ภาพปกจาก: StockSnap / Pixabayภาพจาก: Andrea1597 / Pixabay “ทุนรัฐบาลดึงดูดผู้มีศักยภาพสูง” หรือ ที่เราเรียกกันสั้นว่า “ทุนUIS” เป็นทุนรัฐบาลจากสำนักงานกพ.ที่เรารู้จักกันดี สำหรับผู้ที่ต้องการสอบข้าราชการ ซึ่งทุนUISนี้เป็นทุนที่เปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาที่เหลือการศึกษาอีกหนึ่งปีการศึกษาก็จบหลักสูตรการศึกษาทั่วประเทศ ได้เข้ามามีโอกาสสอบ เพื่อที่จะได้เข้ารับตำแหน่งในหน่วยงานขาดแคลนตามที่ประกาศรับในแต่ละปี แน่นอนว่าผู้ที่สอบผ่านก็สามารถเรียกได้ว่า มีงานทำกันตั้งแต่ยังเรียนไม่จบเลยทีเดียว!! โดยค่าเรียนในชั้นปีสุดท้ายทางหน่วยทุนจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดด้วย แถมความน่าสนใจยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะทุนนี้ยังเปิดโอกาสให้นักเรียนในทุนได้ไปเรียนต่อเมืองนอกกันแบบฟรีๆ!! ถึงตรงนี้ใครหลายคนที่ฝันอยากรับราชการแถมยังได้รับทุนเรียนเมืองนอกกันแบบฟรีๆคงตาวาวกันแล้ว เช่นนั้นเรามาดูกันว่าการสอบทุนรัฐรัฐบาลผู้มีศักยภาพสูง หรือ ทุนUIS เป็นยังไงบ้าง? ภาพจาก: athree23 / Pixabayสมัครยังไง? ใครสมัครได้บ้าง? ทุนUIS จะเปิดรับสมัครใน เดือน พฤศจิกายน -ธันวาคม ของทุกๆปี โดยน้องๆที่สนใจก็สามารถติดตามข่าวสารการประกาศรับสมัครได้ที่หน้าเว็บไซต์ >>คลิก<< โดยทางสำนักงานกพ.จะมีประกาศรับสมัครมาให้เราอ่านว่าการสอบนี้จะเป็นการสอบคัดเลือกนิสิตนักศึกษาที่เหลือการศึกษาอีกหนึ่งปีการศึกษาก็จบหลักสูตรการศึกษา ทั่วทั้งประเทศเพื่อหาผู้ที่มีศักยภาพสูงในการเข้ารับราชการเมื่อเรียนจบ พูดง่ายๆก็คือ คนที่เรียนอยู่ในชั้นปีที่3 ของหลักสูตรการศึกษา4ปี และคนที่เรียนอยู่ในชั้นปีที่ 4 หรือ 5 สำหรับหลักสูตรการศึกษา5 หรือ 6ปี โดยสาขาการเรียนสายสังคมจะต้องมีเกรดเฉลี่ย(GPA) รวมเทอมล่าสุด 3.00ขึ้นไป ส่วนสาขาการเรียนวิทยาศาสตร์/วิทย์สุขภาพ ต้องมีเกรดเฉลี่ย(GPA) รวมเทอมล่าสุด 2.75ขึ้นไป สามารถสมัครสอบในทุนUISได้อย่างไม่มีปัญหา ซึ่งจากคุณสมบัติข้างต้นนี้ เราก็ต้องมาดูกันอีกขั้นหนึ่งว่า ในประกาศการรับสมัคร มีหน่วยทุนไหนที่เราสามารถสมัครได้บ้าง ซึ่งรายละเอียดตรงส่วนนี้ต้องติดตามในประกาศการรับสมัครของปีนั้นๆ ภาพจาก: F1Digitals / Pixabayต้องสอบอะไรบ้าง? ทุนUIS มีการสอบด้วยกันอยู่ทั้งหมด 3 ส่วนด้วยกัน คือ การสอบข้อเขียน , การฝึกงาน การสอบสัมภาษณ์ ซึ่งในวันนี้เราจะมารีวิวการสอบข้อเขียนแบบจัดเต็ม เพราะทางผู้เขียนเพิ่งผ่านการสอบข้อเขียนมาไม่นาน ส่วนแรกคือ การสอบข้อเขียน ที่ขึ้นชื่อว่าโหดและหินมากที่สุด เพราะเป็นการสอบข้อเขียนที่คัดเลือกจากผู้สมัครหลายร้อยคนให้เหลือเท่ากับโควตาของจำนวนที่เปิดรับสมัครไม่เกิน 5 เท่า พูดง่ายๆคือ หากหน่วยทุนนั้นรับสมัคร 1 ตำแหน่ง ผู้สมัครหน่วยทุนนั้นและสอบผ่านข้อเขียนต้องมีจำนวนไม่เกิน 5 คน ซึ่ง 5 คนดังกล่าวนี้ก็จะต้องเป็นผู้ที่มีคะแนนผ่านค่า Mean ของคะแนนรวมผู้เข้าสอบทั้งหมดอีกด้วย!! ซึ่งเราจะไม่รู้เลยว่าปีนั้นคะแนนMeanจะสูงหรือต่ำ และปัญหาที่ผู้เข้าสอบส่วนใหญ่พบเจอคือ การทำข้อสอบไม่ทัน เพราะเนื่องจากเวลา 3 ชั่วโมงในการสอบแต่ละวิชากับข้อสอบเกือบ100ข้อนั้น ต้องอาศัยคติประจำใจเลยว่า “ความเร็วเป็นเรื่องของปีศาจ” โดยการสอบข้อเขียนนั้นจะประกอบไปด้วย 2 วิชาด้วยกันคือ ภาษาอังกฤษ และความถนัดทั่วไป(คณิตศาสตร์+ภาษาไทย)ภาพจาก: Romain Vignes / Unsplash มาเริ่มที่วิชา ภาษาอังกฤษ ในส่วนของข้อสอบวิชานี้จะประกอบไปด้วย คำศัพท์(Vocabulary) ข้อสอบจะให้คำศัพท์มา แล้วให้เราเลือกคำศัพท์จากช้อยส์ที่มีความหมายเหมือนหรือใกล้เคียงมากที่สุด ซึ่งขอบอกเลยว่าคำศัพท์ที่ออกสอบมีความปังปุริเย่มาก! เพราะเป็นคำศัพท์ที่มีความยากและยาว (แอบได้ยินผู้เข้าสอบบางคนบอกว่า ยากกว่าสอบ IELTSอีก) เรียกว่าเดาจากรากศัพท์ก็ยังเดาไม่ออกกันเลยทีเดียว ซึ่งการเตรียมตัวที่แนะนำคือ ควรอ่านคำศัพท์ที่ใช้สอบในระดับ CU-TEP ,IELTS ขึ้นไป และต้องอาศัยเทคนิคการเดาความหมายจากรากศัพท์มาช่วยเสริมก็จะสามารถช่วยในส่วนนี้ได้มากยิ่งขึ้น การเติมคำ(Cloze-test) ก็มีความยากไม่แพ้ส่วนของคำศัพท์ เพราะเป็นการสอบที่ให้ประโยคเรามาแล้วเว้นช่องว่างภายในประโยคนั้นไว้ เพื่อให้เราเติมคำศัพท์/สำนวนจากช้อยส์ไปเติม ซึ่งมีความพีคมาก เพราะเป็นคำศัพท์และสำนวนที่ยากมาก แม้จะยากน้อยกว่าพาร์ทคำศัพท์ที่สามารถใช้สกิลเดาได้ แต่ยังคงตึงมืออยู่ดี ดังนั้นการเตรียมตัวที่ยากจะแนะนำคือต้องไปดูสำนวนภาษาอังกฤษมาเพิ่มเติม และสามารถฝึกทำจากข้อสอบCU-TEPได้เช่นเดียวกัน ต่อมาโครงสร้างแกรมม่า(Error)พาร์ทนี้จะเป็นพาร์ทที่ดูเบาบางมากที่สุดหลังจากเราเจอศึกหนักมาก่อนหน้านี้ ซึ่งในส่วนตัวการเตรียมตัวสามารถหาซื้อหนังสือERRORที่ใช้สำหรับสอบแอดมิชชั่นในระดับมหาวิทยาลัยได้ ส่วนสุดท้ายคือบทความยาว(Reading) ส่วนนี้จะเป็นพาร์ทที่เรียกได้ว่าจับฉ่าย จิปาถะมากที่สุด เพราะบทความที่เขาเลือกมาให้เราจะเป็นบทความที่ยาวมากและมีทุกหมวดหมู่ อย่างเช่นในปีนี้(ปี64)จะเป็นบทความที่เกี่ยวกับ วิทยาศาสตร์ ความมั่นคง สิ่งแวดล้อม ภาษากับประเทศต่างๆ เป็นต้น โดยในส่วนนี้ก็เป็นส่วนที่ง่ายและสามารถเตรียมตัวไปได้อย่างเต็มที่ โดยให้เตรียมตัวในเรื่องของการอ่านแบบ Skim & Scan ที่ทำให้เราสามารถทำข้อสอบในพาร์ทนี้ได้เร็วมากยิ่งขึ้น เพราะบทความมีความยาวมาก ยาวเป็นหน้า! ดังนั้นควรเตรียมตัวในส่วนนี้มาให้ดี เพราะอย่างที่กล่าวไปว่ามีเวลาในการสอบที่จำกัด แนะนำ: ในวิชาภาษาอังกฤษพาร์ทที่แนะนำให้เก็บก่อนในข้อสอบ คือ บทความ(Reading) และ โครงสร้างแกรมม่า(Error) เพราะมีรูปแบบข้อสอบที่จำกัด มีเทคนิคการทำแบบมีขั้นตอนที่สามารถเตรียมมาแบบล่วงหน้าได้นั่นเอง ภาพจาก: Jeswin Thomas / Unsplash วิชาต่อมาคือ ความถนัดทั่วไป ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับการสอบภาคก.แต่จะมีระดับความยากที่เพิ่มขึ้น! ซึ่งวิชานี้จะประกอบไปด้วยสองวิชาย่อยภายในคือ คณิตศาสตร์ และภาษาไทย และผู้เขียนขอแปะคำเตือนตัวโตๆของวิชานี้เลยว่า “เวลาเป็นสิ่งมีค่า” เพราะจากปีที่ผ่านมา รวมทั้งปีนี้ ก็มีผู้สอบมากมายที่ประสบปัญหากับการทำไม่ทันเช่นกัน ในส่วนของ คณิตศาสตร์ นั้นจะประกอบไปด้วย อนุกรม คณิตศาสตร์ทั่วไป เงื่อนไขสัญลักษณ์ ตารางข้อมูล สดมภ์ เป็นต้น ซึ่งการเตรียมตัวในส่วนนี้ น้องๆสามารถหาซื้อหนังสือการเตรียมตัวสอบกพ.ภาคก.ในระดับ 3 ขึ้นไปมาฝึกทำกันได้ แต่ในข้อสอบจะมีความยากและประยุกต์ซับซ้อนเยอะกว่ามาก ดังนั้นควรมีพื้นฐานที่ดีก่อนก็จะสามารถทำข้อสอบประยุกต์ได้อย่างสบายๆ เน้นย้ำว่าควรที่จะทำข้อสอบเยอะๆ และวิชาภาษาไทย นั้นจะประกอบไปด้วย อุปมาอุปไมย เงื่อนไขภาษา จับใจความสำคัญ บทความสั้น เป็นต้น ซึ่งข้อสอบในพาร์ทภาษาไทยจะไม่ใช่หลักภาษาแบบที่เราเรียนกันมา แต่จะเป็นการเน้นไปที่การคิดวิเคราะห์มากกว่า แนะนำ: ในส่วนของวิชาความถนัดทั่วไป น้องสามารถหาคลิปติวกพ.ภาคก.ได้จากในยูทูปหรือเฟสบุ๊ค เพื่อมาช่วยเสริมสร้างพื้นฐานให้มั่นคง นอกจากนี้น้องๆควรที่จะทำความคุ้นเคยและฝึกทำข้อสอบกพ.ภาคก.เยอะๆก็จะสามารถช่วยได้เช่นกันภาพจาก : Charles Deluvio / Unsplash และเมื่อเราผ่านการสอบข้อเขียนแล้ว เราก็จะต้องไปเจอกับอีก 2 สนามใหญ่ด้วยกันคือ การฝึกงาน และการสอบสัมภาษณ์ ที่ต้องแยกกันไปตามหน่วยทุนที่เราสมัครไว้ เปรียบได้กับเป็นการสอบปฏิบัตินั่นเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการที่เราจะสามารถผ่านเข้าไปสู่การฝึกงานและรอบสัมภาษณ์ได้นั้น เราจะผ่านข้อเขียนก่อน ซึ่งการสอบข้อเขียนถือว่าเป็นอีกหนึ่งด่านโหดที่จะคัดว่าใครกันแน่ที่ผ่านเข้ารอบต่อไปได้! สุดท้ายนี้อยากจะฝากทุนUISไว้ให้น้องๆที่สนใจได้ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของการประรับสมัครให้ดีๆ เพราะเนื่องจากในปีนี้ที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19จึงทำให้การสอบข้อเขียนและการรับสมัครต่างๆต้องเคลื่อนไปบ้าง ดังนั้นใครที่คิดว่าจะคว้าทุนนี้มาไว้ในมือให้ได้ต้องไม่พลาดที่จะติดตามความเคลื่อนไหวกันให้ดีแล้ว! เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !