Temp Staff Psychic Ataru (2019)เป็นซีรีส์ญี่ปุ่นที่ผมเขียนขึ้นมาเพื่อสวัสดีปีใหม่สมาชิกในเพจ ปีนรั้วดูหนัง ที่ผมทำอยู่ ด้วยเรื่องนี้เป็นซีรี่ส์ที่พูดถึงมนุษย์เงินเดือน เลยคิดว่าสาระแง่มุมที่ซีรีส์พูดถึง น่าจะพอมีประโยชน์กับคนที่ได้ดู Temp Staff Psychic Ataru เรื่องนี้ไม่มากก็น้อย ก็นะ...เศรษฐกิจแบบนี้ ไม่ใช่ว่ามีปัญหากับงานกับเพื่อนร่วมงาน แล้วจะตัดปัญหาด้วยการลาออกกันง่าย ๆ งานนี้แม่หมอ อาทารุ เลยจะช่วยชี้ทางสว่างให้กับทุกคนอาทารุ มาโทบะ (Hana Sugisaki) พนักงานชั่วคราว ที่เพิ่งได้เข้าร่วมงานกับทีม D แผนกวางแผนและจัดงานอีเว้นท์ของบริษัท Sincere Events เป็นงานแรกในชีวิต เธอเป็นคนมีบุคลิกสะดุดตาตั้งแต่ครั้งแรก ที่ คาสุมิ คันดะ (Mirai Shida) หนึ่งในสมาชิกทีม D มองเห็น ไม่ว่าจะการเดินก้มหน้าไม่สบตาใคร อยู่ในที่ร่มก็ยังใส่แว่นตาดำ อยู่ในลิฟต์ก็หันหน้าเข้าฝาผนัง แต่หลังจากที่ อาตารุ เริ่มแนะนำตัว เธอกลับสดใส เปลี่ยนไปเป็นคนละคนจนน่าแปลกใจงานแรกที่ทีม D ได้รับมองหมายหลังจาก อาตารุ เริ่มทำงานก็คือ การจัดอีเว้นท์ Smile Baby ให้กับผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก ซึ่งผู้จัดการฝ่ายอย่าง ทาคุมิ โยโยกิ (Mitsuhiro Oikawa) โยนปัญหาหนักอึ้งมาให้กับทีม ในการหาเด็กเข้ามาร่วมกิจกรรมในงาน แล้วคนที่ได้รับมอบหมายให้จัดการกับปัญหาที่ว่าก็คือ คันดะ ที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเด็ก ๆ อยู่พอดี เมื่อเธอกำลังตั้งท้องอ่อน ๆ กับแฟนที่ยังไม่มีงานทำ เพราะเขาอยากเป็นนักกฎหมายแต่สอบไม่ผ่านสักที ภาระหน้าที่หาเงินเข้าบ้านจึงตกมาเป็นของเธออยู่ฝ่ายเดียวขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบบทความจากซีรีส์ : Temp Staff Psychic Ataru (2019) ที่มา : tv-asahi.co.jpคันดะ ก็เลยกังวลว่าตัวเองจะใช้ชีวิตหลังจากนี้ยังไง เมื่อเด็กก็กำลังจะเกิดอนาคตแฟนก็ยังไปไม่ถึงไหน แล้วงานที่ตัวเองเพิ่งเริ่มทำมาได้เพียงสองปี หากต้องลาคลอดนานหลายเดือน มันจะยังมีที่ว่างให้เธอยืนเมื่อกลับมาหรือเปล่า อาทารุ ที่มองเห็นความกังวลของ คันดะ มากเข้าเรื่อย ๆ จึงตัดสินใจใช้ความสามารถพิเศษของตัวเองนั่นก็คือ การดูดวง เพื่อช่วยหาแนวทางให้กับ คันดะ สามารถตัดสินใจเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเองได้ซีรีส์ญี่ปุ่นความยาว 8 ตอน ตอนละประมาณ 40 กว่านาที บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของมนุษย์เงินเดือน ปัญหาชีวิตส่วนตัว ความวุ่นวายในที่ทำงาน ที่มันบั่นทอนสภาพจิตใจในทุกวัน กับการแก้ปมปัญหาด้วยการเผชิญหน้ากับความจริง ผ่านการดูดวงของ อาทารุ แม่หมอวัยทีนที่ตัวเธอเองก็มีเรื่องปิดบังอยู่เช่นกัน***เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ******โดยเนื้อหาแต่ละตอนจะมีรูปแบบการเล่าเรื่องคล้าย ๆ กัน คือ พูดถึงปมปัญหาของแต่ละตัวละครภายในทีม D ตัวละครแรกก็คือ คันดะ เธอเป็นตัวแทนผู้หญิงวัยทำงานที่อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน จากการเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาอาศัยอยู่กับแฟน กำลังจะก้าวเข้าสู่สถานะความเป็นแม่ แต่ปัญหาคือ เธอยังไม่มีความพร้อม ด้วยประสบการณ์จากรุ่นพี่ ยูอิ โอซากิ (Yuka Itaya) หัวหน้าทีมที่เคยหยุดพักลาคลอดไปนาน เมื่อกลับมาเริ่มงานใหม่อีกครั้ง เธอแทบจะไร้ตัวตนในบริษัทขาดโอกาสที่จะก้าวหน้า คันดะ ก็เลยกลัวว่าตัวเองจะประสบชะตากรรมเดียวกันนั้นมาโดกะ เมกุโระ (Shôtarô Mamiya) หนุ่มท่าทางแอคทีฟที่ตื่นเต้นไปกับทุกเรื่อง แต่ก็มักจะโดนตอกหงายเงิบทุกทีไป เมื่อไม่มีความสามารถอะไร นำเสนอความเห็นทีไรก็ผิดจังหวะไปเสียทุกที แต่ที่เขายังไม่ถูกไล่ออกมีงานทำอยู่ทุกวันนี้ นั่นก็เพราะพ่อของเขาเป็นลูกค้าคนสำคัญของบริษัท แล้วโอกาสของ เมกุโระ ก็มาถึง เมื่อทีมรับหน้าที่จัดอีเว้นท์งานหนึ่ง ซึ่ง เมกุโระ มีความรู้เฉพาะในเรื่องนั้นพอดี แต่คนอย่างเขาที่ไม่ยังไม่มีความคิดโตแบบผู้ใหญ่ แต่ต้องมารับผิดชอบในงานสำคัญมันจะไปรอดหรือเปล่าขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบบทความจากซีรีส์ : Temp Staff Psychic Ataru (2019) ที่มา : tv-asahi.co.jpคาสุมะ ชินากาวะ (Jun Shison) คนที่สวนทางกับ เมกุโระ อย่างสิ้นเชิง หาก เมกุโระ เป็นคนที่แอคทีฟตื่นเต้นไปกับทุกเรื่อง ชินากาวะ ก็เป็นเด็กหนุ่มที่เฉื่อยชา ไม่รู้ร้อนรู้หนาวเพียงแค่ทำงานตามคำสั่งไปวัน ๆ บ่นอยากจะลาออกทุกครั้งที่เจอกับปัญหา ยิ่งกับ เซจิ อุเอะโนะ (Yukiyoshi Ozawa) หัวหน้าที่ก่นด่าเขาแทบทุกวัน ชินากาวะ จึงอยากจะหนีปัญหาลาออกไปให้พ้น ๆ จนในที่สุดเขาก็หนีจาก อุเอะโนะ ได้สำเร็จ แต่ว่าการหนีปัญหาของเขาแบบนี้มันถูกต้องจริงหรอ เพราะการที่เขาไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรกันแน่ นั่นก็เพราะเขาเลือกที่จะไม่เผชิญหน้ากับปัญหาอะไรเลย จนไม่รู้ว่าตัวเองสามารถทำอะไรได้จริง ๆ บ้างเซจิ อุเอะโนะ หัวหน้าทีมผู้มากประสบการณ์ ชายผู้เป็นตำนานเจ้าของรางวัลงานอีเว้นท์แห่งปี ที่เขาภาคภูมิใจชอบเอามาคุยโอ่ให้รุ่นน้องฟังในวงเหล้า แต่จนแล้วจนรอดเวลาผ่านมาเป็นสิบปี เจ้าตัวก็ยังเป็นได้เพียงหัวหน้าทีมเท่านั้น อุเอะโนะ กลายมาเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวของลูกสาววัยมัธยมต้น เพราะเมียเก่าของเขากำลังจะแต่งงานใหม่ลูกสาวจึงขอย้ายมาอยู่ด้วย อุเอะโนะ เลยเจอกับปัญหาทั้งที่บ้านและที่ทำงาน เมื่อเป็นคนสื่อสารกับคนไม่เก่ง จึงไม่รู้ว่าตัวเองจะปรับความเข้าใจกับลูกสาวยังไง ในที่ทำงานก็ฟาดงวงฟาดงากับคนไปทั่ว จนแทบจะเข้าหน้ากับใครไม่ได้ เพราะติดอยู่กับอีโก้ความสำเร็จเดิมๆโทโมโยะ ทาบาตะ (Maho Nonami) สาวบัญชีที่ทำทุกงานที่ได้รับมอบหมายออกมาอย่างไร้ที่ติ แต่เธอก็ไม่ผูกสัมพันธ์กับใครในที่ทำงาน หลังจากสิ้นเสียงประกาศหมดเวลางานเมื่อไหร่ ทาบาตะ ก็จะเก็บของใส่กระเป๋ากลับบ้านทุกที เธอไม่เคยออกไปสังสรรค์กับเพื่อนร่วมงาน เธอไม่ไปนั่งกินข้าวร่วมกับใคร จนเพื่อนในทีมไม่มีใครรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ กระทั้งถูกเสนอชื่อให้เข้าร่วมกิจกรรมพิเศษของบริษัท และถูกชวนให้ไปงานเลี้ยงรุ่นมหาลัย เธอจึงได้กะเทาะเปลือกที่ห่อหุ้มตัวเองเอาไว้ออกมา ว่าจริงแล้ว ทาบาตะ ก็ไม่ต่างจากคนอื่น ที่อยากมีความรักกับใครสักคน อยากมีความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง เช่นกันขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบบทความจากซีรีส์ : Temp Staff Psychic Ataru (2019) ที่มา : tv-asahi.co.jpยูอิ โอซากิ หัวหน้างานที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างลูกน้องในทีม กับ ทาคุมิ โยโยกิ ผู้จัดการฝ่ายที่มักจะโยนงานยาก หรือไม่ก็ไร้สาระมาให้กับทีม แล้ว โอซากิ ก็ไม่เคยปฏิเสธเขาเลยสักครั้ง คราวนี้ โยโยกิ สร้างความปวดหัวให้เธอด้วยการ มอบหมายให้เลือกพนักงานในทีมหนึ่งคน เพื่อย้ายไปทำงานที่สาขาต่างเมือง หรือพูดง่าย ๆ ว่าบีบให้ลาออกเพื่อลดค่าใช้จ่ายนั่นแหละ ทีม D ของ โอซากิ ที่เริ่มลงตัวเข้าขารู้ใจกันมากขึ้น จะมาถึงทางตันสิ้นสุดง่าย ๆ เพียงเท่านี้อย่างนั้นหรอ ตัวเธอเองที่ก็กำลังเผชิญกับปัญหาด้านอื่น แต่ไม่รู้จะหันหน้าไปปรึกษาใคร จะตัดสินใจแก้ไขปัญหาบริหารความพึงพอใจของทุกฝ่ายได้เหมือนที่ผ่านอยู่ไหมทาคุมิ โยโยกิ ผู้จัดการฝ่ายที่ทำทุกอย่าง (นอกจากทำงาน) เพื่อไต่เต้าไปอยู่ในจุดที่สูงกว่าเดิม พยายามเอาอกเอาใจผู้บริหาร หาของฝาก สารพัดเพื่อให้มีตัวตนในสายตา แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งต่าง ๆ ที่เขาทำไปมันไร้ความหมาย เพราะเมื่อ โยโยกิ ก่อความผิดขึ้นมาจนถูกลดตำแหน่ง เขาก็ได้รู้ว่าตัวเองแทบไม่ได้สร้างคุณค่าอะไรกับงานเลย โยโยกิ ชายวัยกลางคนที่แทบจะหมดไฟไปแล้ว จึงต้องกลับมาค้นหาแรงบันดาลใจในอดีตของตัวเอง เพื่อสร้างคุณค่าให้กับตัวเองและงานที่ทำอีกครั้งขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบบทความจากซีรีส์ : Temp Staff Psychic Ataru (2019) ที่มา : tv-asahi.co.jpคนสุดท้าย อาทารุ มาโทบะ แต่ไม่เล่าละกัน ฮ่าฮ่า เพราะมันอยู่ในส่วนไคล์แมกซ์แล้ว Temp Staff Psychic Ataru (2019) เรื่องนี้น่าจะเรียกว่าเป็นซีรีส์ที่รวบรวมเอาคนแต่ละรูปแบบ ในสถานที่ทำงานมาสะท้อนเรื่องราว ปัญหาการทำงานของมนุษย์เงินเดือน ตั้งแต่ระดับพนักงานชั่วคราวแบบ อาทารุ ไปจนถึง โยโยกิ พนักงานที่เชื่อมกับระดับผู้บริหารทุกอย่างถูกสะท้อนออกมาอย่างชัดเจนตรงไปตรงมา รวมถึงการแก้ไขปัญหาที่ว่าด้วยเช่นกัน คนดูจะได้เห็น อาทารุ พูดอย่างตรงไปตรงมาถึงปัญหา จนบางครั้งคนดูอย่างเราที่อาจผ่านเรื่องราวใกล้เคียงมา หรือกำลังเผชิญกับปัญหาเดียวกับตัวละคร อาจจะรู้สึกหน้าชาเหมือนกำลังถูก อาทารุ ต่อว่าอยู่ก็ได้ การจะแก้ไขปัญหาขั้นแรก เราก็ต้องยอมรับว่ามันมีปัญหาจริงเสียก่อน อาทารุ จึงเหมือนคนที่เข้าไปค้นปมปัญหาในอดีต ก่อนจะกลายร่างเป็นไลฟ์โค้ชสะสางปัญหา ชี้นำแนวทางให้ตัวละครพบเจอกับแสงสว่างในชีวิต“คนที่กำลังทรมาน ไม่ใช่แค่คุณ” ประโยคแปล่ง ๆ กิมมิกของซีรีส์ ที่ฟังผ่าน ๆ เหมือนจะเป็นการให้กำลังใจ แต่มุมหนึ่งก็คล้ายจะบอกว่า “ลำไย…จะฟูมฟายหาพระแสงของ้าวอะไรนักหนา เธอคนเดียวซะที่ไหนที่กำลังลำบาก” บวกกับพอดูซีรีส์เรื่องนี้จบแล้ว คงพอจะให้บทสรุปได้ว่า “มีงานให้ทำอยู่ก็โชคดีแค่ไหนแล้ว ทำ ๆ ไปเถอะ มันคือความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้”ขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบบทความจากซีรีส์ : Temp Staff Psychic Ataru (2019) ที่มา : tv-asahi.co.jpเพียงแต่ซีรีเรื่องนี้เล่าเป็นมุมมองด้านบวก ด้วยการให้ อาทารุ ปรับทัศนคติของผู้คน ให้สามารถอยู่ร่วมกับงานที่ทำอย่างมีความสุขได้ ในเมื่อคนเรายังต้องกินต้องใช้ งานจึงยังมีความจำเป็น การปรับความคิดของคนอื่นมันยากนัก ก็ปรับความคิดตัวเองนี่แหละ แล้วเราจะทำงานได้อย่างมีความสุขมากขึ้นDirector : Kazuhiko Yukawa, Ken Higurashiขอบคุณเครดิตรูปภาพหน้าปกจากซีรีส์ : Temp Staff Psychic Ataru (2019) ที่มา : tv-asahi.co.jpเขียนโดยแอดมิน เพจ ปีนรั้วดูหนัง