Teen Spirit “ทีน สปิริต” เป็นเรื่องราวของไวโอเล็ต (รับบทโดย Elle Fanning) หญิงสาวชาวไร่วัยมัธยมหน้าใสที่มีความฝันอยากเป็นนักร้อง ไวโอเล็ตจึงได้ตัดสินใจลงประกวดรายการทีน สปิริตเพื่อที่จะไล่ล่าความฝันของตนเองแต่เรื่องราวชีวิตของเธอช่างแสนยากลำบาก การจะคว้าฝันในครั้งนี้มันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายและนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของหนังเรื่องนี้ ตัวเนื้อเรื่องของหนังก็จะไม่ต่างกับหนังล่าฝันทั่วไปที่ตัวนางเอกมีฝันแต่ก็มีขวากหนามที่ขวางกั้นอยู่ หนังแนวนี้แทบทุกเรื่องจะมีพื้นฐานที่จะสื่อมาให้เห็นถึงความพยายามและไม่ย้อท้อต่อความยากลำบาก เช่นเดียวกันครับเรื่องราวของไวโอเล็ตในหนังเรื่องนี้เธอก็ต้องก้าวข้ามหลายอย่างมากมายเพราะเธอเป็นสาวบ้านนอกที่ค่อนข้างยากจน ตัวเธอเองยังเป็นนักเรียนและยังต้องไปทำงานพิเศษในร้านอาหารรวมถึงยังต้องทำไร่อีกและมีบางครั้งที่เธอต้องแอบแม่ไปรับจ้างร้องเพลงเพราะแม่ของเธอไม่สนับสนุนเรื่องการร้องเพลงชีวิตของเธอช่างแสนยากลำบาก ตัวหนังจะเป็นหนังที่ให้อารมณ์หม่นๆ บวกกับงานภาพโทนมืดที่ทำให้คนดูอย่างเราต้องจมดิ่งไปกับความอึดอัดในเรื่องราวชีวิตของไวโอเล็ต และเมื่อเธอเข้าประกวดร้องเพลงตัวหนังก็ยิ่งใส่ประเด็นต่างๆ ที่ทำให้ชีวิตของไวโอเล็ตดูจะยิ่งยากเข้าไปอีกเพราะตัวเธอเองยังคงเป็นเพียงนักร้องสมัครเล่นที่ไม่ได้เก่งมากนักแต่โชคดีที่เธอเป็นคนที่มีพรสวรรค์ด้านการร้องเพลงอย่างมาก จุดนี้ของหนังจะทำให้เราต้องคอยเอาใจช่วยให้ไวโอเล็ตผ่านรอบต่อไปในการการประกวดนี้ให้ได้ ต้องยอมรับตรงๆ เลยว่าระหว่างที่ผมดูหนังเรื่องนี้ผมก็รู้สึกหวั่นใจอยู่ตลอดว่าไวโอเล็ตจะผ่านเข้ารอบไปได้หรือไม่เพราะตัวหนังเดินเรื่องมาเดายากมากจะออกหัวหรือจะออกก้อยก็เป็นไปได้ทั้งหมด ส่วนการเดินเรื่องของหนังในช่วงแรกไม่ได้มีอะไรหวือหวาเป็นหนังที่เดินเรื่องเรื่อยๆ ไม่ค่อยบันเทิงสักเท่าไหร่จะออกไปหม่นๆ เป็นหลักเลยก็ว่าได้ แต่การผูกโยงประเด็นต่างๆ ของหนังทำมาได้ดีและดูง่าย ระหว่างทางของการเดินเรื่องอาจจะดูไม่มีอะไรก็จริงแต่ช่วงท้ายของเรื่องกับโชว์สุดท้ายก่อนหนังจบเป็นฉากที่ดีมากเพลงที่ไวโอเล็ตเลือกขึ้นไปทำการแสดงผมมองว่าเหมือนเธอได้ปลดปล่อยตัวเองจากความอึดอัดที่มีมาตลอดทั้งเรื่องรวมถึงเป็นฉากที่ช่วยปลดปล่อยผมจากความอึดอัดจากความหม่นของหนังด้วยเช่นกัน ต้องยอมรับเลยถึงแม้หนังจะเดินเรื่องเรื่อยๆ มาทั้งเรื่องแต่พอมาเจอฉากนั้นทำให้ผมประทับใจหนังเรื่องนี้มาก เข้าใจเลยว่าทำไมหนังต้องอึดอัดมาทั้งเรื่องก็เพื่อให้เราว้าวและเข้าถึงฉากจบนั้นเอง และนอกจากนั้นตัวหนังยังใส่ประเด็นเล็กๆ ยิบย่อยต่างๆ มาในเนื้อเรื่องได้น่าสนใจอย่างเช่นประเด็นของช่วงชีวิตวัยรุ่นที่กำลังโตเป็นสาวหรือแม้แต่ชีวิตของเด็กบ้านนอกที่ได้เจอแสงสีในเมือง รวมถึงประเด็นความผูกพันธ์ที่ต้องเลือกระหว่างอนาคตหรือการไม่ทอดทิ้งผู้มีพระคุณ ประเด็นต่างๆ ของหนังล้วนแล้วแต่น่าสนใจทั้งนั้น โดยรวมแล้วตัวหนังเรื่องนี้อาจไม่ได้สนุกหรือบันเทิงมากนักแต่ก็เป็นหนังที่เนื้อเรื่องดีและน่าสนใจมาก ใครที่มีฝันอยากจะทำอะไรอยากจะเป็นอะไรก็ไม่ควรพลาดหนังเรื่องนี้โดยเด็ดขาด ส่วนใครที่ตามหาฝันเจออยู่แล้วแต่อยู่บ้านว่างๆ เบื่อๆ ก็ลองดูหนังเรื่องนี้ได้นะครับเป็นหนังที่ดีเลยทีเดียว นี่ก็เป็นความรู้สึกหลังจากที่ผมดูหนังเรื่องนี้จบแล้วอยากจะมาแนะนำกันก็ฝากไว้ประมาณนี้นะครับสำหรับหนังเรื่อง Teen Spirit “ทีน สปิริต”ขอขอบคุณภาพประกอบจาก bleeckerstreetmedia และ IMDb ภาพประกอบที่ 1 / ภาพประกอบที่ 2 / ภาพประกอบที่ 3 / ภาพประกอบที่ 4ภาพปกบทความ