รีวิว Oppenheimer (ออปเพนไฮเมอร์) สุดยอดหนังชีวประวัติจากเสด็จพ่อโนแลน เรื่องราวของการสร้างระเบิดที่จะเปลี่ยนโลกทั้งใบไปตลอดกาล บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่าเรื่องย่อ Oppenheimer (ออปเพนไฮเมอร์)ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างมาจากเรื่องจริงของยอดนักฟิสิกส์ในตำนาน J. Robert Oppenheimer (รับบทโดย Cillian Murphy) ชายผู้ถูกกำหนดให้ดูแลโครงการแมนแฮตตันในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อรวบรวมนักวิทยาศาสตร์หัวกะทิมาช่วยกันสร้างระเบิดปรมาณูลูกแรกของโลก อันนำไปสู่การทิ้งระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมะและนางาซากิ ภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาเราย้อนกลับไปดูชีวิตของ Oppenheimer ตั้งแต่ช่วงที่เขาเป็นอาจารย์ฟิสิกส์ ไปจนถึงช่วงหลังที่เขาโด่งดังจากการสร้างระเบิดปรมาณู และเรื่องการถูกดำเนินคดีทางกฎหมายในข้อหาฝักใฝ่คอมมิวนิสต์ ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไรนั้นทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง Oppenheimer (ออปเพนไฮเมอร์) ฉายแล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนตร์ตัวอย่าง Oppenheimer (ออปเพนไฮเมอร์)รีวิว Oppenheimer (ออปเพนไฮเมอร์) สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเลยว่าผมรอคอยมานานมากๆ เพราะส่วนตัวชอบผลงานของโนแลนอยู่แล้ว บวกกับเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ชีวประวัติซึ่งเป็นแนวที่ผมชอบอยู่แล้ว ผมเดินเข้าโรงไปด้วยความหวังอันเต็มเปี่ยม และออกมาด้วยความอิ่มเอมแบบที่สุด ประทับใจและชอบมากๆ แม้ว่าตัวหนังจะไม่ได้จบแบบปลายเปิดให้เราไปคิดต่อเหมือนหนังเรื่องส่วนใหญ่ของโนแลน แต่หนังมันพาเราไปจนสุดทาง ถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครออกมาได้อย่างเต็มเปี่ยม และส่งเมสเสจได้ถึงคนดูแบบหมดจด เตือนก่อนว่าหนังเรื่องนี้คุยกันทั้งเรื่องแบบเกือบ 100% ดังนั้น ใครที่ไม่ชอบแนวนี้อาจไม่ถูกจริต แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นการคุยกันตลอด 3 ชั่วโมงที่สนุกและดูเพลินมากๆ ดำเนินเรื่องได้ดี เรื่องราวเข้มข้นน่าติดตาม ลำดับการเล่าเรื่องอาจไม่ได้เป็นเส้นตรงแต่มันมีชั้นเชิงมากๆ หากตั้งใจดูแบบตาไม่กระพริบรับรองว่าไม่งงแน่นอน หนังเล่าค่อนข้างละเอียด แต่หากเผลอหลุดโฟกัสไปแปปเดียวอาจงงได้เหมือน ดังนั้น ใครจะไปดูคือต้องเตรียมตัวให้พร้อม ห้ามพลาดซักวินาทีเดียวจริงๆอีกอย่างที่อยากบอกคนที่จะไปดูคือ เรื่องราวในหนังมันค่อนข้างจริงจัง เข้มข้น มันเต็มไปด้วยการเมืองและประวัติศาสตร์ในยุคสมัยนั้น แถมตัวละครในเรื่องก็เยอะมากๆ แนะนำให้ทำการบ้านและศึกษาเกี่ยวกับเหตุการณ์ในยุคนั้นไปก่อนจะอินกว่าเดิมมาก หากเข้าใจสถานการณ์สงครามและการเมืองของในอเมริกาในยุคนั้นจะทำให้หนังสนุกขึ้นไปอีก ขอชมเลยว่าโนแลนเขียนบทมาดีและลำดับเหตุการณ์ได้ดีสุดๆ ลองนึกตามว่าหากเราไปยืนจุดเดียวกับ Oppenheimer เราก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน มันกลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริงๆ เมื่อผลงานที่คุณทุ่มเทเวลาให้กว่า 3 ปีมันมีเพื่อสังหารผู้คน คือตอนสำเร็จใจนึงก็ดีใจมากๆ เพราะมันเป็นเหมือนผลงานชิ้นเอก แต่ผลลัพธ์ของผลงานชิ้นนั้นมันก็หนักอึ้งในใจไม่แพ้กัน หากเราเข้าใจจุดนี้เราจะเข้าใจความคิดของตัวละครนี้มากขึ้น ส่วนตัวผมชอบฉากตอนทดลองระเบิด กับฉากจบที่พระเอกไปคุยกับไอน์สไตน์มาก มันทรงพลังมากจริงๆ ดูจบแล้วอยากจะลุกขึ้นยืนปรบมือให้เลย อีกสิ่งที่ผมเซอร์ไพรส์คือเรื่องนี้เขาไม่ได้ใช้สเกลภาพ IMAX เพื่อถ่ายทอดความอลังการของระเบิดหรืองานโปรดักชั่น แต่เขาใช้สเกลภาพไปกับการถ่ายทอดการแสดงและสีหน้าของนักแสดงในเรื่อง ทุกซีนที่เป็นซีนอารมณ์เขาจะถ่ายแบบ Close-up ให้เราได้เห็นสีหน้าของตัวละครอย่างชัดเจนแบบถึงรูขุมขน มันเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่แต่ก็รู้สึกดีมากๆ เช่นกันส่วนต่อมาคือด้านการแสดง ส่วนนี้ไม่มีอะไรจะติเลย ไร้ที่ติมากๆ นักแสดงในเรื่องทุกคนปล่อยพลังการแสดงกันแบบไม่มีกั๊ก นักแสดงนำอย่าง Cillian Murphy ทำหน้าที่ของตัวเองได้แบบสมบูรณ์แบบสุดๆ การแสดงของเขามันแบกหนังทั้งเรื่องได้แบบสบายๆ ผมดีใจมากจริงๆ ที่คนมีฝีมือแบบเขาได้รับโอกาสได้แสดงฝีมือเสียที นอกจากพระเอกแล้วนักแสดงคนอื่นๆ ก็แสดงได้ดีกันทุกคน ตัวร้ายของป๋า Robert Downey Jr. ก็ดีงามมากๆ เช่นกัน ป๋าแกสลัดภาพจำในบท Iron Man ไปได้แบบหมดจดจริงๆ ส่วนสุดท้ายคือด้านงานภาพและงานโปรดักชั่น ส่วนนี้ก็ไร้ที่ติเช่นเดียวกัน ภาพสวยทุกเฟรมทุกวินาที งานโปรดักชั่นอลังการสมจริงสมจังแบบดูแล้วเชื่อว่าอยู่ในยุคนั้นจริงๆ เสื้อผ้าหน้าผมตัวละครทำออกมาดีหมด ไปจนถึงเพลงประกอบและซาวน์เอฟเฟกต์ เรียกได้ว่าเป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่ดูแล้วรู้สึกคุ้มค่าตั๋วมากๆ ดูจบแล้วติดอยู่ในใจจนอยากจะไปดูซ้ำอีกรอบ แนะนำให้ไปดูในระบบ IMAX จะได้อรรถรสกว่ามาก ใครที่ชอบภาพยนตร์แนวชีวประวัตินี่ไม่ควรพลาดเรื่องนี้เลยจริงๆ รับประกันว่าไม่ผิดหวังแน่นอน อย่างไรก็ตาม รีวิวนี้เป็นเพียงความรู้สึกส่วนตัวของผมเท่านั้น อย่าเชื่อทั้งหมดที่ผมรีวิว เพราะรสนิยมของแต่ละคนต่างกัน ทางที่ดีที่สุดคือทุกคนต้องไปรับชมและตัดสินมันด้วยตาของตัวเองสุดท้ายนี้ ฝากกดแชร์ และกดติดตามด้วยนะครับช่องทางอื่นๆ ในการติดตาม ละเลงหนังFacebook Fanpage : ละเลงหนังกลุ่มสำหรับพูดคุยเรื่องหนัง : พูดคุยเรื่องหนังทุกเรื่องบนโลก By ละเลงหนังบทความอื่นๆของ ละเลงหนัง :รีวิว Burn the House Down (ไฟแค้น ไฟอดีต) ซีรีส์ล้างแค้นจากญี่ปุ่นที่ริ่มต้นอย่างขมแต่จบแบบนุ่มนวลรีวิว Akira and Akira (อากิระกับอากิระ) หนังธรุกิจและการเงินน้ำดีจากญี่ปุ่นที่ทุกคนไม่ควรพลาด!รีวิว+เปิดวาร์ปนักแสดง King the Land (คิง เดอะ แลนด์) ซีรีส์เกาหลีรอมคอมสุดน่ารักที่มาแรงที่สุดในตอนนี้!รีวิว They Cloned Tyrone (โคลนนิงลวง ลับ ล่อ) เมื่อ 3 เกรียนต้องบุกห้องทดลองโคลนนิง ผลงานน้ำดีจาก Netflix ที่ไม่ควรพลาด [มีพากย์ไทย]รีวิว Barbie (บาร์บี้) ภาพยนตร์ฉบับคนแสดงที่ไม่ได้มีดีแค่ความสดใส แฝงไปด้วยข้อคิดรีวิว Bird Box: Barcelona มอง อย่าให้เห็น (บาร์เซโลนา) ภาคแยกที่ทำออกมาได้ธรรมดา จืดชืด และน่าผิดหวังรีวิว Mission: Impossible - Dead Reckoning Part One (ล่าพิกัดมรณะ ตอนที่หนึ่ง) ภาคต่อที่ดีงามสมการรอคอย ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง!รีวิว Record of Ragnarok II Part 2 (มหาศึกคนชนเทพ ซีซั่น 2 พาร์ท 2) [5 ตอนสุดท้าย] การต่อสู้สุดดุเดือดระหว่าง ศากยมุนี VS ซีโรฟุกุแหล่งที่มาทั้งหมดจาก Major Group, Oppenheimerภาพปก: ภาพที่ 1 ภาพประกอบ: ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 วิดีโอ: Oppenheimer - New Official Trailer [ซับไทย] จาก Youtube: Major Groupคอมมูนิตี้ “โลกคนรักหนัง” ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน