ลงจอเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา ความยาวประมาณเกือบสองชั่วโมง แต่อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวสำหรับหนังเกาหลีโรแมนติก-คอมเมดี้ เรื่องใหม่ ที่กระแสความปังก็ยังคงแรงด้วยการขึ้นเทรนด์อันดับ 1 ใน Netflix อย่างต่อเนื่อง ด้วยความที่เป็นหนังรักโรแมนติก ดูได้สบายๆ ไม่มีดราม่า และยังได้จางกียง หนุ่มสุดฮอตจากซีรีส์ My roommate is a gumiho มารับบทพระเอกในเรื่องนี้อีก ร่วมด้วยแช ซูบินและคริสตัล ช็อง อีกด้วย หนังรักหวานอมเปรี้ยวนี้ก็เลยฮิตติดลมบนมาได้อย่างยาวนานเรื่องนี้ถือว่าเป็นความฉลาดของนักเขียนที่เขียนเรื่องนี้ออกมาได้เรียล ผู้ชมเข้าถึงได้ง่าย ทำให้ไม่ต้องตีความเยอะ เพราะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบันเป็นจำนวนมากของหนุ่มสาว สำหรับชีวิตวัยทำงานอันแสนเหนื่อย กับการพยายามประคับประคองชีวิตคู่ให้ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะถ้าใครกำลังเผชิญกับปัญหาความรักแบบนี้อยู่รับรองว่าจะอินกับเรื่องนี้มากกว่าคนอื่นอย่างแน่นอน แต่ถึงแม้คนที่ยังไม่เคยเผชิญกับปัญหาแบบนี้ก็เข้าใจและอินไปกับ point ตรงนี้ได้ เนื่องจากความรักแบบนี้ซีรีส์หรือหนังหลายๆเรื่องก็มักจะนำเสอนอความรักแบบนี้เหมือนกัน แต่เราบอกเลยว่าเรื่องนี้น่ะ 'เรียล' ที่สุดแล้ว และขอบอกว่าเรื่องนี้นักประพันธ์ยังใส่กิมมิคเล็กๆ เป็นการแกงคนดูในตอนจบอีกด้วย รับรองว่าพีคสุด ถ้าได้ดูต้องร้อง ห้ะ!!! เป็นแบบนี้ได้ไง อย่างแน่นอน ถือเป็นความน่าสนใจที่ทำให้คนดูคาดเดาตอนจบไม่ได้ เพราะนึกไม่ถึงนั่นเอง!!! ความรักในภาพยนตร์เรื่องนี้คือการพิสูจน์ความรักจากบททดสอบเรื่องระยะทางและความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานที่เรามักจะเห็นกันทั่วไป เป็นเรื่องราวความรักของชายหนึ่ง หญืงสาม ที่เป็นความสัมพันธ์แบบรักสามเศร้า เริ่มจากที่พระเอก 'จางฮยอก' มีความรักอันหวานชื่นกับพยาบาลสาวสวยอย่าง 'จองดาอึน' จนจางฮยอกได้ย้ายไปเป็นพนักงานชั่วคราวที่สำนักงานใหญ่ ในกรุงโซล ที่นั่นมีการแข่งขันที่สูงมาก เขาต้องประชันฝีมือเพื่อเป็นพนักงานประจำให้ได้ นั่นแหละคือความฝันของเขา และเขาก็ได้เจอกับคู่แข่งอย่าง 'โบยอง' แต่เดี๋ยวก่อน เป็นคู่แข่งแค่ช่วงแรกเท่านั้นแหละ หลังจากที่ทั้งคู่ได้มาทำ Project ด้วยกัน ก็สนิทกันอย่างรวดเร็วจนเกิดเป็นรักสามเศร้าเราสามคนนั่นแหละในช่วงแรกๆ ความรักของจางฮยอกกับดาอึนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ยังคงหวานชื่นและมีแต่รอยยิ้ม แม้ว่าจะทำงานมาเหนื่อยแสนเหนื่อย แต่หลังเลิกงานจางฮยอกก็ฝ่ารถติดขับรถมาหาดาอึนทุกวัน แม้บางวันจะไม่ได้มาเพราะยุ่งมากจริงๆ แต่จางฮยอกก็ยังใส่ใจดาอึนเสมอมา แต่ทุกคนนึกภาพออกไหม ทำงานมาเหนื่อยๆแล้วต้องมาเจอรถติดทุกวัน มันเหนื่อยยิ่งกว่าตอนทำงานสะอีก นี่แหละอุปสรรคอันใหญ่หลวงจากความสัมพันธ์ครั้งนี้ และจุดแตกหักก็เกิดขึ้น จากที่ทั้งคู่เคยอยู่ด้วยกัน วางแผนไปเที่ยวด้วยดัน มีกิจกรรมทำกันหลังเลิกงาน แต่วันนี้ไม่มีอีกแล้วกลับห้องมาจางฮยอกก็เอาแต่นอนเพราะเหนื่อยมาก ดาอึนจะคุยเรื่องเที่ยวจางฮยอกก็ให้ดาอึนจัดกาคนเดียว พอไปเดินเล่นด้วยกัน จางฮยอกก็เอาแต่บอกว่าเหนื่อย อยากกลับบ้าน และที่พีคที่สุดคือเผลอเรียกชื่อ โบยอง ออกมา คิดดูดิ พูดชื่อผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าแฟน ดาอึนคงเจ็บจี๊ดอยู่ในหัวใจมากทีเดียว และเหตุการณ์นี้แหละเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของความสัมพันธ์ครั้งนี้สุดท้ายพระเอกของเราก็ไปสานสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานของโบยอง ในวันที่สิ้นสุดการเป็นพนักงานชั่วคราวแล้วไปกินเลี้ยงกันที่ผับบาร์แห่งหนึ่ง ทั้งคู่คุยกันเรื่องอนาคตว่าชีวิตจะเอาไงกันต่อเพราะบริษัทก็ไม่ได้ต่อสัญญา โบยองจะไปเรียนต่อ หาประสบการณ์ชีวิตต่อไป แล้วจางฮยอกก็อยากจะสวมแหวนให้โบยอง แต่โบยองดึงมือออกเพราะไม่ได้คิดไกลไปถึงขั้นนั้น สุดท้ายจางฮยอกก็มาย้อนนึกถึงความสัมพันธ์ทั้งหมดของตนเองว่า "นี่เราพลาดไปตั้งแต่ตรงไหนนะ" แล้วก็กลับไปหาดาอึนที่วันนี้เป็นวันที่จะไปเจจูด้วยกัน คำพูดนึงที่โดนใจเรามากฟังทีนึงเจ็บจี๊ดแน่นอนก็คือหากคุณพลาดแท็กซี่คันหนึ่งไป คุณยังหาคันใหม่ได้ แต่หากคุณทำใครสักคนหลุดมือ มันจะไม่มีอีกแล้วบทสรุปเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร สุดท้ายแล้วพระเอกของเราจะง้อนางเอกของเราสำเร็จหรือไม่ แล้วที่ว่าตอนจบที่โคตรพีค แล้วโดนแกงหม้อใหญ่นั้นจะคืออะไร ต้องไปดูเอาเองค่ะ เรื่องนี้นักแสดงทุกคนคือคุณภาพจริงๆ เล่นดีมาก คริสตัลในบทโบยอง ก็เล่นได้อย่างไม่ห่วงสวยเลย นักแสดงนำสามคนเล่นได้น่าสนใจ ดูโดดเด่นในบทที่ได้รับและเป็นธรรมชาติมาก เป็นอีกเรื่องที่แนะนำให้ดูเลยhttps://www.youtube.com/watch?v=mffoi4MxGCAเครดิตรูปหน้าปก : 1 2 3, IGNetflixTHเครดิตรูปประกอบ :1, TwittwerNetflixKr / 2, TwittwerNetflixKr / 3, FBNetlfixTH / 4, IGNetflixTHวีดีโอ : Sweet & Sour: รักหวานอมเปรี้ยว | ทีเซอร์ จาก Netflix Thailand เกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ๆ App TrueID โหลดฟรี!