Kodak Ektar H35 กล้องฟิล์ม half frame ที่จะทำให้เราประหยัดฟิล์มและถ่ายรูปได้แบบจุใจ จากที่ถ่ายได้ 36 รูปน้องคนนี้ให้เลย 72 รูป มากกว่าเดิม 2 เท่า! ที่สำคัญเหมาะสำหรับมือใหม่หัดเล่นกล้องฟิล์มสุด ๆ ง่าย ๆ แค่ กรอ เล็ง ถ่าย แต่ถ้าหากใครยังลังเล ฉงนสงสัยในตัว Kodak Ektar H35 อยู่ละก็เร่เข้ามาอ่านในนี้ได้เลยจ้าเพราะว่าวันนี้จะมาชวนทำความรู้จักน้องกันจ้า เริ่มเลอเจียเจี่ย!What is in the box? มีอะไรอยู่ในกล้องบ้างนะมาจ้า~ หลายคนคงสงสัยว่าซื้อ Kodak Ektar H35 ที่มีแพคเกจจิ้งเป็นกล่องดำ ๆ ทึบ ๆ ที่มีหน้าต่างใส ๆ ให้เห็นแค่ตัวกล้องนี่เขาให้มาแค่นี้หรอ?! ขอบอกเลยว่าไม่ใช่จ้า เพราะในกล่องยังมีหลายสิ่งหลายอย่างซ่อนมาในกล่องด้วยเด้อ จะมีอะไรบ้างเราไปเปิดกล่องกันเลยยจากรูปข้างบนก็จะเห็นว่ากล้องและของเล็ก ๆ น้อย ๆ โผล่มาให้เราเห็นหน้าแล้วนะจ๊ะซึ่งก็คือ1. ถุงใส่กล้อง : เอาไว้ใส่เวลาพกกล้องไปไหนมาไหนเพื่อเป็นเกาะป้องกันบาง ๆ ไม่ให้น้องโดนแรงกระแทกหรือแอกชันใดใดโดยตรง2. กล้อง (รีวิวอย่างละเอียดในหัวข้อถัดไป)3. คู่มือ : เป็นคู่มือการใช้งานเบื้องต้นที่ให้เราสแกน QR Code และสามารถเข้าถึงได้ทั้งรูปแบบ E-Handbook และคลิปวิดีโอในยูทูบเลย4. สายคล้องกล้อง : เอาไว้คล้องตัวกล้องกับข้อมือไม่ให้กล้องหล่น (หรืออาจป้องกันการวางกล้องทิ้งไว้แล้วลืม เป็นไอเทมที่เหมาะกับคนที่ขี้หลงขี้ลืมแบบเจ้าของบทความนี่แหละ 5555)เปิดกล่องเสร็จแล้วเรามาดูสเปคของ Kodak Ektar H35 แบบ 360 องศากันบ้างดีกว่า จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่าด้านหน้า (Front)5. โลโก้ (Logo) : หมายเลขนี้ก็จะเป็นโลโก้โลใจที่บอกยี่ห้อ รุ่น และยังเพิ่มความสวยงามให้ตัวกล้องน่ามองไปในตัวด้วย6. ช่องมองภาพด้านหน้า : เป็นกระจกใส ๆ เวลาเราจะถ่ายภาพจะทำให้เรากะได้ว่าภาพจะออกมาประมาณไหนซึ่งช่องนี้ทะลุไปถึงช่องมองภาพด้านหลังของกล้อง7. สัญลักษณ์บอกสถานะแฟลช : ใช้งานคู่กับหมายเลข 10 ตัวเปิด-ปิดแฟลช วิธีการคือเราจะรู้ได้ว่าตอนนี้เรากำลังเปิดหรือปิดแฟลชอยู่ สังเกตจากจะงอยของวงรอบเลนส์หมายเลข 10 ถ้าอยู่ตรงกับสัญลักษณ์คล้าย สายฟ้า = แฟลชเปิด แต่ถ้าอยู่ตรงกับสัญลักษณ์คล้าย สายฟ้าแล้วมีขีดฆ่า = แฟลชปิด นั่นเอง! 8. แฟลช (Flash) : เวลาถ่ายภาพถ้าเปิดแฟลชไว้ แฟลชจะทำงานโดยการฉายแสงกระพริบ พรึบ! เหมือนที่เราเคยเห็นในกล้องฟิล์มและดิจิตอลทั่วไปเลย9. เลนส์ (Lens) : เลนส์ออปติคอล ขนาด 22 mm F9.510. ตัวเปิด-ปิดแฟลช : หมุนเพื่อเปิด-ปิดแฟลชใช้งานคู่กับหมายเลย 7 สัญลักษณ์บอกสถานะแฟลชและนี่คือด้านหน้าตัวกล้อง ต่อไปลองไปดูด้านหลังตัวกล้องกันบ้างดีกว่า Go Go !ด้านหลัง (Behind)11. ไฟบอกสถานะแฟลช : วิธีการใช้งานง่าย ๆ คือ ถ้าเห็นไฟแดง = แฟลชพร้อมใช้งาน ทีนี่เราก็รัวถ่ายในที่ร่มหรือที่ที่มีแสงน้อยกันได้เพลิน ๆ เลย12. ช่องมองภาพด้านหลัง : เป็นกระจกใส ๆ ให้เราเล็งภาพเวลาจะถ่ายภาพ13. ที่ขึ้น/กรอฟิล์ม : เป็นอีกจุดที่คนรักกล้องฟิล์มหลาย ๆ คนชอบเป็นชีวิตจิตใจเพราะเสียงขึ้นฟิล์ม 2-3 ครั้งก่อนถ่ายภาพก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของกล้องฟิล์มไม่ว่าจะยุคไหน ๆ 14. ฝาปิดหลังกล้อง : เวลาใส่ฟิล์มลงไปในตัวกล้องเรียบร้อยแล้วทำการปิดฝาก็ถือได้ว่าเป็นการปิดประตูที่จะทำให้ได้เริ่มต้นการเดินทางและเก็บความทรงจำด้วยการถ่ายภาพ และทำหน้าที่เปิดอีกครั้งเวลานำฟิล์มออกไปล้างแล้วอดทนรอให้ถึงวันที่จะได้เห็นมุมมองที่เราเคยมองในการเดินทางแต่ละครั้งเหมือนกับพาเรากลับไปยังวันเวลาเหล่านั้นอีกครั้งก็ว่าได้ (นี่มันประตูวิเศษรึป่าวเนี่ย ?!)หน้า-หลังผ่านไปด้วยดี เรามามองตัวกล้องแบบนกและหนอนกันบ้างดีกว่า :)ด้านบน (Top / Bird eyes view)15. ปุ่มชัตเตอร์ (Shutter) : ปุ่มกดบันทึกภาพ16. ช่องบอกจำนวนภาพที่ถ่าย : ช่องนี้จะบอกให้รู้ว่าเราถ่ายรูปได้กี่รูปแล้วและเหลืออีกกี่รูปที่เราถ่ายได้ด้านบนพอเป็นพิธี ดูเรียบหรูไม่อะไรกับใครแต่ใช้งานได้ดีเป็นตำแหน่งที่มีปุ่มสำคัญที่สุดในการถ่ายรูปเลย ไป ๆ ย้ายไปด้านล่างกันบ้างจ้าด้านล่าง (Below)17. ช่องใส่ถ่านขนาด AAA : เอาไว้ใส่ถ่านเวลาต้องการจะใช้แฟลช เพราะแฟลชจะใช้พลังงานจากถ่านที่ใส่เข้าไป แต่ถ้าไม่ต้องการใช้แฟลชก็ไม่ต้องใส่ถ่านก็ได้เพราะกล้องก็ยังคงทำงานได้ตามปกติน้า18. ปุ่มปลดล็อกฟิล์ม : เวลาถ่ายรูปจนฟิล์มหมดม้วนก็ให้กดปุ่มนี้ก่อนทำการหมุนฟิล์มเข้าม้วนจ้า19. ที่หมุนฟิล์มเข้าม้วน : หลังจากกดปุ่มปลดล็อกฟิล์มแล้วก็ให้ดึงที่หมุนฟิล์มออกมาแล้วหมุนฟิล์มเก็บได้เลย20. ช่องใส่สายคล้อง (ตามภาพด้านบน)เห็น หน้า หลัง บน ล่าง กันไปแล้วก็เหมือนจะครบ แต่ ๆ รีวิวนี้จะเป็นรีวิว 360 องศาไม่ได้ถ้ายังไม่ได้พาทุกคนไปดูซ้าย-ขวา เพราะฉะนั้นไปดูกันต่อเลยจะซ้ายหรือขวาก็น่ารัก (Left and Right) 21. ตัวล็อกเปิด-ปิดฝาหลังกล้อง : เลื่อนลงตามลูกศรเพื่อเปิดฝาหลังรีวิว 360 องศาของกล้องฟิล์ม Kodak Ektar H35 ภายนอกก็ได้จบไปแล้ว แต่... เอ๊ะเรายังไม่ได้เปิดฝาหลังดูข้างในกันเลย งั้นเราไปดูข้างในตัวกล้องที่เปรียบเสมือนห้องปฏิบัติการการถ่ายภาพให้ได้ภาพสวย ๆ กันว่าเขาทำงานกันยังไง ด้านในตัวกล้อง (Inside)22. ช่องใส่ปลายฟิล์ม : นำปลายฟิล์มม้วนใหม่ใส่ในช่องใส่ฟิล์ม23. ห้องบันทึกภาพ : เป็นที่บันทึกภาพลงแผ่นฟิล์มตอนเรากดปุ่มชัตเตอร์ และจะเห็นว่าห้องบันทึกภาพมีขนาดแคบกว่ากล้องฟิล์มทั่วไป และนี่ก็เป็นลักษณะของกล้อง half frame นั่นเองจ้า24. ช่องใส่ฟิล์ม : ใช้ฟิล์ม 135 หรือฟิล์มขนาด 35 mmจบไปแล้วกับการรีวิว Kodak Ektar H35 ทั้งด้านนอกแบบครบองศาวงกลมและด้านในแบบครบจบในที่เดียวจะเห็นว่ากล้องฟิล์มรุ่นนี้ทำออกมาเพื่อตอบโจทย์มือใหม่หัดเล่นกล้องฟิล์ม แถมยังเข้าใจหัวอกคนเล่นกล้องฟิล์มที่ต้องสู้กับราคาฟิล์มที่แรงแสนแรงด้วยการทำให้กล้องรุ่นนี้เป็นกล้อง half frame ที่จะทำให้ผู้ใช้ได้ประหยัดฟิล์มและได้รูปภาพที่มากขึ้น เหมาะสำหรับสายฟิล์มที่เน้นท่องเที่ยว เดินทางและถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ เพื่อเก็บโมเม้นต่าง ๆ ในแต่ละวันเวลาได้โดยไม่ต้องกลัวฟิล์มหมดม้วนเร็วกันเลยทีเดียวสีของตัวกล้องมีให้เลือกถึง 4 สี ได้แก่ ดำ น้ำตาล สีเขียวใบเสจ และสีทรายราคาอาจจะไม่เท่ากันแล้วแต่โปรโมชันของแต่ละร้านค้าซึ่งจะอยู่ในช่วงราคา 1,500-2,000 บาท ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากระแสกล้องฟิล์มกลับมาฮิตในรอบหลายปีที่ผ่านมา อาจจะด้วย Mood & Tone ที่มีเสน่ห์ของภาพฟิล์ม ความคลาสสิค วินเทจที่ใครหลาย ๆ คนชอบ หรืออาจจะด้วยความรู้สึกโหยหาอดีตและวันวานที่ผ่านมา (Nostalgia) ในยุคที่รูปถ่ายแต่ละรูปต้องใช้ความชำนาญและความอดทนเพราะการจะได้ชื่นชมรูปภาพที่ถ่ายไปก็ต้องถ่ายรูปให้ฟิล์มหมดม้วน ต่อด้วยเอาฟิล์มที่ถ่ายหมดไปล้าง กว่าจะได้เห็นรูปสักรูปหนึ่งก็นอนรอแล้วนอนรออีกแต่พอถึงวันที่ร้านทักมาบอกว่า "ล้างฟิล์มและส่งไฟล์ทางอีเมลให้เรียบร้อย" ก็ใจฟูทุกที :)รูปภาพถ่ายโดยผู้เขียนบทความและไม่อนุญาตให้นำไปใช้ในทุกกรณีเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !