ตอนที่ละครเรื่อง "ลูกกรุง" ออกอากาศอยู่ ผู้เขียนไม่ได้ดูเลย ตามประสาคนดูละครตามกระแส ถ้าเรื่องไหนกระแสเงียบกริบจะไม่รู้จัก เช่นเรื่องนี้ที่ละครมีเรตติ้งไม่ถึง 2 จึงไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีเรื่องนี้เป็นละครเป็นเพราะดูรายการประเภท Talk Show ที่สัมภาษณ์ กัน นภัทร และ มารี เบิร์นเนอร์ ได้รู้ว่า คู่รักที่ค่อนข้างมีความแตกต่างกันสูงคู่นี้ พบรักกันในกองละคร “ลูกกรุง” แท้ ๆ ทำให้สนใจอยากดูละครขึ้นมา แต่ก็ยังเลื่อนมาตลอด เพราะคิดว่าเป็นละครเพลงโรแมนติค น้ำเน่าสุดท้าย เมื่อวานนี้ อาทิตย์ที่ 26 เม.ย.63 คลิกดูคลิปละคร “ลูกกรุง” ย้อนหลัง กะว่าดูสัก 4 – 5 ตอน ชิมลาง ถ้าสนุกค่อยดูต่อในวันต่อไป แต่ถ้าดูแล้วไม่โอเคก็แค่นั้น ที่ไหนได้ ตั้งแต่เช้าจรดดึก ตอนแรกถึงตอนอวสานที่มีอยู่ถึง 30 ตอน ดูไม่หยุด ไม่จบไม่นอน พร้อมถามตัวเองว่า “เราพลาดละครดี ๆ เรื่องนี้ไปได้ยังไง” เพราะที่คิดไว้ ผิดหมด 1. ไม่ใช่ละครเพลง โรแมนติคหวานแหววที่ชวนให้เบ้หน้า แต่...มันดราม่าหนักมาก ร้องไห้ตามละครแบบต่อเนื่อง รักต่างชนชั้นของหนุ่มสาวที่ถูกกีดกัน มันโหดร้ายต่อจิตใจคนดูได้ขนาดนี้เลยหรือ ถ้าใช้ทิชชู่คงหมดม้วนเอาง่าย ๆ ดีที่มีผ้าเช็ดหน้าอยู่ใกล้ตัว2. เป็นละครพีเรียด เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2500 ที่ทำให้ได้ฟังเพลง “ลูกกรุง” เพราะ ๆ ในยุคนั้นที่ กัน นภัทร คนเล่นเป็นพระเอกของเรื่องร้องเอง มันดีงามตรงที่ได้มีโอกาสเห็น “ของเก่า” ย้อนยุค ห้องอัดละครวิทยุ ห้องแสดงดนตรีเพื่อออกอากาศสด ซี่งเมื่อก่อนคนฟังได้ฟังแต่เสียงแท้ ๆ แต่ต้องยกวงดนตรีทั้งวงมาแสดงสดที่สถานี ได้เห็นความยากกว่าจะได้เป็นนักร้องอัดแผ่นในอดีต ฯลฯ คนทำละครคือ คุณบอย – ถกลเกียรติ สมนาคุณคนดูอย่างเยี่ยม3. พล็อตเรื่องดีงาม เกินความคาดหมาย แม้จะตั้งต้นที่ “รักต่างชนชั้น” ระหว่าง เด็กวัดที่มีความใฝ่ฝันจะเป็นนักร้องลูกกรุงที่ได้อัดแผ่นเสียง กับลูกสาวนายพล หัวสมัยใหม่ แต่เพราะมีเรื่องราว “การเมือง” ที่กำลังผันผวนมาเกี่ยวข้อง ทำให้ชะตากรรมของนางเอกที่ต้องถูกใช้เป็นเครื่องมือ หนุน กอบกู้ สร้างสัมพันธ์ทางการเมืองให้พ่อ มันเกินกว่าคนดูละครรักจะคาดคิดว่า คนเขียนบทจะจัดหนักให้นางเอกขนาดนี้4. ไม่เคยรู้มาก่อนว่า “มารี เบิร์นเนอร์” เป็นนางเอกที่แสดงละครได้เก่งมาก สมบทบาททุกบุคลิกตัวละครที่เริ่มต้นตั้งแต่เด็กสาวหัวนอก ลูกสาวนายพล ที่กล้าแสดงออกที่เป็นกิริยาก๋ากั่นของผู้หญิงร่วมยุคสมัย ประท้วงและเอาชนะพ่อที่ดุ แต่เพราะความรัก ต้องเสียสละเพื่อรักษาชีวิตคนรักเอาไว้ ความขัดแย้งหลายสถานการณ์ แสดงแล้วคนดูอินกับชะตากรรมของคู่พระนางที่วนมาแล้ววนมาอีก “รักที่อยู่ในใจ กับการใช้ชีวิตจริงคนละเรื่องกัน” 5. นักแสดงรุ่นใหญ่หลายคนไม่ทิ้งฝีมือจัดจ้าน ไม่ว่าจะเป็นวิลลี่ แมคอินทอช , ปูเป้ รามาวดี และตัวประกอบอื่น ๆ ก็แสดงได้ดี เนื้อเรื่องพลิกไปพลิกมา ดูเป็นละครชีวิตจริง ๆ ไม่ใช่ละคร “น้ำเน่า” เพ้อฝัน เรียกว่า เดาทางเรื่องไม่ค่อยถูกเลย แต่เล่นกับความรู้สึกคนดูสุด ๆ เป็นที่มาของ “ทิชชู่หมดม้วน”แนะนำท่านที่ชอบดูละครดราม่า ชีวิตเป็นชีวิต ไม่ได้โปรยด้วยดอกกุหลาบ ชมความรักสองยุคของตัวละครที่ซ้อนรอยกันมา ตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ถึง รุ่นลูก ที่ตัดสินใจเลือกทางรักที่ต่างกัน ดีจริง ๆ ดูเถอะ ของเขาดีจริง ๆ ภาพประกอบภาพปก โปรโมทละครช่อง one ภาพที่ 1 ตัวอย่างละครจากช่อง oneภาพที่ 2 ตัวอย่างละครจากช่อง oneภาพที่ 3 ตัวอย่างละครจากช่อง one