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา ส่วนตัวจองสีขาวไว้ ลังเลอยู่ระหว่างสีแดงกับสีขาว คิดไปคิดมามาจบลงที่สีขาว ก็กะว่าใส่เคสก็เป็นสีอื่นละ งั้นเครื่องสีขาวละกัน อยากได้บอดี้สีอะไรก็ค่อยใส่เคสเอาเนอะราคา iPhone SE 2020 จะอยู่ที่ หน่วยความจำ 64 GB ราคา 14,900 บาทหน่วยความจำ 128 GB ราคา 16,900 บาทหน่วยความจำ 256 GB ราคา 20,900 บาทส่วนตัวเลือกตัวกลาง คือ 128 GB 16,900 บาท มัดจำตอนจองคือ 1,000 บาท ในส่วนของมือถือ Android เครื่องเดิมที่ใช้อยู่นั้น หน่วยความจำอยู่ที่ 64 GB ซึ่งก็รู้สึกว่าเพียงพอในการใช้งานอยู่นะ คงเป็นเพราะเรามักจะลบรูปภาพที่แคปหน้าจอไว้ หรือถ่ายไว้นานไม่ได้ใช้แล้วออกจากเครื่องอยู่บ่อย ๆ หน่วยความจำก็เลยยังมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการใช้งาน อีกอย่าง Application ที่ดาวน์โหลดมาแล้วไม่ได้ใช้งาน หรือใช้งานไม่บ่อย ก็จะลบออกอยู่เสมอและหน่วยความจำตั้ง 128 GB ของ SE นะหรอ ถึงแม้ว่าหน่วยความจำของคุณจะมากมายเพียงใด แอพที่มากับเครื่องก็มากมายไม่แพ้กันค่ะ โหลดแอพลงเครื่องอีก 5-6 แอพ ความจำก็หายไปประมาณ 10 กว่ากิ๊กแล้วจ้าหน้าจอ ขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว เล็กลงจากเครื่องเดิมที่ใช้อยู่ตั้ง 1 นิ้ว แต่ฉันก็เลือกเธอไปแล้ว อาจจะดูไม่เต็มตา เท่าจอ 5 นิ้ว ++ แต่ก็มีข้อดีตรงการใช้งานมือเดียวได้ถนัดกว่า ใส่กระเป๋ากางเกงได้ดีกว่า ไม่ใหญ่ และไม่หนักจนเกินไป เคยไหมที่ใส่กางเกงเอวยืด พอใส่มือถือในกระเป๋ากางเกงแล้วรู้สึกเหมือนกางเกงจะหลุดอะ และแน่นอนว่า เมื่อจอเล็กลง ( จากที่เคยใช้ ) แป้นพิมพ์ก็ย่อมเล็กลงด้วยเหมือนกัน แต่ก็ไม่ถึงกับแย่นะ ส่วนคนที่นิ้วใหญ่อาจจะไม่ค่อยถนัดนะคะสีสันบนหน้าจอค่อนข้างแตกต่างกันกับ Android ความสดของหน้าจอจะน้อยกว่า แต่ดูแล้วสีตรงกับสีจริงมากกว่าขนาดตอนที่ยังไม่ใส่เคส กำลังพอดีมือค่ะกล้องหลัง มีละลายหลังในโหมดถ่ายภาพบุคคล ส่วนวัตถุก็จะลายหลังเบา ๆกล้องหน้า เป็นที่รู้กันอยู่ว่ากล้องหน้ามือถือเอนดรอยด์ส่วนใหญ่นั้น สวย ฟรุ้งฟริ้ง เกินจริงแม้ไม่มีแอพ แต่ละยี่ห้อก็จะแตกต่างกันในเรื่องความผิวเนียน ผิวใส อมชมพู หน้าเรียวหน้ายาว ซึ่งความเนียนของกล้องหน้าใน SE 2020 ถือว่าทำได้ดีนะ ทั้งเนียนแต่ยังมีความเป็นผิวจริงอยู่ และลายหลังด้วย ปลดล็อคโดยใช้ลายนิ้วมือซึ่งก็เป็นโหมดที่ไม่เคยใช้เหมือนกัน เลยไม่ขอออกความเห็นว่าแตกต่างกับเอนดรอยด์ยังไงซิมคู่ เป็นรุ่นที่ใส่ได้ 2 ซิม Nano-SIM และ eSIM ( ซึ่งบางเครือข่ายอาจไม่รองรับ eSIM และ eSIM ไม่เหมาะที่จะใช้อินเทอร์เน็ตด้วยค่ะ เพราะยังไม่เสถียรพอ อันนี้พนักงานบอกมา ) ทางเราก็เลยใช้แค่ Nano-SIM อย่างเดียว เสียใจอะ ในขณะที่ถ้าเป็นเอนดรอยด์รุ่นที่ใส่ได้ 2 ซิม จะมีความง่ายดายในการใช้งานซิมการ์ดมากกว่าไม่มีช่องเสียบหูฟัง หูฟังอันเดิมที่มีอยู่จึงไร้ประโยชน์ขึ้นมาในทันทีค่ะ ต้องใช้หูฟังที่ได้มาใหม่ในกล่องเท่านั้น หรือจะซื้อหูฟังบลูทูธ ก็แล้วแต่เลยจ้ะอแดปเตอร์ ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับการชาร์จเร็ว-ช้า ความรวดเร็วในการชาร์ตแบตกับหัวชาร์จที่ให้มาจึงถือว่ารับได้ ไม่ต่างจากที่เคยใช้เท่าไหร่ สรุปโดยรวมในความเป็นแอปเปิ้ล หน่วยความจำที่ได้ กล้องที่คมชัด ความเร็วของเครื่อง ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคาพอสมควรค่ะเป็นรุ่นที่ราคาไม่ไกลเกินเอื้อม สำหรับคนที่อยากได้มือถือใหม่สักเครื่อง ก็ลองเอามาประกอบการตัดสินใจดูนะคะ เครดิตรูปภาพเจ้าของบทความ