สวัสดีค่ะผู้อ่านทุกท่าน วันนี้มีภาพยนตร์เรื่องใหม่จาก Netflix ที่อาจจะดูผ่านๆแล้วก็คงจะเป็นหนังรักทั่วๆไป ที่น่าสนใจที่พระเอกคือจางกียงใช่ไหม แต่พอได้ดูแล้วต้องร้องออกมาว่า เฮ้ย! นี่อะไรกัน บอกเลยว่าพีคสุดๆ นั่นก็คือเรื่อง Sweet and Sour นั่นเอง เอาละค่ะทุกคน เราจะมารีวิวว่าทำไมเรื่อง Sweet and Sour ถึงควรค่าแก่การดู ไปกันเลย!! สำหรับเรื่อง Sweet and Sour ชื่อไทยก็คือ รักหวานอมเปรี้ยว เป็นภาพยนตร์ที่ฉายทาง Netflix ใช้เวลาในการดู 1 ชั่วโมง 42 นาที เป็นเรื่องราวของคู่รักในสมัยปัจจุบันคือ จางฮยอก (จางกียง) ที่เป็นพนักงานบริษัทที่ต้องย้ายไปที่สำนักใหญ่เพื่อให้ได้เป็นพนักงานประจำ กับ จองดาอึน (แชชูบิน) ที่เป็นพยาบาลสาวที่ต้องทำงานหนักในโรงพยาบาล ที่ต่างคนก็ต่างมีหน้าที่การงานที่ต้องทำ โดยเนื้อเรื่องจะบอกเล่าชีวิตของคู่รักที่ตั้งแต่ยังรักกันหวานชื่น ถึงแม้จะต้องย้ายไปทำงานในโชล ก็ยังขับรถกลับมาพักกับแฟนสาวได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า ชีวิตรักที่หวานชื่นก็เริ่มจะเปลี่ยนเป็นขมขื่น เพราะต่างคนต่างทำงานหนัก จากเรื่องเล็กๆน้อยๆที่เคยพูดคุยกันกลับไม่มีเวลาได้พูดกัน จากที่เคยเจอกันทุกวัน กลับเปลี่ยนเป็นสัปดาห์ละครั้ง ประกอบกับเมื่อฝ่ายชายเริ่มหวั่นไหวไปกับเพื่อนร่วมงาน คือ ฮันโบยอง (คริสตัล) ที่เป็นคู่หูที่เป็นเด็กใหม่ในบริษัท ต้องมาทำงานร่วมกัน สนิทกัน จึงทำให้เกิดความสั่นคลอนกับความสัมพันธ์ นับว่าเป็นภาพยนตร์ ที่ใกล้เคียงกับชีวิตรักของคนวัยทำงานในปัจจุบันมากๆค่ะ ที่บางทีเราทำแต่งานแต่ไม่เคยคิดเลยว่าบางทีเราอาจจะละเลยหน้าที่ในส่วนของการเป็นแฟนไป โดยไม่ได้รู้สึกตัวกับการเปลี่ยนไปของตัวเราเองเท่าไหร่ ทำให้เริ่มสะสมมากขึ้นจนกลายเป็นไหวหวั่นและนอกใจไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งการเปลี่ยนจากความหวานชื่นเป็นเปรี้ยวขึ้น ก็นับว่าเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตรักใช่ไหมคะ แต่ถ้าเราสามารถหันหน้ามาคุยกันและใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆโดยที่ไม่ไปหวั่นไหวกับคนอื่น ก็จะช่วยทำให้คู่รักของเรามีความสัมพันธ์ที่ดีและยาวนาน ประโยคเด็ดจากฉากในหนังก็คงจะหนีไม่พ้น ที่คุณลุงยามได้พูดกับ จางฮยอก (จางกียง) ตอนที่รู้ตัวเองแล้วว่า“หากคุณพลาดแท็กซี่คันหนึ่งไป คุณยังหาคันใหม่ได้ แต่หากคุณทำใครสักคนหลุดมือ มันจะไม่มีอีกแล้ว” ซึ่งก็นับว่าทำเอาหลายคนจุกอกกันเลยทีเดียว เมื่อหันกลับมามองที่คู่รักของตัวเองเมื่อเวลาผ่านไป เราผ่านอะไรกันมาตั้งเยอะ ก็ควรที่จะรักษาไว้ให้ดี เพราะมันจะไม่มีอีกแล้ว สำหรับฉากที่ดูเหมือนจะเจ็บปวดใจมากๆที่สุดก็คงจะเป็นตอนที่ จางฮยอก (จางกียง) ง้อ แล้วจับที่แก้มของ จองดาอึน (แชชูบิน) แล้วพูดชื่อผิดคนว่า โบยองคนสวยของฉัน แหมทำเอาจุกกันเลยทีเดียวใช่ไหมคะ ถ้าหากแฟนเราพูดชื่อของอีกคนหนึ่งกับเราก็คงจะแปลว่าเราไม่มีความคัญกับเขาเลย ขนาดชื่อยังเรียกผิด เป็นอีกจุดที่ขมขื่นและทำให้เกิดการทะเลาะกันและทำให้เกิดเลิกกัน ด้วยปัญหาต่างๆที่สะสมมา และอีกคนที่เปลี่ยนไป แต่จุดที่พีคกว่านั้นก็คือ 10 นาที ก่อนหนังจบ คือ แกงคนดูหนักมากจริงๆค่ะ เฉลยทุกอย่าง ตอนจบของเรื่องคือกระจ่างทุกอย่างจริงๆ ทำให้เราคิดไปเองว่าน่าจะเป็นแบบนี้ แต่! อย่าไว้ใจเด็ดขาดค่ะทุกคน คือทำหนังออกมาได้นับว่าพีคและหลอกคนดูสุดๆค่ะ ถ้าผู้อ่านอยากจะรู้ต้องไปดูค่ะ แล้วคุณจะโดนหลอกเหมือนกับเรา บอกเลยว่าพีคสุดๆค่ะสามารถรับชมได้แล้วตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย. 254 ทาง Netflix ตัวอย่างภาพยนตร์ เครดิตรูปภาพ ภาพปก: Netflix korea/ Twitter Canva ภาพประกอบ : Netflix korea /Twitter ;ภาพที่ 1 ภาพที่ 2 ภาพที่ 7Netflix/Facebook : ภาพที่ 3 Netflix/Instagram: ภาพที่ 4 5 6ขอขอบคุณวิดิโอ Sweet and Sour จาก Netflix อัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี!