ภาพยนตร์ที่จะมาเล่าทุกความเชื่อ เผยทุกแง่มุม และถ่ายทอดทุกเรื่องราว ผ่านวิถีของ ร่างทรง หนึ่งในความเชื่อของผู้คนในภาคอีสาน ซึ่งเรื่องราวจะน่ากลัวหรือลึกลับซับซ้อนแค่ไหนมาติดตามกันค่ะตัวอย่างภาพยนตร์https://youtu.be/4g-Vy3zPd1wเพียงแค่รับชมตัวอย่างภาพยนตร์ก็สัมผัสได้ถึงความขนลุกแล้ว แต่เมื่อไปชมในโรงภาพยนตร์ขอบอกเลยว่ายิ่งกว่าขนลุกอีกค่ะ ร่างทรงภาพยนตร์เรื่องร่างทรง เริ่มเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ไทยวันที่ 28 ตุลาคม 2564 โดยก่อนที่จะเข้าฉายในไทยได้เริ่มฉายที่ประเทศเกาหลีใต้ไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งกระแสตอบรับนั้นดีมาก ๆ ทำให้คนไทยหลายคนก็ตั้งตารอรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้กันมากมายเช่นกัน เรียกได้ว่าในช่วงที่ผ่านมาแทบจะไม่ค่อยได้มีหนังสยองขวัญในฝั่งเอเชียให้ได้รับชมกันสักเท่าไหร่ ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกผู้ชมคาดหวังค่อนข้างมาก และส่วนใหญ่รู้สึกเกินคาดมาก ๆ กับภาพยนตร์เรื่องนี้นอกจากจะเป็น ภาพยนตร์แนวสยองขวัญ Mockumentary แล้ว ยังเป็นภาพยนตร์ที่ได้ผู้กำกับฝีมือดีมาร่วมงานกันอีกด้วย นั่นก็คือ โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล และ นา ฮง-จิน โปรดิวเซอร์ชื่อดังจากเกาหลี อีกหนึ่งตัวพ่อของหนังสยองขวัญที่กวดรางวัลมาแล้วมากมาย นำแสดงโดย : ญดา-นริลญา กุลมงคลเพชร,เอี้ยง-สวนีย์ อุทุมมาความยาวของภาพยนตร์ : 130 นาทีเรท : เหมาะสำหรับผู้ชมอายุ 18 ปีขึ้นไปhttps://www.facebook.com/gdh559/photos/a.534276966731482/1913989715426860เรื่องย่อเมื่อรายการอยากถ่ายทำสารคดีเรื่องราวของ ร่างทรง ในภาคอีสาน จึงเริ่มติดตามชีวิตของ ป้านิ่ม ผู้สืบทอดเชื้อสายร่างทรง "เทพบาหยัน" รุ่นปัจจุบัน ซึ่งเป็นการสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น นำมาสู่การถ่ายทอดเรื่องราวของตระกูลผู้สืบทอดร่างทรงผ่านการถ่ายทำสารคดี และในตอนนี้ มิ้ง หลานสาวคนสุดท้ายของตระกูลกลับเริ่มมีอาการแปลก ๆ เกิดขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนบางอย่างเข้ามาสิงอยู่ข้างอยู่ในร่างของมิ้ง และเรื่องราวกลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เพราะสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอาจจะไม่ได้เกิดจากตระกูลผู้สืบทอดร่างทรงหรือเทพบาหยันก็เป็นได้https://m.facebook.com/gdh559/photos/a.534276966731482/1989110834581414/?type=3รีวิวเรื่องราวและการดำเนินเรื่องขึ้นชื่อว่าภาพยนตร์สยองขวัญของ GDH หลายคนถึงกับตั้งตารอเลยทีเดียว ซึ่งเรื่องราวที่ถูกหยิบมานำเสนอในภาพยนตร์เรื่องนี้ เรียกได้ว่าค่อนแปลกใหม่มาก ๆ สำหรับวงการภาพยนตร์สยองขวัญในประเทศไทย โดยได้หยิบนำเรื่องราวความเชื่อของ ร่างทรง มานำเสนอ และนำพาให้เราได้ไปพบกับตระกูลสืบทอดร่างทรง โดยเล่าผ่านมุมมองของหนังกึ่งสารคดี ทำให้ได้รับความรู้สึกใหม่ในการการรับชมอีกด้วยโดยช่วงแรกได้เล่าถึงเรื่องราวของ ป้านิ่ม เป็นการเกริ่นเรื่องราวเกี่ยวกับร่างทรงและเทพบาหยัน แต่กลับเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทีมงานต้องเริ่มตามติดถ่ายทำชีวิตของ มิ้ง ด้วยในช่วงกลางเรื่องเรียกได้ว่าคนดูแทบไม่ได้หายใจหายคอ เพราะเหตุการณ์แปลก ๆ ที่เกิดขึ้นกับมิ้ง และปริศนาความลี้ลับบางอย่างที่ยังไม่มีใครรู้ โดยเราจะได้รับรู้ไปพร้อม ๆ กับตัวละครในเรื่อง ซึ่งเราจะรู้ได้แค่ว่าในตอนนี้กำลังมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง แต่ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าแล้วก่อนหน้านี้มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เหมือนต้องมาไขปริศนาและหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน เพราะบางคำพูดของตัวละครอาจจะมีความหมายอะไรบ้างอย่างซ่อนอยู่ก็เป็นได้ ช่วงท้ายของเรื่องทำให้หลายคนอาจจะงงและเกิดคำถามกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ก็เป็นอีกอย่างที่ฉีกกฎภาพยนตร์สยองขวัญของไทยไปเลย โดยส่วนตัวคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นของตั้งใจของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เป็นได้ เพราะแต่ละคนมีความเชื่อไม่เหมือนกัน และต้องการสื่อสารให้คนเข้าใจได้ในวงกว้างที่ไม่ใช่แค่ไหนประเทศไทย ไม่แปลกใจที่จะได้เสียงตอบรับจากต่างชาติค่อนข้างมากถ้าถามถึงจังหวะตุ้งแช่ (Jump Scare) ในเรื่องนี้มีเยอะไหม น่ากลัวมากหรือเปล่า ต้องตอบเลยมีค่ะแต่ไม่ได้เยอะมากหรือมารัว ๆ ความน่ากลัวอาจจะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล โดยส่วนคิดว่าทำออกมาได้ค่อนข้างน่ากลัวเลยล่ะค่ะการถ่ายทำ/มุมกล้อง/เสียงประกอบหลาย ๆ คนอาจจะพอผ่านตากับภาพยนตร์ของ GDH กันมาแล้วบ้าง สิ่งที่หลาย ๆ คนน่าจะชอบก็คือมุมกล้อง ภาพ แสง ในภาพยนตร์ที่เรียกได้สวยมาก ๆ โดยส่วนตัวค่อนข้างชอบงานภาพและมุมกล้อง GDH อยู่แล้ว เพราะนอกจากจะมีความสวยงามแล้วยังมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ในนั้นอีกด้วย ถ้าใครไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ลองจ้องและสังเกตดูดี ๆ นะคะ อาจจะเจอบางอย่างที่ถูกซ่อนไว้อยู่ก็เป็นได้ การถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ถ้าพูดง่าย ๆ เหมือนเป็นหนังซ้อนหนังอีกทีหนึ่ง เพราะถูกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านมุมกล้องของทีมงานที่ไปตามติดชีวิตของร่าง เพื่อถ่ายทำสารคดีทำให้บางครั้งที่ดูมุมกล้องอาจจะชวนเวียนหัวได้นิด ๆ แต่ให้ความรู้สึกน่าตื่นเต้นและลุ้นตามตากล้องในเรื่องเลยค่ะ เสียงประกอบในเรื่องนี้ให้ความรู้สึกน้อยแต่มาก ความน้อยในที่นี่คือไม่ได้มีเสียงอะไรมากมาย เพราะทั้งเรื่องส่วนใหญ่จะเป็นในด้านของพิธีกรรม ส่วนความมากในที่นี่คือความรู้สึกที่ได้รับค่ะ เสียงให้ความรู้สึกได้เยอะมาก ๆ แค่ตอนทำพิธีกรรมก็ชวนขนลุกได้แล้วสถานที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวผ่านครอบครัวในอีสาน โดยสถานที่หลักในการทำนั่นก็คือที่ จ.เลย โดยบรรยากาศของธรรมชาติ ป่าไม้ ภูเขา และวิถีชีวิตของผู้คนในต่างจังหวัด ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความสำคัญของภาพยนตร์เลยก็ว่าได้ เพราะสถานที่จะช่วยถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ และทำให้คนดูเข้าถึงบรรยากาศของภาพยนตร์ได้มากยิ่งขึ้น บรรยากาศของแต่ละสถานให้ความรู้สึกถึงความเรียลสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้านของตัวละครแต่ละตัว สถานที่ทำพิธี หรืองานต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์ค่ะ นักแสดงอันดับแรกอยากปรบมือให้นักแสดงทุกคนรัว ๆ ทุกคนตีบทแตก และถ่ายทอดออกมาได้ดีมาก ๆ โดยส่วนตัวรู้สึกว่าป้านิ่ม MVP สุด ๆ ส่วนนิ้งก็เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่แบกเรื่องนี้ไว้เยอะมากเช่นกัน หลาย ๆ คนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหน้าคุ้นตานักแสดงในเรื่องนี้กันเท่าไหร่ หรือบางคนอาจจะเห็นหน้าคาดตากันมาแล้วบ้าง แต่ขอบอกเลยว่าฝีมือแต่ละคนไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้ใช้ดาราหรือนักแสดงดัง ๆ มาแสดง เพราะอาจจะต้องการให้คนดูได้รู้สึกถึงความเรียลในตัวละคร เพราะถ้าใช้ดาราหรือนักแสดงที่รู้จักในวงกว้าง อาจจะให้ความรู้สึกว่าเป็นหนังจนเกินไป โดยไม่ได้ตั้งอยู่บนความเป็นจริงและความเป็นธรรมชาติที่เรื่องนี้ต้องการจะถ่ายออกมาให้กึ่ง ๆ สารคดีตามติดชีวิตค่ะ*สำหรับใครที่ยังไม่ได้รับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ เนื้อหาด้านล่างมี Spoil นะคะทุกคน*ตอนช่วงแรกที่รับชมเหมือนภาพยนตร์จะทำให้เรามุ่งไปกับเรื่องของการสืบทอดร่างทรงของป้านิ่ม เหมือนจะให้เราคล้อยกับการเป็นร่างทรง แต่เนื้อเรื่องก็ค่อย ๆ มุ่งไปที่ครอบครัวของมิ้งมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ถ้าพูดตัวมิ้งเองกลับเป็นคนที่ไม่เชื่อในเรื่องพวกนี้เลย เหมือนเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่ไม่มีศรัทธาและความเชื่อในเรื่องของสิ่งลี้ลับ เทพเจ้า หรือแม้กระทั่งร่างทรงเอง แต่ป้าน้อยแม่ของมิ้งจากตอนแรกที่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งกลับเริ่มมามีความเชื่ออีกครั้ง เมื่อมิ้งถูกบางอย่างกำลังเข้าสิงร่าง ในด้านของฝั่งป้านิ่มคือคนที่เชื่ออย่างเต็มอกว่าสิ่งลี้ลับและสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้มีจริง ๆหนึ่งประโยคที่ป้าน้อยถามป้านิ่มค่อนข้างกระตุกใจให้คิดตามมาก ๆ ป้าน้อยถามป้านิ่มว่า "เคยเจอเทพบาหยันจริง ๆ บ้างไหม" ป้าน้อยตอบว่า "ไม่เคยเจอ" ทำให้เราคิดตามเลยว่าตกลงสิ่งที่เรากำลังเชื่ออยู่นั่นมีอยู่จริง ๆ หรือเปล่า หรือเราต่างหากเป็นคนที่สร้างมันขึ้นมา ณ จุดนี้ป้านิ่มก็ต้องมีฉุกคิดเหมือนกัน เพราะเหตุการณ์ที่กำลังเกิดกับมิ้ง ทำให้ความรู้สึกศรัทธาเทพบาหยันของป้าน้อยกำลังค่อย ๆ หายไปเมื่อมนุษย์เกิดความเชื่อทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีความหมาย ซึ่งบางทีเราอาจจะเป็นคนสร้างสิ่งเหล่านั้นขึ้นมาจากความรัก ความโลภ ความโกรธ ความกลัว หรือแม้กระทั่งความรู้สึกของเอง เหมือนตอนที่หมอผีสันติพูดถึงเรื่องสติ๊กเกอร์รถของมานิตที่ติดไว้ว่า "รถคันนี้สีแดง" ทั้งที่รถเป็นสีดำ เหมือนเป็นการหลอกบางสิ่งบางอย่าง แต่สิ่งนั้นอาจจะคือตัวของเราเองก็ได้สุดท้ายแล้วเรื่องนี้อาจจะไม่ได้เกี่ยวกับร่างทรงเลย เพราะว่าเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นมาจากครอบครัวฝั่งพ่อของมิ้ง โดยการบอกเล่าเรื่องราวผ่านครอบครัวฝั่งแม่ของมิ้ง ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นกับมิ้งนั่นเหมือนเป็นคำสาปที่ตระกูลของพ่อมิ้งถูกสาปแช่งเอาไว้ เรื่องราวเริ่มขึ้นตั้งแต่ความฝันของมิ้งที่เป็นเหมือนการบอกใบ้ไว้แล้วตั้งแต่ต้นเรื่อง และการสื่อสารผ่านหมอผีสันติที่ทำให้รู้ว่าเรื่องราวทั้งหมดถูกกำหนดไว้แล้ว ภาพยนตร์เรื่อง ร่างทรง เป็นภาพยนตร์ไทยอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ ใครคิดถึงกลิ่นอายหนังสยองขวัญ GDH และการถ่ายเรื่องราวใหม่ ๆ แนะนำให้ไปรับชมเรื่องนี้เลยค่ะ ไปร่วมพิสูจน์ความเชื่อ ไขความลับ และตามหาคำตอบของเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้แล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ขอขอบคุณรูปภาพทั้งหมดจาก : GDH ขอขอบคุณวิดีโอ : ตัวอย่างภาพยนตร์ 'ร่างทรง' THE MEDIUM (RANG ZONG) | Final Trailer จาก GDH🎬 อัปเดตหนังฮอต อนิเมะฮิต ดูซีรีส์แล้วติดก็แวะมาแชร์กับคอมมูนิตี้ TrueID Community ได้เล้ย 📺✨อัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี!