ฉันเคยอ่านเรื่องสั้นเรื่องแรกในเล่มนี้ ตั้งแต่สมัยที่เรื่องสั้นเรื่องนี้ได้รางวัลนายอินทร์อวอร์ด "หอนาฬิกาที่หาช่างซ่อมไม่ได้" ในตอนนั้น เรื่องสั้นเรื่องนั้นจับใจพอดู มีกลิ่นอายความลึกลับนิด ๆ บวกกับผลกระทบจากสงคราม เนื้อเรื่องเหนือจริง แต่จับใจ น่าจะเป็นเพราะรายละเอียดของฉาก อารมณ์ความรู้สึกของตัวละครในเรื่องที่ทำให้รู้สึกอยากอ่านมากกว่าเดิม เมื่อ "นฤพนธ์ สุดสวาท" มีหนังสือรวมเรื่องสั้นเล่มล่าสุด- ร้านหนังสือแมวฮกเกี้ยน เปิดตัวเรื่องแรกด้วยชื่อเรื่องสั้นชื่อเดียวกับชื่อหนังสือ แมวพูดได้ในร้านหนังสือลึกลับกับหญิงสาวที่สวมชุดบาบ๋าสีจัดจ้าน แผลเป็นร้าวลึกในใจชายหนุ่มผู้หลงทางมาที่ร้านหนังสือแห่งนี้ สิ่งที่ชอบของเรื่องสั้นเรื่องนี้คือพล็อตเรื่องที่ลึกลับที่นำมาผูกโยงกับเรื่องราวโบราณของย่านเมืองเก่าในภูเก็ต - ไปเก็บปลาดาว เรื่องสั้นเฉียดการเมืองที่เล่าถึงการจัดเก็บ "คนคิดต่างของรัฐบาล" การเก็บคนคิดต่างในตัวเรื่อง เป็นเรื่องสั้นที่รอทุกคนมาตีความ ตัวฉันไม่อยากชี้นำในเรื่องของการตีความมากนัก- เก็บพื้นที่ให้วีรบุรุษและเหยื่อของเรา เรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นขนาดยาวที่ฉันประทับใจมาก ผู้เขียนร้อยเรียงเหตุการณ์สำคัญมาไว้ในเรื่องสั้นเรื่องเดียวกัน ทั้งความไม่สงบของสามจังหวัดชายแดนใต้ เหตุการณ์ไม่สงบชายแดนไทย - พม่า หรือเหตุการณ์ก็อต - อาร์มี่บุกจับตัวประกันที่โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี แม้กระทั่งเรื่องของเชลยศึกในการสร้างทางรถไฟที่กาญจนบุรี ทั้งหมดรวมอยู่ในเรื่องสั้นเรื่องเดียวกัน อนุมานอีกที เป็นเรื่องสั้นแยกย่อยที่ร้อยเรียงเป็นหนึ่งเรื่อง ยอมรับว่าเรื่องสั้น เก็บพื้นที่ให้วีรบุรุษและเหยื่อของเรา เป็นเรื่องที่ฉันอ่านรวดเดียวจบ และสงสัยในบทสรุปของเรื่อง ตื่นเต้นและประทับใจมาก- พ่อควรจะมีสิบมือ ฉันเป็นคนที่อินกับเรื่องนี้มาก เปิดเรื่องมาแค่สองหน้าน้ำตาก็ไหลริน และอินไปกับตัวละครในเรื่อง ตัวเอกเป็นชายหนุ่มที่ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากนอนนิ่ง ๆ เป็นตุ๊กตายางให้พ่อแก่เฒ่าปรนนิบัติ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตีแผ่ปัญหาเชิงโครงสร้างได้อย่างลึกซึ้ง โดยมาในกรอบเรื่องของความรักที่ผู้เป็นพ่อมีต่อลูก บรรยากาศริมแม่น้ำสะแกกรังบนแพลูกบวบช่างสมจริงจนเหมือนได้ไปนั่งอยู่ที่นั่นด้วย - ปีนังไม่มีน้ำตา ผู้เขียนร้อยเรียงเรื่องราวเชิงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับพระยามโนปกรณ์นิติธาดากับบันทึกเล่มสุดท้ายได้จนคนอ่านเชื่อ เนื้อเรื่องมีบรรยากาศเสียจนคิดว่าเป็นเรื่องจริง เมื่อบวกกับความลึกลับนิด ๆ ในเรื่องกับกลิ่นอายความรักที่อวลอยู่แบบเหงา ๆ ทำให้อยากเห็นเรื่องสั้นเรื่องนี้ต่อยอดเป็นนวนิยายเลยทีเดียวรวมเรื่องสั้น ร้านหนังสือแมวฮกเกี้ยน มีความโดดเด่นอยู่หลายประการด้วยกัน อย่างแรกก็คือการวางโครงเรื่องและการวางองค์ประกอบของเรื่องที่ชวนให้ติดตามอ่านโดยทั่วไป มีการตัดต่อฉากต่อฉากราวกับการชมหนังเรื่องหนึ่ง และมีความร่วมสมัยผสมผสานในเรื่อง ยกตัวอย่างเช่น เรื่องแรกที่มีการนำเอาฉากเมืองเก่าของภูเก็ตมาใช้เป็นฉากหลักได้อย่างแยบยล ที่สำคัญคืออวลไปด้วยบรรยากาศที่แสนเศร้า แต่งดงามได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ เรื่องต่าง ๆ ในเล่มยังมีบรรยากาศของเรื่องที่เสมือนจริง แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้รู้สึกว่า “นี่คือฉากที่มีจริงหรือว่าเป็นฉากในจินตนาการกันแน่” ที่สำคัญยังผูกโยงระหว่างตำนานพื้นบ้าน หนังสือพิมพ์ ข่าว คนพื้นบ้านที่อาศัยอยู่ ณ ที่นั่นได้อย่างน่าอัศจรรย์ จัดได้ว่าเป็นรวมเรื่องสั้น ที่ทำให้รู้สึกทึ่งกับนักเขียนผู้นี้อย่างแท้จริงหากถามว่าหนังสือเล่มนี้เหมาะสมกับใคร ฉันขอตอบได้ว่าเหมาะสมกับนักอ่านที่รักการอ่านเรื่องสั้นทุกคน ปัจจุบัน วรรณกรรมไทยไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่ากับวรรณกรรมต่างชาตินัก ประกอบกับเมื่อมีการมาครอบครองชีวิตของสมาร์ทโฟน ทำให้งานอดิเรกอย่างการอ่านหนังสือค่อย ๆ เลือนหายไป อย่างน้อย หากคุณได้หยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่าน ก็เท่ากับได้ต่อยอดลมหายใจของวรรณกรรมไทย และเป็นกำลังใจให้กับนักเขียนในยุคนี้อีกด้วยช่องทางการซื้อ : www.paperyard.co (เครดิตภาพถ่าย ภาพที่ 1/ภาพที่ 2/ภาพที่ 4โดยผู้เขียน/ ภาพที่ 3)