สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ผมจะมารีวิว Spider-man Into the Spider-verse ภาพยนตร์แอนิเมชั่นฟอร์มยักษ์ที่จะพาทุกคน ดำดิ่งไปกับจักรวาลของตัวละครซูเปอร์ฮีโร่ที่เรารู้จักกันดี ฉายาเค้าคือ "เพื่อนบ้านผู้แสนดี สไปเดอร์แมน" นั่นเองครับ โดยภาพยนต์อนิเมชั่นเรื่องนี้จะกล่าวถึงสไปเดอร์แมนจากหลาย ๆ จักรวาลที่จะมารวมกันปกป้องมิติจักรวาลคู่ขนานไม่ให้ถูกทำลายลงนั่นเองครับ เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ คิงพิน สุดยอดวายร้ายตัวหนึ่ง สร้างเครื่องเร่งอนุภาคเพื่อเปิดประตูมิตินำภรรยาและลูกชายของเขามาจากมิติอื่น เนื่องจากเค้าสูญเสียภรรยาและลูกไปหลังจากที่เห็นเขานั้นสู้กับสไปเดอร์แมน แต่การเปิดประตูมิตินั้นเองอาจทำให้โลกและมิติจักรวาลถึงคราวล่มสลายได้ สไปเดอร์แมนได้พยายามหยุดยั้งแผนการของคิงพินและต่อสู้กับเหล่าวายร้ายมากมายจนเกิดอุบัติเหตุทำให้สไปเดอร์แมนจากมิติอื่นนั้นถูกดึงมายังโลกนี้แทน ท้ายที่สุดสไปเดอร์แมนก็ถูกคิงพินฆ่าตาย แต่เขาได้ฝากความหวังไว้กับเด็กหนุ่มผิวสี ไมลส์ โมราเลส ผู้มีพลังแมงมุมเช่นเดียวกับเขาแล้ว ไมลส์ ที่พึ่งได้พลังแมงมุมมาใหม่นั้นได้เข้าไปพบเจอการต่อสู้ระหว่างสไปเดอร์แมนและคิงพินโดยบังเอิญ ก่อนสไปเดอร์แมนสิ้นลมหายใจเขาได้ฝากให้ไมลส์หยุดยั้งคิงพินและกอบกู้มิติคู่ขนานไม่ให้ถูกทำลายไว้ด้วย แต่ด้วยความอ่อนประสบการณ์ของเขาทำให้เขาไม่สามารถกอบกู้โลกคนเดียวได้ จึงได้ร่วมมือกับ ปีเตอร์ บี ปาร์กเกอร์ สไปเดอร์แมนจากมิติอื่นที่มาพบกันโดยบังเอิญในการสอนเค้าใช้พลังแมงมุมด้วย อีกทั้งยังต้องร่วมมือกับสไปเดอร์คนอื่นเช่น สไปเดอร์วูเมน สไปเดอร์แมนนัวร์ และผู้มีพลังแมงมุมจากหลากหลายมิติในการพาพวกเขากลับบ้านและปกป้องไม่ให้มิติจักรวาลทั้งหมดถูกทำลายอีกด้วย ด้วยเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม ภาพแอนิเมชั่นที่สดใสสไตล์อินดี้ที่ดูแล้วสวยงาม เพลงประกอบที่ไพเราะลงตัว เป็นอีกส่วนสำคัญที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สนุก บทดราม่าที่ทำได้ออกมาอย่างดีเยี่ยมที่ทำเอาผู้เขียนน้ำตาซึม ( ยิ่งใครเป็นแฟนคอมมิคหรือติดตามสไปเดอร์แมนมาอยู่แล้วจะรู้สึกอินเป็นพิเศษ ) โดยเป็นการเล่าผ่านมุมมองของไมลส์ โมราเลส แทนปีเตอร์ปาร์กเกอร์ ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นมหากาพย์บทใหม่ที่ต่างจากสไปเดอร์แมนในอดีตที่ผ่านมาทั้งหมด จุดเด่นของแอนิเมชั่นเรื่องนี้ก็คือ การที่หยิบยกนำประเด็นของ "ไมลส์ มอราเลส" มาเป็นตัวนำของเรื่องแทน ปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ ซึ่งเราจะคุ้นตาบ่อยมากกว่าไมสล์ มอราเลส อีกทั้งยังในส่วนบทของตัวเรื่องเองยังเล่นเกี่ยวกับประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างครู-ศิษย์ เพื่อน ครอบครัว ความรับผิดชอบ การเรียนรู้และพัฒนาการของตัวละครที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างดีเยี่ยม จนทำให้เราอินไปกับตัวละครต่าง ๆ ราวกับเราเป็น 1 ในตัวละครนั้น ๆ เอง เหตุผลอีกอย่างหนึ่งที่แฟนสไปดี้ทั้งหลายไม่ควรพลาดก็คือ การเปิดจักรวาลของเหล่าผู้มีพลังแมงมุมออกไปให้กว้างขึ้นอีก เราจะได้เห็นสไปเดอร์แมนในเวอร์ชั่นต่าง ๆ ไม่วาจะเป็นสไปเดอร์เกวน ( เกวน สเตซี่ที่มีพลังแมงมุม ) สไปเดอร์แฮม ( หมูพูดได้ที่มีพลังแมงมุม ) สไปเดอร์แมนนัวร์ (สไปเดอร์แมนขาวดำจากปี 1930 ) เพนนี ปาร์กเกอร์ ( สาวน้อยสุดโมเอะกับชุดหุ่นยนต์พลังแมงมุมของพ่อเธอ ) ปีเตอร์ บี ปาร์กเกอร์ ( สไปเดอร์แมนจากจักรวาลที่ตกอับ ผู้ที่จะมารับหน้าที่เป็นอาจารย์ให้กับไมลส์ มอราเลสของเรานั่นเอง ) ซึ่งแฟนสไปดี้ที่ได้เห็นการรวมทีมนี้ต้องกรี๊ดกันอย่างแน่นอน"พลังอันยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง" ภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องนี้ยังให้ข้อคิดเกี่ยวกับประเด็นด้านการผ่านช่วงความกดดันในชีวิต ความรับผิดชอบ หน้าที่ต่าง ๆ ที่ต้องแบกรับไว้ในชื่อของสไปเดอร์แมน ที่แม้จะมีพลังเหนือมนุษย์แต่หน้าที่และความรับผิดชอบต่อการใช้พลังนั้นก็ใหญ่ตามมาไม่แพ้กัน เอาเป็นว่าใครที่เป็นแฟนสไปเดอร์แมนละก็ภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่คุณไม่ควรพลาด และจะทำให้คุณยิ้มจนหยุดไม่อยู่เลยทีเดียว โดยตอนนี้สามารถรับชม Spider-man Into the Spider-verse ได้แล้วทาง Netflix ผ่านกล่อง True ID TV เพื่อความสนุกเต็มรูปแบบไปกับเพื่อนบ้านแสนดีสไปดี้ของเรานะครับ ^^ ขอขอบคุณรูปภาพทั้งหมดจาก Official trailer: youtube.com/watch