Jurassic World: Fallen Kingdom “จูราสสิค เวิลด์ กับอาณาจักรที่ล่มสลาย” เป็นหนังอีกเรื่องนึงที่ผมพลาดจากการดูในโรงภาพยนต์ซึ่งมันเป็นอะไรที่น่าเสียดายมาก แต่ไม่เป็นไรไหนๆ ช่วงนี้ผมต้องอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติอยู่แล้วก็เลยมีเวลามากพอตามเก็บตามดูหนังที่พลาดไปดูในโรงภาพยนต์ และหนังเรื่องนี้ก็เป็นหนังอีกเรื่องนึงที่ผมไม่อยากจะพลาดที่จะดู Jurassic World: Fallen Kingdom “จูราสสิค เวิลด์ กับอาณาจักรที่ล่มสลาย” เป็นเรื่องราวต่อจากเหตุการณ์ในภาคแรก 3 ปี หลังจากการล่มสลายของสวนสัตว์ไดโนเสาร์ที่เรารู้จักกันในนามจูราสสิค พาร์ค เหตุการณ์ในภาคนี้โอเว่น (รับบทโดย Chris Pratt) และแคลร์ (รับบทโดย Bryce Dallas Howard) ได้รับข้อเสนอให้เข้าไปช่วยจัดการเรื่องไดโนเสาร์เกี่ยวกับการช่วยเหลือพวกมันก่อนที่ภูเขาไฟที่เกาะแห่งนั้นจะระเบิดขึ้นทั้งคู่พร้อมทีมงานก็เลยเข้าไปเพื่อที่จะช่วยไดโนเสาร์เหล่านั้น แต่อันที่จริงแล้วเรื่องราวทั้งหมดมีบางอย่างแอบแฝงอยู่เบื้องหลังแต่มันจะอะไรแล้วจะเกิดอะไรขึ้นพวกเขาจะช่วยไดโนเสาร์ได้สำเร็จหรือไม่ ก็ไปตามเอาใจช่วยกันในหนังเต็มๆ นะครับ หลังจากที่ผมดูหนังเรื่องนี้จบต้องบอกเลยว่าเป็นหนังที่สนุกมาก การเดินเรื่องของหนังจะพาให้เราไปได้เห็นเกาะของไดโนเสาร์ (ที่มนุษย์สร้างขึ้นและในปัจจุบันถูกทิ้งร้างไม่มีคนดูแลไดโนเสาร์เลยได้อยู่ในธรรมชาติ) ตัวผมนี้ตาลุกวาวมากในความที่ตัวหนังสร้างมาได้อลังการและเหมือนพวกไดโนเสาร์มีชีวิตอยู่จริง (ทำมาได้ดีไม่แพ้ภาคก่อนหน้า) งานภาพด้านนี้ของหนังช่างไร้ที่ติจริงๆ เรื่องราวของไดโนเสาร์หลายคนอาจเคยเห็นและคุ้นชินมาในหนังภาคเก่าบางคนอาจไม่ว้าวแต่ผมอยากจะบอกว่าในภาคนี้ที่ทำให้ผมตาลุกวาวได้อีกอย่างก็คือฉากภูเขาไฟระเบิด เหตุการณ์ในช่วงนี้ของหนังทั้งสนุกทั้งงานภาพที่สวยอลังการและยังให้อารมณ์ลุ้นตามไปกับความตื่นเต้นกับการหนีตายของโอเว่นและพรรคพวกเพราะไม่ใช่แค่ต้องหนีจากภูเขาไฟแต่ยังต้องหลบพวกไดโนเสาร์อีกเพราะเหล่าไดโนเสาร์ก็วิ่งหนีตายเช่นกัน ผมลุ้นตามจนหืดขึ้นคอเลยในฉากนี้ และนอกจากฉากบนเกาะแล้วฉากอื่นๆ ของหนังก็ทำมาให้เราได้ลุ้นตามและตื่นเต้นแทบไม่ได้พักต้องขอย้ำเลยว่าเป็นหนังที่สนุกมากจริงๆ รวมถึงตัวหนังยังให้อารมณ์ดราม่าชวนสงสารเหล่าไดโนเสาร์ที่ทำเอาผมเกือบเสียน้ำตาและนอกจากนั้นก็มีฉากตลกร้ายที่มีมาเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องจนขำท้องแข็งเลยทีเดียว เป็นหนังที่ให้อารมณ์มาครบรสชาติจริงๆ ครับ ส่วนของตัวเนื้อเรื่องของหนังก็มีความน่าสนใจกับประเด็นที่มีคนคิดจะหากำไรจากไดโนเสาร์ คนที่รักและอนุรักษ์ไดโนเสาร์อย่างโอเว่นและแครล์จะจัดการเรื่องนี้อย่างไร จุดนี้ของเนื้อเรื่องตัวหนังก็ทำให้เราต้องไปเอาใจช่วยพวกเขาทั้งคู่รวมถึงต้องเอาใจช่วยไดโนเสาร์ให้มีชีวิตต่อไปอย่างเข้มข้นจนลืมเลยว่าเป็นหนัง (นึกว่าเป็นเรื่องจริง) การเดินเรื่องของหนังก็ทำมาได้ดีสนุกแทบทุกฉากทุกตอนไม่มีตรงไหนน่าเบื่อเลย เป็นหนังอีกเรื่องนึงที่ผมอยากให้เพื่อนๆ ผู้อ่านทุกท่านที่ยังไม่เคยดูหนังเรื่องนี้ได้ไปหาหนังเรื่องนี้มาดู เพราะหลังจากที่ผมดูหนังเรื่องนี้จบผมชอบมากสนุกมากจนลืมความน่าเบื่อที่ต้องอุดอู้อยู่แต่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติได้เป็นอย่างดีเลย นี่ก็เป็นความรู้สึกหลังจากที่ผมดูหนังเรื่องนี้จบและอยากจะมาเล่าความสนุกให้เพื่อนๆ ผู้อ่านได้สนใจหนังเรื่องนี้ก็ลองไปหามารับชมกันนะครับเป็นหนังที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งขอบคุณภาพประกอบจาก universalpictures และ IMDbภาพประกอบที่ 1 / ภาพประกอบที่ 2 / ภาพประกอบที่ 3 / ภาพประกอบที่ 4 / ภาพประกอบที่ 5ภาพปกบทความ