"อัศวินรัตติกาล" เป็น The Batman เวอร์ชั่นที่เหมาะสม กับคำๆนี้มากที่สุด หลังจากจบไตรภาคอย่าง The Dark knight ไปก็เป็นเวลาหลายปีทีเดียวจนมาถึงภาคนี้ สำหรับหนังเดี่ยวของฮีโร่ที่เราคุ้นเคย ชายสวมหน้ากากดำ มีผ้าคลุม ปรากฏตัวในยามราตรี ที่อยู่ในคราบของหนุ่มแบดบอย มหาเศรษฐี อย่าง Batman โดยภาคนี้ เป็นฝีมือการกำกับของ Matt Reevs หลังจากไปดูมาเรียบร้อยแล้วต้องบอกเลยว่าภาคนี้เป็น Batman แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ก็สนุกจนเราลืม สิ่งก่อนๆ ไปเลย รับชม The Batman (2022) ได้แล้วที่ TrueID* ไม่มีสปอยล์ อ่านได้ไม่ต้องกลัวครับ * โดยตัวของผู้กำกับได้ออกมาให้สัมภาษณ์ตั้งแต่ก่อนเข้าฉายแล้วว่า Batman ในภาคนี้จะเป็นภาคที่ให้อารมณ์หม่น ๆ มืด ๆ กว่าทุกภาค ไม่ใช่ Batman แบบ Super Hero เต็มขั้นแบบที่เราชินตามาโดยตลอด ซึ่งต้องบอกเลยครับว่า ในข้อนี้ตัวผู้กำกับถ่ายทอดและตีความมันออกมาได้ดีมาก ๆ จากความรู้สึกหลังจากที่ดูจบ สิ่งที่ต้องชมเลยคือ การตีความตัวตนของ Batman กับ ความเป็นมนุษย์ได้อย่างตรงไปตรงมา และ สมจริงในหลาย ๆ ครั้งที่เราเห็น Batman ยืนคู่กันกับเหล่าฮีโร่ ผู้มีพลังพิเศษมากมาย แต่ดูสูสีอย่างมาก ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นคนมีพลังอะไร มันดูขัดกับความเป็นไปอยู่พอสมควร แม้แต่กระทั่งในตัวของหนังเอง แต่ในภาคนี้ หนังเลือกที่จะเล่าเรื่องราวของ Batman แบบที่เป็นปุถุชนมากขึ้น มีเนื้อมีหนังมากขึ้น ซึ่งนั้นทำให้บทบาทดูมีมิติ และ กว้างมากขึ้นอย่างชัดเจน ตัวหนังดำเนินไปด้วยพล็อตเรื่องเดิมที่เราคุ้นเคยกัน มหาเศรษฐีหนุ่ม บรูซ เวยน์ ผู้สูญเสียพ่อและแม่ไป จึงใช้ทรัพย์สมบัติที่มีเพื่อสร้างชุดผดุงความยุติธรรมอยู่ลับ ๆ ใต้หน้ากากแต่ในภาคนี้เราจะไม่ได้เห็น บรูซ เวนย์ ในแบบที่เป็นคนเจ้าชู้ รักสนุก ใช้ทรัพย์ไปอย่างฟุ่มเฟือย แต่จะเป็น บรูซ เวยน์ที่ไม่ได้รู้สึกว่ามีอภิสิทธิ์มากมายไปกว่าใคร ในความร่ำรวยที่ตัวเองมี มิหนำซ้ำยังรู้สึกด้อยไปด้วยซ้ำ หนังเลือกใช้โทนภาพแบบ Film Noir ที่ออกอารมณ์หม่น ๆ มืด ๆ พร้อมกับ Sound Effect ที่ลงตัว เหมือนเป็นหนังสยองขวัญ จึงทำให้แม้ไม่ได้มีฉากฆาตรกรรมที่รุนแรงเลือดสาดอะไรมากมาย แต่ทุกฉากมันดูจริง และ ดูน่ากลัวได้แบบลึก ๆ จริง ๆ อีกอย่างที่เข้ากันได้ดีกับโทนหนังประมาณนี้ คือ ตัวของเมือง Gotham เอง ที่ถึงแม้ตัวหนังไม่ได้พาเราไปดูถึงทุก ๆ ความชั่วร้ายในเมือง แต่ด้วยความหม่น มันทำให้เรารู้สึกได้ถึงความไม่ปลอดภัยในทุกหย่อมหญ้าของเมือง ๆ นี้ เรียกได้ว่า เป็น Gotham City ที่ไม่ต้องให้เห็นผู้ร้ายครบทุกตัว แต่มันเหมือนกับมีคนชั่วแฝงตัวอยู่ตามมุมมืดเต็มไปหมดเลย ในส่วนของตัวร้ายภาคนี้เราจะได้เห็น The Riddler ในแบบที่เป็นมนุษย์ปุถุชนเช่นเดียวกัน ต้องบอกเลยว่า ถึงแม้จะไม่ได้อลังการงานสร้างมาก แต่หนังทำให้เราเชื่อได้อย่างสุดใจเลยว่า เขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความดำมืดในทุก ๆ สถานการณ์ โดยที่ไม่จำเป็นต้องปรากฏตัวเลย แอบเสียดายที่ผู้กำกับคนนี้ไม่ได้ใช้ตัวร้ายเป็น Joker เพราะผมเชื่อว่าจากที่เขาดีไซน์ตัวละครของ The Riddler ได้มีมิติขนาดนี้ ถ้าเป็นตัว Joker เขาคงจะทำได้ดีมาก ๆ เลยทีเดียว แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีจุดติได้เลยนะครับ ในส่วนของ The Cat ยังคงมีความหลวมของบทบาท ความผูกพันธ์ และ ความเชื่อมโยงของตัวละครอยู่บ้าง แต่ด้วยส่วนอื่น ๆ ของหนังมันกลบสิ่งเลห่านี้ไปหมด เราเลยไม่ค่อยได้เอะใจกับเรื่องนี้เท่าไหร่นักในตัวหนังเอง. สรุปก็คงไม่กล้าบอกซะทีเดียวว่านี่เป็นหนัง Batman ที่ดีที่สุด แต่ผมขอให้นิยามสั้น ๆ ว่า " If it's not the best it's one of the best " ถึงจะไม่ใช่ภาคที่ดีที่สุด แต่ถ้าให้ยกตัวอย่างหนัง Batman ที่ดีในดวงใจ ภาคนี้จะติดอันดับอย่างแน่นอนการแสดงของ Robert Pattinson เอาอยู่มาก ๆ Sound Effect ทำได้ดี มีล้น ๆ บ้าง เป็นบางฉากเท่านั้นเนื้อเรื่อง ไม่ยืด ไม่ช้า ทำให้เราลุ้นได้ตลอด เป็น 3 ชั่วโมงที่ไม่กล้าลุกไปไหนเลย ภาพสวยมาาาากก !!เอาคะแนน ไปที่ 9/10 เลยครับ คอหนัง Batman ห้ามพลาดเลยครับ ส่วนคนที่ไม่ชอบหนังแนว ฮีโร่ ก็ดูได้ รับรองว่าจะไม่ผิดหวังครับรับชม The Batman (2022) ได้ผ่านที่ TrueIDใครที่ยังไม่ได้ชมตัวอย่าง ไปดูได้เลยครับhttps://www.youtube.com/watch?v=3X2ddbAbkQEเครดิตภาพจาก The Batman Official ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพหน้าปกเครดิต วีดีโอที่ 1 จาก Warner Bros. Thailandจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !