ขอแนะนำที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ แบบไม่มีรถ 1 วัน ที่เขาล้อมหมวก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มานั่งรถไฟที่สถานีอภิวัฒน์ มาลองใช้ชีวิตในหนึ่งวันให้คุ้มกับเวลา 24 ชั่วโมงกันเริ่มต้นจากการมาขึ้นรถไฟ กรุงเทพฯ - ประจวบฯ รอบ 22.20 น. ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ถือเป็นครั้งแรกของเราที่ได้มาสถานีที่เพิ่งเปิดใหม่ ลง MRT สถานีบางซื่อแล้วเดินตามทางไปเรื่อยๆ หาขบวนรถที่เราจองไว้ ขอบอกถึงสิ่งที่ประทับใจก่อนเลยก็คือสถานที่ ที่นี้โล่งกว้าง ผิดหูผิดตาไปจากสถานีรถไฟหัวลำโพงที่มีคนเยอะแยะเต็มไปหมด ที่นี้มีที่นั่ง ห้องน้ำรองรับเพียงพอ มีปลั๊กให้ชาร์จแบตได้ระหว่างนั่งรอ ก่อนถึงรอบรถไฟเจ้าหน้าที่ก็จะมาประจำที่ คอยเช็คตั๋ว คอยชี้บอกทาง โดยขึ้นไปชั้นบนเพื่อเข้าสู่รถไฟ เราจองเป็นรถไฟแอร์ ก็จะมีผ้าห่ม เครื่องดื่ม ของว่าง และอาหารให้บริการ ที่นั่งเป็นแบบหันหน้าไปทางเดียวกันหมด ผิดไปจากแบบที่เคยนั่งมา คือนั่งหั่นหน้าเข้าหากัน (แต่เพราะเป็นที่นั่งแบบชั้น 2 แหละ ถ้าเป็นที่นั่งแบบชั้น 3 ก็คงคอนเซ็ปท์เดิม เป็นแบบพัดลมนั่งหันหน้าหากัน) พอคนเริ่มทยอยขึ้นรถกันเกือบหมด เจ้าหน้าที่ก็เริ่มปิดไฟไม่ให้สว่างมาก เหมาะแก่การนอนหลับเติมพลังยิ่งนัก แต่ผ่านไปไม่นานแม่บ้านก็เดินถือถุงขยะมาเก็บตามที่นั่ง โอเค.. รอแม่บ้านเดินกลับมาก่อน ค่อยตั้งใจหลับใหม่ก็ได้ พอผ่านไปได้ไม่นาน แม่บ้านเดินมาอีกครั้งพร้อมไม้ถูพื้น ระหว่างทำหน้าที่ก็พูดขอโทษไปตลอดทาง จะโกรธก็โกรธไม่ลง ไม่เป็นไร หลังจากนี้ก็จะเป็นเวลานอนของเราล่ะ หลับไปได้ไม่เท่าไหร่ก็มาถึงสถานีเวลาประมาณ 03.30 น.ตอนแรกเราคิดว่าจะนั่งรออยู่แถวสถานีรถไฟให้ฟ้าสว่างก่อน แล้วจะหาเช่ารถไปที่เขาล้อมหมวกกัน แต่จะว่าไปการนั่งรอเวลาก็นานเหมือนกันนะ นานจนค้นหาร้านเช่ารถที่เปิด 24 ชม.เจอไม่รอช้าก็เรียกลุงวินให้พาไปส่งที่ร้านเพื่อให้ได้มอเตอร์ไซค์มาก่อน แล้วขับกลับมาตั้งหลักที่สถานีรถไฟเพื่อเตรียมตัวล้างหน้าแปรงฟัน และเริ่มออกผจญภัยกันในเวลา 05.45 น.การขับรถผ่านทะเลที่ฟ้าใกล้สว่าง ได้ยินเสียงเรือ เสียงน้ำทะเล ช่างเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนที่ดีจริงๆ แต่ภารกิจของเราคือการไปปีนเขาล้อมหมวก ที่กองบิน 5 จะมีให้ลงทะเบียนหน้าทางเข้าและข้างหน้าก่อนขึ้นเขา แวะไหว้สิ่งศักดิ์สิทธ์เรียบร้อยแล้วก็เตรียมขึ้นเขากันต่อเริ่มต้นด้วยการขึ้นบันได ระหว่างทางก็จะมีป้ายบอกเป็นระยะๆว่าถึงจุดบริการที่เท่าไหร่ สำหรับเราการเดินขึ้นแบบบันไดคือเหนื่อยแบบต้องขอพักหายใจก่อนเดินกันมาถึงจุดบริการที่ 3 ด่านต่อไปเป็นการไต่เชือกปีนเขา นี้แหละถึงความสนุกแล้ว เตรียมใส่ถุงมือเก็บมือถือลุยกันต่อ เดินมุ่งหน้าถามหาจุดหมายกันอย่างเดียวเลย เหมือนเดินเท่าไหร่ก็ไม่ถึงสักที และโชคดีที่เรามาเริ่มเดินกันไว ทำให้ยังไม่เจอแสงแดดมากเท่าไหร่แต่.. วิวสวยๆก็ได้เรียกให้เราหยุดพักเวลาไว้มาถ่ายรูปก่อนได้รูปสมใจก็ได้เวลาเดินหน้าต่อ โดยระหว่างทางก็จะมีพี่เจ้าหน้าที่ยืนอยู่ตามจุดเป็นระยะๆ จุดไหนที่ปีนยากๆอันตรายหน่อยก็จะมีพี่ๆเจ้าหน้าที่คอยประกบบอกให้จับเชือก บอกให้เหยียบหินก้อนนี้ ก้อนนั้น ทำให้รู้สึกปลอดภัยหายห่วงได้เลย (รูปที่เห็นคือเป็นตอนลงเขานพทุกคน)ถึงจุดหมาย ได้เป็นผู้พิชิตเขาล้อมหมวก ความสูง 902 ฟุต เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขึ้นมาบนยอดสุดได้เห็นวิวเห็นน้ำทะเลตามที่คาดหวังไว้ แต่ด้วยคนก็เดินขึ้นมาเรื่อยๆ จำนวนคนที่อยู่ข้างบนก็มากขึ้นเรื่อยๆ เลยเก็บบรรยากาศรอบๆได้ไม่หมด คงถึงเวลาที่ต้องลงแล้วขึ้นมาว่ายากแล้ว ลงเขาชันๆยิ่งยากกว่า ระดับความเสียวก็จะเพิ่มขึ้นนิดนึง แต่ขอบอกก่อนว่าไม่ได้เดินยากมากมายอะไรขนาดนั้นนะ เป็นเขาที่เดินได้เรื่อยๆ ตอนลงคือวิ่งลงแทบไม่หยุดพักเลย ใช้เวลาโดยรวมประมาณ 2-3 ชั่วโมงเขาล้อมหมวก เป็นเขาที่มีทางเดินเป็นบันไดก่อน ต่อไปก็จะเป็นการไต่เชือกขึ้นไปเรื่อยๆ เหมาะกับทุกคนที่อยากจะมาเดิน ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ รอบที่เราไปเจอผู้ร่วมเดินทางหลายวัยหลายอายุ คนข้อเข่าไม่ดีก็พร้อมมาลุย มีเวลาว่างๆหรือช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ไม่รู้จะไปไหน ลองมาเดินเล่นเขาล้อมหมวกกันนะ ไม่ไหวก็แค่เดินกลับทางเดิมหลังจากลงเขามาก็ได้เพื่อนร่วมทาง 2 คน พาตะลอนกันไปเที่ยวระแวกใกล้ๆ ไม่ว่าจะเป็น ศาลหลักเมือง ในช่วงเวลาที่แดดจ้าไปขึ้นบันไดอีกหลายขั้นเพื่อลงมาถ้ำพระนอนที่วัดอ่าวน้อยต่อด้วยขึ้นบันไดอีกหลายก้าวไปดูวัดช่องกระจก ได้พบเจอน้องลิงอีกมากมายหลังจากอิ่มบุญแล้วก็แวะมาขับรถ ATV ยิงธนู และเล่นน้ำทะเลที่อ่าวมะนาว ภายในหนึ่งวัน ณ ประจวบคีรีขันธ์ ถือว่าเที่ยวได้คุ้มสุดๆก่อนเดินทางกลับด้วยรถไฟรอบ 02.01 น. ก็ได้มาเดินหาของกินที่ถนนคนเดิน มีเวลาเดินเล่นรอบๆทะเล ได้เห็นชาวประมงเตรียมออกหาปลา ได้มองทะเลไกลๆไปจนสุดทางที่ไม่รู้ว่าปลายทางไปอยู่ไหน ผิดหูผิดตาไปกับชีวิตในกรุงเทพที่เร่งรีบ การจราจรติดขัด ถือเป็นการใช้พลังไปทั้งวันได้อย่างคุ้มค่าตามที่ตั้งใจไว้และสิ่งที่ประทับใจที่สุดก็เป็นพี่ๆชาวประมงนี้แหละ อุตส่าห์จะแอบถ่ายคลิปไว้ ไม่คิดว่าพี่แกจะหันมาชูสองนิ้วให้ เห็นรูปนี้แล้วก็อดขำไม่ได้ ในใจก็คิดนะว่ามาเดินเล่นแถวนี้ดึกๆจะอันตรายไหม แต่พอได้เจอพี่ๆเขาก็หายห่วงได้เลย กลับเป็นฝูงน้องหมาที่น่ากลัวกว่าเยอะ ตอนขับรถมอเตอร์ไซค์ไปคืนร้านไม่เท่าไหร่ ตอนเดินกลับออกมาจากซอยนี้สิ วิ่งหนีแทบไม่ทัน นึกทีไรก็นั่งขำมันอยู่คนเดียว ฮ่าๆๆ ภาพถ่ายโดย สะสะทอนอยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !