เชียงใหม่ เมือง chic and chill ใครที่มาเชียงใหม่จะรู้เลยว่า ร้านกาแฟของเชียงใหม่เยอะมาก จนเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว วันนี้อยากจะมาแนะนำร้านกาแฟที่ชอบที่สุดและ ไปทีไรก็ไม่เคยเบื่อให้เพื่อนๆ สายกินกาแฟให้ได้รู้จัก ซึ่งก็เป็นร้านที่คุ้นหูกันดีของคนเชียงใหม่ คือร้าน The Baristro เชียงใหม่ ของคุณ คุณต่อ - ธนิต สุวณีชย์ รับประกันความสวยงามกับ รสชาติด้วยคุณภาพ วันนี้เราจะมาแนะนำ สาขาที่มาเที่ยวเชียงใหม่แล้วต้องมาดื่มเครื่องดื่มหรือกาแฟที่ร้านสักครั้ง โดยจะแนะนำ 4 สาขา เริ่มจากสาขาที่ 1 The baristro at jing jai market โดยเวลาเปิด-ปิด ตั้งแต่ 08:00 - 18:00 จุดเด่นของสาขานี้ จะเป็นการตกแต่ง style เกาหลี โทนสีขาวตัดครีม โดยแต่ละสาขาของ Baristro จะคำนึงถึงแสงและเงา ทำให้ยกระดับจุดเด่นของร้านขึ้นมา และน่าถ่ายรูป มากขึ้น สำหรับสาขานี้ จะเป็นสาขาเล็กๆ มีมุมถ่ายรูปประจำร้านที่เป็นจุดเช็คอินได้เลย สาขาที่ 2 The Baristro Train Station เวลาเปิด-ปิด 08:00-18:00 โดยการตกแต่งสาขานี้ จะตกแต่งด้วยโทนสีดำ ตัดด้วยเหล็ก style ลอฟต์ที่ใชว์กำแพงผนังดิบ ทำให้เราได้อยู่ในสถานีรถไฟยุคเก่า ในเมืองนอก พร้อมทั้งอีกฝั่งของร้าน ยังมี สถานีรถไฟเชียงใหม่ทำให้เข้ากับอารมณ์จริงเข้าไปอีก โดยชอบการแต่งร้านของ Baristro โดยจะแต่งร้านตามสภาพแวดล้อมโดยรอบของร้านในสาขานั้นๆ แต่สาขานี้ก็ยังคงจุดเด่นอีกอย่างคือการใช้แสงและเงาได้คุ้มค่ามาก เป็นสาขาที่อยากแนะนำให้ได้มาลองชม สาขาที่ 3 The Baristro @ ping river เวลาเปิด-ปิด 08:00-18:00 จุดเด่น สาขานี้จะเป็นการตกแต่ง style ลอฟต์ แบบกำแพงผนังแบบดิบๆ สลับกับเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งด้วยไม้ สลับกัน ให้เข้ากับธรรมชาติที่ด้านหลังของร้านติดกับแม่น้ำปิง แม่น้ำสายหลักของจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้ร้านได้แนวบรรยากาศของธรรมชาติ ที่เข้ากับ Style ลอฟต์เป็นอย่างดี และก็คงไม่พ้นจุดขาย แสงและเงาของร้านที่ทำให้มุมถ่ายรูปดู น่าสนใจเข้าไปอีกระดับ สาขานี้ถือว่าพลาดไม่ได้ถ้าได้มาเชียงใหม่ สาขาที่ 4 the baristro asian style เวลาเปิด-ปิด 08:00-18:00 สาขาน้องใหม่ ตั้งอยู่ในโซนหลังมหาลัยเชียงใหม่ตามชื่อ สาขานี้จะหยิบ style ทั้ง ญี่ปุ่น ไทย เกาหลี มารวมกันได้อย่างสวยงาม โดยภายในจะมีอยู่สามโซน โดยโซนแรกจะตกแต่งเป็น หิน โดยใช้พื้นเป็นหินแกรนนิต กำแพงตกแต่งด้วยหินภูเขาไฟรับรองหาดูที่ไหนได้ไม่ง่ายเลย โซนถัดไปจะเป็น slow bar สามารถดื่มดำกับเมล็ดกาแฟที่หลากหลายแปลกใหม่ และรับรองความอร่อยประทับใจได้เลย และโซนสุดท้ายคือ โซนมัฉฉะ ที่จะตกแต่งพื้นด้วย บล็อคแก้ว และเป็นโต๊ะนั่งจิบชา style ญี่ปุ่น สุดท้ายจะขาดไม่ได้เลยสำหรับ การเล่นแสงและเงาของ Baristro ที่ให้ความสวยงามน่าถ่ายรูปเข้าไปอีก สำหรับสาขานี้ต้องบอกว่าพลาดไม่ได้โดยเด็ดขาด สำหรับเมนูเครื่องดื่ม เค้กต่างๆเราคงหยิบยกมาไม่หมด เพราะมีเยอะมากและความชอบของแต่ละคน ไม่เหมือนกัน แต่ก็จะหยิบยกเมนูที่นักเขียนชอบมากมาให้ฟังกัน 4 เมนูนะครับ เมนูเครื่องดื่ม ที่สั่งตลอดจะเป็น 1.อเมริกาโน่ เมล็ด Honduras ให้กลิ่นที่แปลก และน่าสนใจ กาแฟจะมีกลิ่น วิสกี้ วนิลา น้ำผึ้ง ดื่มไปรู้สึกหวานละมุน เหมือนกินวิสกี้บางๆ แต่ไม่มีแอลกอฮอล์ นะครับ อย่าเมากันละ 2.Blackcoconut จะเป็นน้ำมะพร้าว ที่ราด shot กาแฟคั่วอ่อนด้านบน ท็อปด้วยเนื้อมะพร้าวปกติเป็นคนชอบกินน้ำมะพร้าวอยู่แล้ว พอเจอกาแฟมะพร้าวเลยต้องลองสักหน่อยสรุปคือชอบมากครับกาแฟคั่วอ่อนที่เปรี้ยวนำหวานตาม ตบด้วยกลิ่นหอมหวานของน้ำมะพร้าว สิบดาวเลยครับ 3.โรตีวิปครีมฝอยทอง มาที่เมนูของหวานกันบ้าง เมนูนี้ชอบมากครับ แผ่นโรตีบางกรอบ ที่มีใส้ในเป็นวิปครีมกับฝอยทองอยู่ข้างใน หวามกรอบทานไม่เบื่อเลยครับ 4.Baristro beer ทำไมนักเขียนคนนี้ชอบ อะไรที่เป็น วิสกี้กับเบียร์ อย่าถือสาเลยครับแต่เมนูนี้ก็ไม่ได้มีแอลกอฮอล์เหมือนกันครับ แต่ส่วนน้ำข้างล่างจะเป็นเก๊กฮวยหวานๆ และ รสเปรี้ยวซ่าเล็กน้อย ท็อปด้วยครีมชีส ด้านบนให้ดูเหมือนฟองเบียร์ เป็นเมนูที่ไม่ใส่กาแฟ แต่หวานเปรี้ยวกำลังดี เพิ่มความละมุนด้วยครีมชีส สุดไปเลยครับ ขอให้การรีวิวนี้ทำให้ทุกคนมีความสุขและได้กินของอร่อยๆ ของBaristro นะครับ บทความโดย : นักเขียน เครดิตภาพโดย : นักเขียนทั้งหมด หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !