อีกหนึ่งซีรีส์ที่น่าสนใจอย่าง Mai: A Mother's Rage ซีรีส์สัญชาติอินเดียของทาง Netflix อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องบอกว่าตลอดทั้ง 6 ตอนมีความน่าสนใจไม่น้อย ตัวซีรีส์จะมาในแนวอาชญากรรม สืบสวนสอบสวน ที่มีกลิ่นอายความเป็นซีรีส์ทางฝั่งยุโรปอยู่พอสมควร เนื้อหาของ Mai จะเล่าเกี่ยวกับครอบครัวฐานะดีของอินเดียครอบครัวหนึ่ง ที่เสียลูกสาวไปจากอุบัติเหตุรถบรรทุกชน แต่แล้วเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นครั้งนี้มันกลับมาเบื้องลึกเบื้องหลังมากกว่านั้นและหัวอกของคนเป็นแม่มีหรือที่จะอยู่นิ่งเฉย เธอจึงพยายามทำทุกวิถีทางที่จะสืบหาความจริงเพื่อทวงความยุติธรรมให้ลูกสาว และถึงแม้ตัวซีรีส์เองจะมีแนวทางชัดเจนในความเป็นอาชญากรรมสืบสวน แต่พอดูจบทั้ง 6 ตอนก็สัมผัสได้ถึงความดราม่าที่ซีรีส์พยายามใส่มาตลอดทาง และเป็นการใส่มาค่อนกลมกล่อมใช้ได้เลยปีที่ออกอากาศ : ค.ศ. 2022ประเภท : ทีวีลี้ลับ, รายการทีวีอาชญากรรมภาษาฮินดีผู้กำกับ : อาทูล มงเจียนักแสดง : ซาคชิ ตันวา, ไรมา เซ็น, วิเวก มุชราน, ไวบาฟ ราจ กัปต้า ช่องทางการรับชม : Netflixภาษาในการรับชม : เสียงพากย์ : ฮินดี, เตลูกู, ทมิฬ, มาลายาลัม, อังกฤษ | คำบรรยาย : ไทย, อังกฤษ, จีน ระดับความเหมาะสม : อายุ 18+เนื้อเรื่องซีรีส์เปิดมาเกี่ยวกับครอบครัวหนึ่งที่ค่อนข้างมีฐานะพอสมควร คุณแม่มีชื่อว่า ชีล เธอนั้นเป็นแพทย์ประจำตัวของคนมีอำนาจในเมืองที่อาศัยอยู่ และลูกสาวที่ชื่อว่า สุปรียา ซึ่งเจ้าตัวนั้นเป็นใบ้ต้องใช้ภาษามือสื่อสารกับครอบครัวอยู่ตลอด แต่เจ้าตัวก็เอาดีด้านการแพทย์และเพิ่งเรียนจบมามาดๆอีกด้วย แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ตัวสุปรียาเองเกิดโดนรถบรรทุกชนจนเสียชีวิต แต่ก่อนที่จะตายเหมือนเธอเองกำลังสื่อสารบางอย่างกับ ชีล เพื่อที่ต้องการจะบอกว่าเธอนั้นกำลังเจอปัญหาใหญ่บางอย่างอยู่ หลังจากวันพิจารณาคดีทางคุณพ่อและอาของสุปรียา มองว่าเรื่องนี้เป็นแค่อุบัติเหตุสะเทือนใจเท่านั้น แต่กลับกันตัวของชีลกลับมองว่ามันคือฆาตกรรมที่มีการเตรียมทุกอย่างมาเป็นอย่างดี อีกทั้งเบื้องหลังเรื่องทั้งหมดมันก็เต็มไปด้วยคนมีอิทธิพลของอินเดีย มันจึงค่อนข้างเป็นงานยากสำหรับชีลไม่น้อยที่ต้องเอาตัวเข้าไปเสี่ยงเพื่อหาว่าใครกันตั้งใจฆ่าลูกสาวของเธออย่างเลือดเย็นจุดเด่นความรู้สึกผู้เขียนเองตอนดูเรื่องนี้ มันเหมือนซีรีส์ได้หยิบจับหนังต่างๆมารวมเข้าด้วยกัน ทั้งเหตุการตาย วิธีการสืบหาความจริง หรือแม้แต่การล้างแค้น ที่ต้องบอกว่ามันเป็นส่วนผสมที่เข้ากันอย่างน่าเหลือเชื่อ ซึ่งตัวผู้เขียนเองก็ไม่ค่อยได้ติดตามซีรีส์ของอินเดียมากนัก ไม่ได้คลุกคลีกับวงการบอลลีวูดอะไรขนาดนั้น มันจึงเกิดเป็นเครื่องหมายคำถามก่อนดูว่า Mai เรื่องนี้จะพาคนดูดื่มด่ำไปกับวิธีการเล่าได้แค่ไหน และมันก็เป็นไปอย่างที่เกริ่นเอาไว้ในตอนแรกส่วนผสมหลายๆอย่างค่อนข้างทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ดูสนุก ถึงแม้จังหวะการเล่าเรื่องใน 2 ตอนแรกอาจติดช้าไปสักหน่อย เพราะซีรีส์เองต้องค่อยๆเซ็ตปมปริศนาต่างๆขึ้นมาเพื่อให้มนุษย์แม่สืบไปถึงต้นตอของเบื้องหลังทั้งหมด แต่พอสืบไปสืบมากลับพบว่ามีตัวละครอยู่ฉากหลังมากกว่าที่คิด และการเผลอพลั้งมือทำบางอย่างของชีลก็ยิ่งทำให้เธอพบอุปสรรคระหว่างทางมากขึ้นไปอีก และประเด็นเหล่านี้มันก็เหมือนเป็นการเพิ่มสปีดการเล่าของซีรีส์ที่ปลุกคนดูจากความง่วงใน 2 ตอนแรกให้มานั่งจดจ่อกับเรื่องราวใน 4 ตอนหลังได้อย่างน่าสนใจพล็อตเรื่องที่ย่อยง่ายถึงแม้จะเป็นซีรีส์อินเดียแต่หลายอย่างก็มีกลิ่นอายความเป็นสากลสูงทั้ง วิธีการเล่า พล็อตเรื่อง บรรยากาศ ที่ไม่ได้ยึดติดกับการเป็นอินเดียอะไรขนาดนั้น ไม่ได้มีการใส่เพลงเข้ามาระหว่างซีนเหมือนที่หนังอินเดียทั่วไปชอบทำ เน้นซาวประกอบที่ไปในโทนจริงจังซะเป็นส่วนใหญ่ ตรงนี้ผู้เขียนมองว่าอาจจะเป็นตัวของผู้กำกับอย่างคุณ อาทูล มงเจีย เอง ที่ชอบทำหนังทำซีรีส์ด้วยวิธีประมาณนี้ให้มีกลิ่นอายความเป็นสากลอยู่ตลอดอีกอย่างที่น่าสนใจคือพวกฉากแอ็คชั่นต่างๆที่ทำออกมาค่อนสมจริง หรือพวกฉากทรมานเหยื่อ ฉากอุบัติเหตุ ที่ไม่ได้เพิ่งคอมพิวเตอร์กราฟิกจนเกินไป และเทคนิคพวกนี้ผู้กำกับเองเคยใช้กับผลงานก่อนหน้านี้อย่าง Uri: The Surgical Strike ในตำแหน่ง Acting Workshop Directorจุดด้อยถ้าจะบอกว่าซีรีส์เรื่องนี้สมบูรณ์แบบคงดูกะไรอยู่เพราะตลอด 6 ตอนยังคงมีช่องโหว่หลายจุดให้เราเห็นอยู่เหมือนกันปริศนาการตายของสุปรียาที่พอเฉลยออกมาแล้วกลับดูเป็นคดีที่ไม่ได้ซับซ้อนเลย แต่ก็ยังดีที่ซีรีส์เองใส่ประเด็นอื่นเข้ามาให้เส้นเรื่องมีความหลากหลายมากขึ้น ทั้ง ประเด็นการฉ้อโกงในวงการแพทย์ หรือแม้แต่มุกกุญแจคริปโตที่ตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อให้ซีรีส์ดูทันสมัยมากขึ้นแอคติ้งของตัวละครแม่ที่ดูนิ่งไปนิดหนึ่งหน้าเดิมตลอดเกือบทุกสถานการณ์ หรือแอร์ไทม์ของตัวละครบางคนที่น้อยจนโดนกลืนหายไปในจอสรุปMai: A Mother's Rage เรื่องนี้ เป็นอีกหนึ่งซีรีส์เนื้อหาสนุกเกินที่คาดไว้เยอะ แม้แต่คนที่ไม่เคยผ่านตาซีรีส์อินเดียมาก่อนก็สามารถจดจ่อกับความเข้มข้นของเนื้อเรื่อง 6 ตอนรวดได้สบาย ถึงแม้ความซับซ้อนของปริศนาที่หนังทิ้งไว้ให้คนดูคิดตามอาจจะดูธรรมดาไปหน่อย แต่มันก็ทดแทนด้วยความหลากหลายของรสชาติได้อย่างดี อีกทั้งตอนจบที่ค่อนข้างหักมุมเหมือนปูเรื่องมาเพื่อไปต่อซีซั่นสอง ท่านผู้ชมคนใดสนใจก็สามารถรับชมได้ทาง Netflixhttps://youtu.be/p7yLKGcYbkwรูปภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปก : Twitter : BingedHelp | ภาพประกอบที่ 1 : Twitter : Avinash Ramachandran | ภาพประกอบที่ 2 : IG : varindertchawla | ภาพประกอบที่ 3 : IG : varindertchawla | ภาพประกอบที่ 4 : Twitter : Clean Slate Filmz | วิดีโอประกอบ : Netflix India บทความแนะนำจากผู้เขียนรีวิว Cracow Monsters ศึกไสยศาสตร์ระหว่างปีศาจกับนักศึกษาแพทย์รีวิว Rescued by Ruby (Netflix) หนังฟีลกู๊ด เอาใจคนรักน้องหมารีวิว The Adam Project (Netflix) หนังครอบครัวที่แอ็กชันดูสนุกรีวิว Feria: The Darkest Light ซีรีส์ที่มาในแนวความเชื่อ ลัทธิบูชาปีศาจรีวิวหลังดูจบ All of Us Are Dead (Netflix) ซีรีส์ซอมบี้บุกโรงเรียนกับเนื้อเรื่องที่อัดแน่นมาครบทุกรสชาติจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !