พลาดไม่ได้จริงๆ กับ Kleo (คลีโอ) ซีรีส์แอ็กชันคอเมดี้สัญชาติเยอรมันจากทาง Netflix ที่เพิ่งเข้าฉายไปได้ไม่นานที่มีทั้งความโหด มันส์ ฮาและเลือดสาดแบบจัดเต็ม โดยจะพาย้อนกลับยังช่วงยุค 80s-90s ของเยอรมันกับการแก้แค้นที่เหนือชั้นและบ้าคลั่ง รับประกันถึงความสนุกจริงๆ เพราะขนาดเจ้าพ่อนักเขียนสายสยองอย่างสตีเฟ่น คิงเองก็ยังแนะนำให้ดูซีรีส์เรื่องนี้กันเลยทีเดียวเชียว ซึ่งก็ได้ฝีมือการสร้างของ Richard Kropf, Hanno Hackfort และ Bob Konrad พร้อมกับการนำแสดงโดย Jella Haase และ Dimitrij Schaad ที่จะมาร่วมถ่ายทอดความสนุกให้กับซีรีส์เรื่องนี้เรื่องย่อว่าด้วยเรื่องราวในเบอร์ลินเมื่อปี 1987 ของอดีตสายลับมือสังหาร Kleo Straub (รับบทโดย Jella Haase) ที่ได้รับคำสั่งให้ทำภารกิจโดยการไปลอบฆ่าชายหนุ่มนักธุรกิจในบาร์แห่งหนึ่ง แต่หลังจากที่เธอทำภารกิจสำเร็จ เธอก็ถูกส่งเข้าคุกทันทีโดยไร้ซึ่งสาเหตุ ภายใต้คำสั่งของหน่วยงานที่เธอสังกัดอยู่ เมื่อเธอได้รับการปล่อยตัวออกมา เธอจึงตัดสินใจออกมาตามล่าล้างแค้นและตามหาความจริงว่าเพราะอะไรและใครเป็นคนทำให้เธอต้องติดคุก แต่เรื่องราวก็ไม่ง่ายดายเช่นนั้นเมื่อเธอก็ถูกตามล่าโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งที่มีชื่อว่า Sven (รับบทโดย Dimitrij Schaad) และเรื่องราวทั้งหมดนี้ก็นำพาทั้งเขาและเธอไปสู่เรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ วุ่นวายและอันตรายสุดๆ ความรู้สึกหลังดูซีรีส์เรื่องนี้มีทั้งหมด 8 ตอน แบ่งออกตอนละประมาณ 40-50 นาทีโดยประมาณ ภาพรวมของเนื้อหาทั้งหมดกับจำนวนตอนก็ค่อนข้างมีความสัมพันธ์กัน เล่าได้ครบถ้วนและช่วงเวลาแต่ละตอนก็กำลังสนุกอย่างพอดิบพอดีด้วย ชวนให้ดูต่อได้เรื่อยๆ การลำดับเนื้อหาก็สามารถเรียบเรียงออกมาได้อย่างดีเลยทีเดียว มีการค่อยๆ พยายามสื่อสารกับผู้ชมอยู่เรื่อยๆ ด้วยข้อมูล เบื้องลึกเบื้องหลังของตัวละครที่ค่อยๆ เล่าออกมาอย่างไม่เร่งรีบและไม่ยัดข้อมูลให้ผู้ชมเยอะจนเกินไป ทุกอย่างลงตัวสุดๆ ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าถ้าใครมาตามหาแอ็กชันจ๋าๆ บู๊จัดๆ อาจจะไม่เหมาะ เพราะตัวซีรีส์เรื่องนี้มันมีความ Slowburn เล่าช้าๆ แก้แค้นแบบนิ่งเงียบแต่เฉียบพลันและต่อยหนักทุกฮุคสิ่งที่อยากจะชื่นชมและเป็นสิ่งที่เราเองรักมากที่สุดในซีรีส์เรื่องนี้คือ งานด้านวิชวลและการคุมโทนสีที่ยอดเยี่ยมมาก ทุกอย่างดูผ่านการคิด ผ่านการหยิบจับให้มาวางในซีนได้อย่างประณีตและลงตัวมากที่สุด ทุกองค์ประกอบ ทุกรายละเอียดมันสมบูรณ์แบบมาก แล้วตัวซีรีส์เรื่องนี้ก็สามารถคีพรายละเอียดอะไรแบบนี้ได้ตลอดทุกตอน ทำเอาเราประทับใจมากๆ เลยทีเดียว แสง สี เสื้อผ้า สถานที่ ช่างสรรหาคิดและจัดทำจริงๆ โห ใครที่ชื่นชอบดูรายละเอียดงานภาพและสี ขอแนะนำเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้น่าจะตอบโจทย์มากเลยทีเดียว ซึ่งการคุมโทนสีที่เน้นหนักไปทางด้าน สีน้ำเงิน สีเหลือง สีส้มและสีแดงมันถูกเบลนกันได้อย่างพอดีมากและทำให้ภาพรวมของเรื่องออกมามีน้ำเสียงที่จริงจังแต่ในขณะเดียวกันก็ดูสดใสและก็ชวนให้รู้สึกว่ามันสนุกสนานอีกด้วยต่อมาในด้านของเนื้อเรื่อง ก็ต้องชมอีกเช่นกันว่าทำออกมาได้อย่างดีเลย มีการลำดับเนื้อหาได้อย่างถูกต้อง ในตอนแรกก็แอบคิดว่าเนื้อหาเบื้องหลังตัวละครมันแอบเบาไปนิดหน่อยเพราะแรกๆ ไม่ค่อยได้อินกับตัวหลักอย่าง คลีโอ เลยเพราะเหมือนกับว่าความเจ็บปวดหรือรายละเอียดเบื้องหลังมันอาจจะยังไม่มากพอ แต่พอหลังๆ มาได้สัมผัสเรื่องราวของตัวละครหลักมากขึ้นก็ช่วยเติมเต็มความรู้สึกนั้นได้เป็นอย่างดี ซึ่งการพาย้อนอดีตกลับไปดูเรื่องราวของคลีโอผ่านการถ่ายในสถานที่เดียว ที่ดูเป็นมิติ อันนั้นส่วนตัวคือชอบมาก ออกแบบมาดีมากๆ มีเสน่ห์และเล่าได้อย่างมีมิติ เป็นการย้อนอดีตไปเล่าเรื่องได้อย่างมีชั้นเชิงและไม่ธรรมดาเลยทีเดียวนอกจากนี้คือเนื้อเรื่องโดยรวมคือดูเหมือนจะเข้มข้น ดราม่ามาก แต่จริงๆ แล้วมันกลับตลกและมีน้ำเสียงที่ผ่อนคลายมาก แถมยังมีฉากบู๊ต่อสู้ที่ชวนให้มึนงงประมาณว่าแบบ 'อย่าให้เขารู้ Move ต่อไปของเรา' แบบเดาทางยากจริงๆ อะไรที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น ซีรีส์นี้ก็จะทำทุกอย่างจัดออกมาให้เห็น ซึ่งก็ถือเป็นเสน่ห์และความน่ารักของซีรีส์เรื่องนี้จริงๆ และที่ยกคะแนนให้ไปเต็มๆ เลยก็คือการแสดงของ คลีโอ หรือ Jella Haase แบกเรื่องได้อย่างสมบูรณ์แบบ สีหน้า ท่าทาง แววตาและน้ำเสียงคือใช่! ใช่เลย ถูกต้อง ยอดเยี่ยมและน่าประทับใจมาก ส่วนหนึ่งคือเขาออกแบบตัวละครออกมาได้ดีด้วย มันมีมิติ มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงมีความเป็นตัวของตัวเองค่อนข้างสูงและตัวของ Jella Haase ก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้เป็นอย่างดี ครบถ้วนและหมดจด เราชอบความที่ตัวละครนี้มันมีความบ้าๆ พร้อมจะคลั่งได้ง่ายๆ ดูคาดเดาได้ยาก แต่ในขณะเดียวกันก็มีความนิ่งเงียบ เก็บซ่อนและก็อดทนสูงมากๆ มันเลยทำให้ตัวละครนี้บวกกับการแสดงของเธอก็ยิ่งมีเสน่ห์เอามากๆส่วนตัวละครอื่นๆ อย่าง Thilo หรือ ทีโล เด็กหนุ่มไฮป์สายดนตรีที่ดูเหมือนไม่มีอะไรสำคัญ แต่จริงๆ แล้วเราเองกลับมาว่าตัวละครนี้สำคัญมากๆ เลยทีเดียว เป็นตัวละครที่ช่วยเติมเต็ม คลีโอ ให้ดูผ่อนคลายและทำให้ภาพรวมของเรื่องราวทั้งหมดมีความกลมกล่อมมากขึ้น ตัวละครประมาณนี้ถ้าไปอยู่ในซีรีส์หรือภาพยนตร์เรื่องอื่นก็อาจจะไม่ได้เป็นภาพจำอะไรมากนัก แต่สำหรับตัวละครอย่างทีโลในเรื่องนี้แล้วเป็นอีกหนึ่งภาพจำที่น่าประทับใจเลยทีเดียว โดยรวมทั้งหมดของทุกตอนก็บอกได้เลยว่าเป็นซีรีส์ที่ชวนดูได้เรื่อยๆ จริงๆ มันพาตื่นเต้นพาลุ้นได้ตลอด และในตอนจบก็พาจบแบบชวนต่อซีซัน 2 มาก ส่วนตัวก็คิดว่ามันยังไปต่อได้อีกนะ (555) เอาเป็นว่าถ้าใครดูเรื่องนี้แล้วสนใจอยากลองดูซีรีส์จากสัญชาติอื่นๆ บ้างขอแนะนำเรื่อง How to sell drug onlline (Fast) และ Dirty Line สายด่วนคลายเหงา ที่ก็สนุกไม่แพ้กันสรุปKleo (คลีโอ) ก็ถือเป็นซีรีส์สัญชาติเยอรมันคุณภาพเยี่ยมอีกหนึ่งเรื่องจากทาง Netflix ที่อยากจะแนะนำทุกคนให้ได้ดูจริงๆ มันครบรสทั้งบู๊ ดราม่า สนุกสนาน บ้าบิ่น ระห่ำและคลั่งสุดๆ แถมที่สุดคือภาพสวยแบบจับใจจริงๆ ขอรับประกันความสนุกกับซีรีส์เรื่องนี้ ถ้ามีโอกาสไม่อยากให้พลาดเด็ดขาด! เปิด Netflix แล้วรีบดูกันด่วน! (มีพากย์ไทยด้วยนะ) ����ชมตัวอย่างด้านล่างhttps://youtu.be/Zd3k7BOlJpE ขอบคุณวิดีโอ Kleo | Official Trailer จาก Netflixขอบคุณภาพปกและภาพประกอบ 1/2/3/4/5-1,5-2 จาก jella_h จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !