สวัสดีค่ะ ชาว TrueID in-Trend ทุกคน หากพูดถึงการไปใช้บริการโรงพยาบาลนั้น ส่วนใหญ่ก็จะไปด้วยเหตุผลหลายอย่าง เช่น รักษาอาการเจ็บป่วย ตรวจสุขภาพ ขอผลตรวจ หรือซื้อยา เป็นต้น ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลใด เราก็ต่างต้องเดินทางไปโรงพยาบาลนั้น ๆ เพื่อรับบริการตามความต้องการของเรา แต่มีแอปพลิเคชันหนึ่ง ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันของโรงพยาบาลสมิติเวชที่สามารถให้ความสะดวกกับคนไข้ได้ทุกคน ซึ่งสามารถช่วยเหลือคนไข้ได้ในหลาย ๆ ด้าน โดยไม่ต้องลำบากเดินทางไปถึงที่โรงพยาบาลเลย ดังนั้น วันนี้ผู้เขียนจึงอยากจะมา รีวิว "การใช้ Samitivej Plus Application" ที่สะดวกสบาย เหมือนอยู่ใกล้หมอตลอดเวลา ให้กับทุกคนได้ดูกันว่าแอปพลิเคชันนี้ ดีอย่างไร? รอช้าอยู่ไย ไปดูกันเลยจ้าาา... วิธีการลงทะเบียนในแอปพลิเคชัน 1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน โดยหน้าตาไอคอนของแอปพลิเคชันจะเป็นลักษณะนี้นะค่ะ ทุกคนสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีเลย ทั้งใน App Store หรือ Play Store ก็ได้ทั้งนั้นเลยค่ะภาพถ่ายโดยผู้เขียน 2. กด "ลงทะเบียน" ภาพถ่ายโดยผู้เขียน 3. กด "ยอมรับ" ข้อตกลง ภาพถ่ายโดยผู้เขียน 4. กรอกเบอร์โทรศัพท์ปัจจุบันที่ใช้อยู่ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน 5. กรอกรหัส OTP จากข้อความที่ส่งมาทาง SMS ในโทรศัพท์มือถือ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน 6. กรอกข้อมูลส่วนตัว โดยจะต้องกรอกให้ครบทุกช่อง เพื่อเป็นการยืนยันตัวตน และใช้ดูประวัติการรักษาของเราเองในมือถือได้ ซึ่งข้อมูลจะไปเชื่อมต่อกับระบบของโรงพยาบาลที่มีประวัติของเราค่ะ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน 7. ตั้ง PIN (6ตัวเลข) เป็นรหัสเพื่อความปลอดภัย เมื่อเราเปิดดูประวัติการรักษาของเรา โดยจะต้องกรอก 2 รอบ รอบแรกเป็นการตั้งค่า รอบที่สองเพื่อเป็นการยืนยันความถูกต้องของรหัส ภาพถ่ายโดยผู้เขียน 8. หลังจากลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วจะมีเมนูต่าง ๆ ให้เราได้เลือกใช้งานตามความต้องการใช้งาน ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ประโยชน์การใช้งานของเมนูต่าง ๆ ในแอปพลิเคชัน 1. เมนู "Virtual Hospital" ภาพถ่ายโดยผู้เขียน เมนูนี้ คือเมนูที่ใช้กดเข้าไปพบแพทย์ ในกรณีที่เรานั้น รู้สึกเจ็บป่วย ไม่สบาย ปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ แต่ไม่สามารถเดินทางมาที่โรงพยาบาลได้ เมนูนี้ช่วยได้ค่ะ แค่คลิกเดียวก็ได้พบแพทย์แล้ว หลังจากพบแพทย์เสร็จ หากมียาหรือมีการเจาะเลือด ก็ยังมีบริการให้ถึงที่บ้านอีกด้วย ครอบคลุมทุกพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเลยล่ะ แต่ก็ต้องรอตามคิวนะค่ะ ใครกดเข้าไปก่อนก็ได้พบแพทย์ก่อน หากเผลอออกจากแอปพลิเคชันก็ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ จะมีพยาบาลโทรตามเมื่อถึงคิวแล้ว ทั้งนี้ จะไม่สามารถเจาะจงแพทย์ได้นะค่ะ จะเป็นแพทย์อายุรกรรมทั่วไปตามเวรแต่ละวันค่ะ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน 2. เมนู "นัดหมายแพทย์" ภาพถ่ายโดยผู้เขียน เมนูนี้ ไว้ใช้ในการทำนัดหมายกับแพทย์ที่ต้องการอยากจะปรึกษา โดยจะแบ่งให้เลือกตั้งแต่ โรงพยาบาลทั้ง 6 สาขาของสมิติเวชที่อยากจะรับบริการ จนถึงเลือกแผนกต่างๆ และเลือกแพทย์โดยสามารถดูโปรไฟล์ของแพทย์แต่ละคนได้เลยค่ะ ซึ่งนัดหมายนี้ คือการนัดหมายพบแพทย์ที่โรงพยาบาลนะค่ะ ไม่ใช่การพบแพทย์ใน Virtual Hospital เพราะอันนั้นไม่ต้องนัดค่ะ พบแพทย์ได้เลย อีกทั้ง เรายังสามรถดูนัดหมายครั้งต่อไปของเราได้ ดูแพทย์คนโปรด แถมยังแจ้งเตือนนัด เมื่อใกล้ถึงวันนัดอีกด้วย ภาพถ่ายโดยผู้เขียน 3. เมนู "การชำระเงิน" ภาพถ่ายโดยผู้เขียน เมนูนี้ใช้ในการดูยอดที่ต้องชำระหลังจากใช้บริการที่โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว จะมีการโชว์ยอดเงิน พร้อมทั้งสามารถชำระเงินในแอปพลิเคชันได้เลยค่ะ โดยไม่ต้องไปต่อคิวรอชำระเงินที่แผนกการเงินของโรงพยาบาล ภาพถ่ายโดยผู้เขียน 4. เมนู "ประวัติการรักษา" ภาพถ่ายโดยผู้เขียน เมนูนี้ใช้ในการดูประวัติการรักษาของเราเองได้ ทั้งผลตรวจสุขภาพ ผล Lab ต่าง ๆ เช่น เจาะเลือด ตรวจปัสสาวะ อุจจาระ เป็นต้น ทั้งยังสามารถดูภาพ X-RAY, EKG หรือ ภาพ Ultrasound ก็ได้ ทั้งนี้จะโชว์ให้ดู 10 วันล่าสุดที่เรามาพบแพทย์ โดยดูจากชื่อแพทย์ที่เราได้เข้าพบตามวันที่ต่างๆ บอกว่าเราพบแพทย์ด้วยเรื่องอะไร อีกทั้งยังสามารถดูประวัติยาของเราได้ด้วย ว่าแพทย์เคยสั่งยาอะไรให้เราบ้างและใช้อย่างไร ภาพถ่ายโดยผู้เขียน 5. เมนู "ฉุกเฉิน" ภาพถ่ายโดยผู้เขียน เมนูนี้จะแสดงเบอร์โทรรถฉุกเฉิน ambulance หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินกับเรา สามารถเรียกรถโรงพยาบาลมารับได้เลยค่ะ มีทั้งหมด 6 สาขา ได้แก่ สาขาสุขุมวิท ศรีนครินทร์ ไชน่าทาวน์ ธนบุรี ชลบุรี ศรีราชา โดยจะเรียงจากสาขาที่ใกล้ที่สุดมาไว้เป็นอันดับแรก ภาพถ่ายโดยผู้เขียน 6. เมนู "ลำดับคิว" ภาพถ่ายโดยผู้เขียน เมนูนี้จะแสดงลำดับคิวของเรา เมื่อมาใช้บริการในแผนกต่าง ๆ ของโรงพยาบาล เช่น คิวพบแพทย์ คิวเจาะเลือด คิวชำระเงิน เป็นต้น โดยจะแสดงเลขคิว พร้อมกับแจ้งว่าอีกกี่คนจะถึงคิวเรา ภาพถ่ายโดยผู้เขียน 7. เมนู "ติดต่อ" ภาพถ่ายโดยผู้เขียน เมนูนี้ใช้ดูข้อมูลเบอร์โทร ที่อยู่ และแผนที่การเดินทางของโรงพยาบาลสมิติเวช ทั้ง 6 สาขา ได้แก่ สาขาสุขุมวิท ศรีนครินทร์ ไชน่าทาวน์ ธนบุรี ชลบุรี ศรีราชา ภาพถ่ายโดยผู้เขียน 8. เมนู "รูปโปรไฟล์" ภาพถ่ายโดยผู้เขียน เมนูนี้เราสามารถดูข้อมูลส่วนตัวของเราได้ เช่น ชื่อ, Hospital Number, เบอร์โทร, อีเมล์, เลขบัตรประชาชน และวันเกิด เป็นต้น โดยเราสามารถแอดข้อมูลของลูกเราไว้ดูประวัติการรักษาของพวกเขาได้ด้วย เนื่องจากแอปพลิเคชันนี้ไม่สามารถใช้ได้ในเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จึงสามารถให้ผู้ปกครอง นำข้อมูลของลูกมาใส่ในนี้ไว้ดูประวัติการรักษาของพวกเขาได้นั่นเอง ภาพถ่ายโดยผู้เขียน 9. เมนู "ตั้งค่า" ภาพถ่ายโดยผู้เขียน เมนูนี้ก็สำคัญไม่แพ้เมนูอื่นเลย เนื่องจากเป็นเมนูตั้งค่า ข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ของเรา เช่น ข้อมูลส่วนตัว รหัสผ่าน PIN การแจ้งเตือน และบัญชีผู้ใช้ เป็นต้น ภาพถ่ายโดยผู้เขียน เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ สำหรับรีวิว "การใช้ Samitivej Plus Application" ทั้งสะดวกและใช้งานได้ง่ายมากเลยใช่ไหมล่ะค่ะ หากท่านใดสนใจก็ลองดาวน์โหลดมาลองใช้กันดูนะค่ะ คราวนี้ก็เหมือนเราอยู่ใกล้หมอตลอดเวลาแล้ว ครั้งหน้าจะมีอะไรน่าสนใจมาฝาก รอติดตามกันนะคะ บ๊ายบายจ้า...