สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ทุกคน วันนี้ผู้เขียนจะมารีวิวน้ำหอมขนาดทดลอง 5 กลิ่น เป็นกลิ่นที่ฉีดแล้วสวย ฉีดแล้วตัวหอม ใคร ๆ ก็ทักเป็นกลิ่นที่แตกต่างกันกันไป แต่เชื่อว่าจะต้องมีสักกลิ่นที่เป็นกลิ่นในใจหรือต้องถูกใจใครสักคนแน่ ๆ ค่ะ ผู้เขียนจะเขียนตามความรู้สึกส่วนตัวที่ได้เคยใช้แต่ละกลิ่นนะคะ 1. Lancome Lavie est belle (EDP) น้ำหอมแบรนด์คุณภาพอย่าง Lancome กลิ่นนำจะเป็นแนวดอกไม้ผสมผลไม้ กลิ่นจะหวาน ๆ และตอนฉีดกลิ่นแรก ๆ จะแอบฉุนเล็กน้อย แต่พอผ่านไปสัก 30 นาที กลิ่นจะหวานแบบขนม เป็นกลิ่นดอกไม้ผสมวานิลลา เป็นกลิ่นที่ฉีดแล้วติดทนมาก ฟุ้งกระจายได้ดีในห้องแอร์เย็น ๆ ฉีดไปทำงานได้ ฉีดไปงานเลี้ยงกลางคืน แต่จะไม่ค่อยเหมาะกับอากาศร้อน ถ้าใครไม่ชอบกลิ่นหวานแบบขนมอาจจะต้องเลี่ยงกลิ่นนี้ กลิ่นนี้เหมาะกับผู้หญิงที่วัยทำงานขึ้นไป ไม่ค่อยเหมาะกับวัยนักศึกษาเท่าไหร่ ฉีดแล้วเป็นผู้หญิงที่ดูบุคลิกน่าเชื่อถือ ดูแพง แต่ก็แอบอ่อนหวาน ไม่แข็งกร้าว และไม่ควรฉีดกลิ่นนี้ลงเสื้อผ้าสีขาว เพราะสีของน้ำหอมเป็นสีส้มอ่อน ๆ จะทำให้เสื้อด่างได้ค่ะ กลิ่นนี้เคยฉีดไปทำงาน แล้วเพื่อนเดินสวนหน้าห้องน้ำ เพื่อนก็มาถามใช้น้ำหอมอะไร แบบหอมดีค่ะ ราคา : ประมาณ 70-80 บาท (ใน Shopee) ปริมาณ : 1.2 มล. 2. Gucci Bamboo (EDP) กลิ่นนี้จะเป็นกลิ่นหอมอ่อน ๆ สดชื่น ๆ ความรู้สึกส่วนตัวคิดว่าออกแนวแบบสปอร์ตนิด ๆ เหมาะกับฉีดแล้วไปฟิตเนส ออกกำลังกาย เคยฉีดกลิ่นนี้แล้วออกกำลังกาย กลิ่นก็ไม่เพี้ยน กลิ่นไม่ฉุน หน้าร้อนก็ฉีดได้ ไม่ฉุนจนเวียนหัว บางครั้งผู้เขียนก็ฉีดกลิ่นนี้ ฉีดแบบน้อย ๆ ก่อนนอน รู้สึกว่าทำให้หลับสบายค่ะ ราคา : ประมาณ 70-80 บาท (ใน Shopee) ปริมาณ : 1.5 มล. 3. Versace Bright Crystal (EDT) กลิ่นนี้หอมมาก เป็นกลิ่นยอดนิยมของผู้หญิงหลาย ๆ คน เวลาที่เราดูการจัดอันดับน้ำหอมของบล็อกเกอร์หรือตามเพจต่าง ๆ จะมีกลิ่นนี้ติดอันดับเสมอ กลิ่นนี้ขายดี หอมมาก หอมอ่อน ๆ หอมแบบดอกไม้หวาน ๆ ฉีดเยอะก็ไม่เวียนหัว ฉีดได้ตั้งแต่วัยนักศึกษาจนถึงวัยทำงาน ฉีดในวันสบาย ๆ ไปเดินห้าง ไปร้านคาเฟ่ ฉีดไปทำงาน ฉีดได้ทุกวัน ทุกโอกาส ฉีดแล้วดูสดใส น่ารัก ให้ลุคเป็นผู้หญิงหวาน ๆ สวย ๆ แบบลูกคุณหนู แต่กลิ่นจะไม่ค่อยติดทนสักเท่าไหร่ อาจต้องมีเติมบ้างระหว่างวัน แนะนำสำหรับผู้ที่เริ่มใช้น้ำหอม กลิ่นนี้เหมาะมากค่ะ ราคา : ประมาณ 70-80 บาท (ใน Shopee) ปริมาณ : 1 มล. 4. Chloe De Roses – โบว์ชมพู (EDT) น้ำหอมแบรนด์นี้ ไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่รู้จักแน่นอน เพราะมีหลายกลิ่นตามสีของโบว์ที่ขวด แต่วันนี้ผู้เขียนจะพูดถึงกลิ่น Roses โบว์ชมพู ก็ตามชื่อเลย เป็นกลิ่นกุหลาบมาก ๆ กลิ่นหวานมาก แต่แอบเซ็กซี่นิด ๆ เหมาะกับฉีดแล้วอยู่ในห้องแอร์เย็น ๆ ฉีดไปทำงานได้ ไปเดินห้าง ทานข้าวกับเพื่อน กลิ่นค่อนข้างติดทน แต่ไม่เหมาะกับอากาศร้อน เพราะอาจจะทำให้เวียนหัวได้ กลิ่นนี้เหมาะกับวัยทำงาน เพราะกลิ่นหวาน เรียบหรู เป็นผู้ใหญ่ ฉีดแล้วดูสวย ดูแพง มีเสน่ห์มาก ๆ ค่ะ มีคนทักว่าตัวหอมแน่นอนค่ะ ราคา : ประมาณ 70-80 บาท (ใน Shopee) ปริมาณ : 1.2 มล. 5. Prada Candy (EDT) กลิ่นนี้หอมหวานแบบกลิ่นดอกไม้ กลิ่นขนม พอผ่านไปสักพักจะเป็นกลิ่นดอกไม้อ่อน ๆ กลิ่นนี้วัยนักศึกษาและวัยทำงานก็ฉีดได้ กลิ่นไม่แก่ กลิ่นน่ารัก หอมอ่อน ๆ ฉีดแล้วดูเป็นผู้หญิงน่ารักสดใส เป็นผู้หญิงมองโลกแง่บวก ฉีดได้หลายโอกาสแต่ไม่ค่อยเหมาะกับงานปาร์ตี้กลางคืน เพราะกลิ่นอ่อนเกินไป อาจจะต้องเติมบ่อย ๆ ราคา : ประมาณ 70-80 บาท (ใน Shopee) ปริมาณ : 1.5 มล. สำหรับน้ำหอม ถ้าจะให้หอมติดทนนาน ให้ฉีดตามจุดชีพจรและต้องเลือกที่เป็น EDP ค่ะ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกลิ่นกายเคมีในตัวของแต่ละคนด้วยค่ะ บางคนก็ฉีด EDT แล้วติดทนกว่า EDP ก็มีค่ะ สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อน้ำหอมขวดใหญ่มาใช้ การที่เราได้ลองใช้น้ำหอมขนาดทดลองก่อน เป็นการช่วยตัดสินใจที่ดีมาก ๆ ทั้งเรื่องความหอมของกลิ่น ความติดทน น้ำหอมเป็นความชอบและเคมีในตัวเฉพาะบุคคล กลิ่นที่ผู้เขียนบอกว่าไม่ติดทน อาจจะติดทนสำหรับบางคนก็ได้ เพื่อน ๆ ต้องลองกลิ่นด้วยตัวเองนะคะ แล้วเราจะมีกลิ่นน้ำหอมที่ถูกใจที่เป็นกลิ่นลูกรักและเป็นกลิ่นเฉพาะของเราค่ะ ภาพประกอบทั้งหมด โดยผู้เขียน