หนังเรื่องนี้มีนามว่า อัศวินก่อนวันคริสต์มาสหรือภาษาอังกฤษ The Knight Before Christmasภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อ เมื่ออัศวินในยุคกลางทศวรรษที่ 14 ถูกเวทมนตร์แม่มดส่งตัวมายังโอไฮโอยุคปัจจุบัน เพื่อทำภารกิจบางอย่างที่เรียกว่าพรมลิขิต..นักแสดงนำโดย : วาเนสซา ฮัดเจนส์ รับบทเป็น บรู๊ค , จอช ไวท์เฮ้าส์ รับบทเป็น เซอร์โคล , เอมานูแอล ชริคกี รับบทเป็น แมดส์ ผู้กำกับ : โมนิกา มิตเชลล์เรื่องย่อ -"เซอร์โคล" อัศวินรูปงามในยุคกลาง ระหว่างกำลังขี่ม้าเพื่อกลับปราสาท ลึกเข้าไปในป่าแห่งนอริช 18 ธันวาคม ปี 1334 เขาได้เจอกับหญิงเฒ่าคนหนึ่งหลบอยู่ที่ต้นไม้ ท่ามกลางหิมะปกคลุมรอบด้าน ด้วยอาการหนาวสั่น เธอได้กล่าวกับเขาว่าน้องชายของเขาจะได้เป็นอัศวินในวันคริสต์มาสนี้หญิงเฒ่าผู้มีพลังวิเศษราวกับแม่มด รู้สึกเห็นถึงความมีน้ำใจที่ เซอร์โคล เป็นห่วงเธอโดยบอกว่าจะพาเธอไปยังที่ที่ปลอดภัย จากนั้นหญิงเฒ่าจึงได้บอกบางสิ่งกับ เซอร์โคล ว่า เธอมีภารกิจให้ทำ โดย เซอร์โคล อาจจะได้ท่องไปในดินแดนแสนไกล เดินทางข้ามเวลาไปยังอีกยุคหนึ่ง และได้เห็นสิ่งต่าง ๆ มากมายที่ไม่คาดฝัน ภารกิจที่หญิงเฒ่าให้เขาตามหานั่นคือ "พรมลิขิต" ถ้า เซอร์โคล ทำภารกิจนี้ได้ทันเวลาเขาจะได้เป็นอัศวินเต็มตัว จากนั้นเธอก็ได้มอบลูกแก้ววิเศษส่องแสงให้กับเขา ทันใดนั้นตัวของ เซอร์โคล ก็ค่อย ๆ สลายหายไปและปรากฏตัวยังอีกภพหนึ่งในโอไฮโอยุคปัจจุบัน เขาได้พบเจอกับ สิ่งรอบกายที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และดูตื่นเต้นมากในงานก่อนวันคริสต์มาสที่จัดขึ้น เขาเดินสวนผู้คนไปมา โดยที่คนเหล่านั้นนึกว่าเขาคือผู้แสดงในงานเช่นกัน เพราะ เซอร์โคล ยังอยู่ในชุดอัศวินจึงมีแต่คนขอถ่ายรูปกับเขาเซอร์โคล พยายามเดินตามหาม้าคู่ใจของเขาโดยไม่รู้เลยว่าตัวเองนั้นหลุดมายังยุคปัจจุบันแล้วเขายังดูงง ๆ และตื่นตกใจ กับสถานที่และสิ่งของต่าง ๆ แต่ทันใดนั้น เขาก็ได้พบเจอกับ บรู๊ค หญิงสาว ครูสอนวิทยาศาสตร์ ชั้น ม.ปลาย ซึ่งบังเอิญเดินชนกันในงาน แต่เวลาผ่านไปทั้งสองก็ได้เจอกันอีก เพราะ กรู๊ค เกิดโดนหิมะปกคลุมกระจกรถของเธอ ทำให้มองไม่เห็นทางและพุ่งชนเข้ากับ เซอร์โคล ที่ยืนงง ๆ อยู่กลางถนนท่ามกลางหิมะกรู๊ค เธอจึงรู้สึกผิดมาก แต่ดีที่ชุดเกาะของเขาหนาแน่นมาก เลยไม่เป็นอะไร และเมื่อได้พูดคุยกับเขาก็รู้สึกว่าเขาน่าจะไม่มีพิษภัยอะไร ด้วยเธอนั้นโตเป็นผู้ใหญ่ที่พอจะมีประสบการณ์ในการมองคนอยู่บ้าง เลยตัดสินใจพา เซอร์โคล กลับบ้านของเธอ เพราะคิดว่าเขาไม่มีที่พักอาศัยและน่าจะสติไม่ดี พร่ำบอกว่าตัวเองเป็นอัศวินยุคกลางแต่หลายวันผ่านไป ทั้งสองก็ได้รู้จักกันมากขึ้นและดูเหมือน กรู๊ค จะเริ่มเชื่อใจเขาแล้ว ในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ที่ เซอร์โคล อธิบายนั้น โคลเป็นน่ารัก อบอุ่น เข้ากับทุกคนได้ดี และคอยช่วยเหลือผู้อื่นและครอบครัวของเธอมาตลอด จนทำให้ บรู๊ค หลงรักเขาเข้าแล้ว แต่ เซอร์โคล จะเข้าใจและทำภารกิจตนเองสำเร็จหรือไม่ ต้องไปติดตามดูและเอาใจช่วยเขากันนะครับ ความรู้สึกหลังดูจบ -หนังเรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกว่าเราอินและเชื่อว่าในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้บางที ก็อาจจะเป็นไปได้ในที่สุด เพียงแค่เราเชื่อเท่านั้น ดูแล้วเหมือนทำให้เรามองสิ่งรอบข้างว่ายุคปัจจุบันของเราก็มีสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นโดยหาสาเหตุไม่ได้ ซึ่งก็จริงมาก เช่น สิ่งที่เรามองไม่เห็น ก็ไม่ได้แปลว่าสิ่งนั้นจะไม่มีอยู่จริง เพียงแต่อาจจะมองเห็นไม่ได้ด้วยตาปล่าวแค่นั้นเองฉากที่ประทับใจ -โดยส่วนตัวแล้วชอบซีนที่เซอร์โคลช่วยเหลือเด็ก ๆ ลูกสาวของพี่สาว กรู๊ค ที่ออกไปวิ่งเล่นหิมะนอกบ้านกับเพื่อนของเธอ จนหายตัวไปติดอยู่พื้นที่ต้องห้ามทะเลสาบ เซอร์โคลออกตามหาแกะรอยจนเจอเด็ก ๆ ที่กำลังยืนกลัวไม่กล้าขยับขา เพราะจะทำให้น้ำแข็งสลายแล้วตกลงไปฉากนี้พระเอกมีความน่ารัก เอ็นดูมากเลย เขาบอกให้เด็กน้อย ค่อย ๆ นอนลงแล้วทำตัวเหมือน หอยทาก ใช้ท้องเพื่อกระดึ๊บตัวออกมาอย่างช้า ๆ แล้วเขาก็ยื่นมือรับพวกเธอไว้ได้ทันอย่างปลอดภัยซีนนี้เขาเป็นอัศวินที่น่ารักจังเลย ><ส่วนฉากเลิฟซีนในเรื่องจะค่อนข้างพาเขิลเบา ๆจะจูบดี ไม่จูบดี พอเริ่มจะเคลิ้ม ๆ จูบก็ดันมีสายเข้าตลอด 5555 แต่ตอนท้ายเรื่องจะจบ มีจ๊วฟกันสองครั้งถ้าจำไม่ผิด มีหอมแก้มหนึ่งครั้ง อุ๊ย !!นับครั้งได้เลยนะเนี้ย เป็นความรักสไตล์อบอุ่น ผู้ใหญ่มากกว่า ไม่ใช่เอะอะจับกระชากมาจูบไรงี้ใจคอไม่ดี ~ 😆ส่วนคะแนนความชอบส่วนตัวเราให้ 9/10ใครที่ชื่นชอบหรือพออ่านเรื่องย่อแล้วรู้สึกสนใจอยากรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็สามารถเข้าไปติดตามรับชมได้ที่ Netflix หรือดูผ่านกล่อง True ID TV ได้เลยนะครับเวลาในการรับชม 1 ชั่วโมง 32 นาที (มีภาคไทย)ขอให้สนุกกับการดูหนังช่วงวันหยุดพักผ่อนกักตัวอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ กันน้า บ๊ายบาย !!ขอบคุณรูปภาพหน้าปกและรูปภาพประกอบทั้งหมดจาก Netflix official ด้วยนะครับ :)