Series Full Review : D.P. : หน่วยล่าทหารหนีทัพมุมมืดที่แสงสว่างยากส่องถึง รากเหง้าของปัญหาที่หยั่งลึกเกินกว่าขุดถึงราก ระบบที่ปลุกความเป็นปีศาจที่ต้องตีแผ่NETFLIX : 1 Season 6 Episodes (2021)สำหรับเรื่องที่ละเอียดอ่อนหรือเรื่องที่เป็นมุมมืดของสังคมที่ควรจะถูกตีแผ่นั้น ในฐานะละครที่เป็นสื่อสะท้อนจะมีวลีคลาสสิคที่ว่า “ดูหนังดูละครแล้วย้อนกลับมาดูตัว” เพราะละครคือกระจกสะท้อนที่เข้าถึงง่ายและต้นทุนการเข้าถึงไม่สูง แต่การจะสะท้อนให้เห็นภาพที่ชัดนั้นอาจต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง เพราะมีบ่อยครั้งที่ทำให้เรื่องสามัญใกล้ตัวให้กลายเป็นเรื่องเหนือมนุษย์ไกลตัวไปเพราะยังมีกรอบบางอย่างมาจำกัดไว้ ยังมิต้องไปถามถึงเรื่องราวทางสังคมที่เป็นเรื่องที่มีผลกระทบตั้งแต่ระดับโครงสร้าง เรื่องของระบบที่กัดกินความเป็นมนุษย์ที่กัดกร่อนความแข็งแรงของรากฐานทางสังคมอันส่งผลกระทบต่อคนชนชั้นฐานราก ชนชั้นที่เป็นกลไกเล็กๆแต่สำคัญในการเคลื่อนไปข้างหน้าของสังคมเมื่อเขาเหล่านั้นที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของละครแต่เมื่อพวกเขาไม่ได้รับความยุติธรรม ถูกระบบกดขี่ ถูกโครงสร้างที่ฟอนเฟะรังแกเสมอมา แต่ละครไม่เคยสะท้อนเรื่องราวของพวกเขาให้ได้เห็นปัญหาเพราะความไม่กล้า ก็เลยไม่มีใครได้เห็นปัญหาที่ฝังรากลึกเพราะไม่มีใครกล้าตีแผ่ แต่ถ้ากล้าก็อาจเป็นกระบอกเสียงที่สำคัญให้คนหันกลับมามองว่าสิ่งที่เห็นนั้นคือปัญหาใหญ่ที่อาจต้องให้หัวใจของทุกคนช่วยกันเพื่อเรียกร้อง เช่นเดียวกับเรื่องของด้านมืดในค่ายทหาร เรื่องของความรุนแรงในกองทัพที่เป็นปัญหาหมักหมมไปถึงระดับรากแก้วของประเทศเกาหลี ที่ได้ถูกสะท้อนออกมาได้อย่างถึงแก่นจนยอดเยี่ยมพอในการคว้ารางวัล D.P.เรื่องย่อเรื่องเล่าของอันจุนโฮ (จองแฮอิน) เด็กหนุ่มคนส่งอาหารเปิดมาด้วยการถูกกล่าวหาว่าโกงเงินทอนแต่คนดูก็รู้ว่าใครเป็นคนเอาไป เมื่อความอยุติธรรมนั้นคืบคลานมาถึงร้านอาหารที่เขาทำงานอยู่เจ้าของร้านจึงไล่อันจุนโฮออกโดยไม่สนเหตุผลใด แต่เมื่ออันจุนโฮเอ่ยปากทวงค่าจ้างที่เขาต้องได้และเจ้าของร้านค้างจ่ายก็ถูกเบี้ยว อันจุนโฮจึงขี่มอเตอร์ไซค์ที่เขาใช้ส่งของออกมาถือว่าเป็นค่าจ้าง เมื่อขายได้เงินมาก้อนหนึ่งก็ส่งไปให้แม่กับน้องสาวแล้วเขาก็เดินเข้าสู่การเป็นทหารเกณฑ์ที่ชายชาวเกาหลีทุกคนต้องเข้ากรม และแล้ว เมื่อการอยู่ในค่ายทหารของอันจุนโฮก็ได้พบกับความจริงที่เป็นเรื่องที่น่ารังเกียจเมื่อระบบรุ่นพี่ที่เข้มแข็งได้ถูกมนุษย์ที่ฝักใฝ่อำนาจที่มีเพียงน้อยนิดนำมาใช้กระทำต่อทหารรุ่นน้องด้วยความรุนแรง กระทำย่ำยีทั้งทางกายทางใจและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ โดยเฉพาะทหารรุ่นพี่ที่ใกล้ปลดประจำการฮวางจังซู (ชินซึงโฮ) ที่ดูหนักข้อกว่าคนอื่น และรุ่นน้องอย่างอันจุนโฮหรือโจซอกบง(โจฮยอนชุล) ที่ไม่น่าจะมีพิษภัยอะไรและดูเป็นคนหงิมๆด้วยซ้ำ จนกระทั่งการพยายามเลี่ยงการปะทะเสมอมาของอันจุนโฮก็ได้โอกาส เมื่อเขาถูกเรียกตัวจากสิบโทพัคบอมกู (คิมซังคยุน) ให้เป็นหนึ่งในหน่วย D.P. ที่ต้องออกติดตามทหารที่หนีทัพออกไปเพราะมีคนหนึ่งเข้าโรงพยาบาล อันจุนโฮจึงได้ออกนอกค่ายพร้อมกับคู่หูพัคซังอู (โกคยองโพ)แต่ตัวตนของพัคซังอูก็ทำให้งานแรกของอันจุนโฮกลายเป็นโศกนาฏกรรม ในที่สุดอันจุนโฮก็ได้มีคู่หูที่แท้จริงคือสิบตรีฮันโฮยอล (#กูคโยฮวาน) ที่ออกมาจากโรงพยาบาล แล้วการทำงานของทั้งสองคนก็เข้าขากันได้ดีเมื่อได้ติดตามทหารหนีทัพกลับมาได้หลายคน เพียงแต่ทุกครั้งที่ทั้งคู่ต้องตามจับทหารหนีทัพกลับมามักมีเรื่องที่แฝงไว้ข้างหลังเป็นเหตุผลของมันเสมอ และเหตุผลหลักๆคือความรุนแรงในกรมทหารที่ผ่านมารุ่นสู่รุ่น เมื่อรุ่นน้องที่ถูกกระทำก็ต้องกลายเป็นรุ่นพี่แล้วเมื่อทำอะไรรุ่นพี่ที่ทำร้ายตัวเองไม่ได้ ทุกอย่างจึงมาลงที่รุ่นน้องจนกลายเป็นเรื่องปกติ จนคนที่ดูเหมือนไม่มีอะไรอย่างโจซอกบงหนีทัพออกไป สุดท้ายคนดีที่ถูกปลุกปีศาจในใจขึ้นมาก็ตามล่าหาความยุติธรรมให้ตนเองการเล่าเรื่องที่อาจไม่คุ้นชินทำให้รสชาติแปลกแต่ก็แฝงอะไรไว้คิดมากมายเมื่อดูซีรีส์เกาหลีมากเข้าแล้วพอมาเห็นเรื่องนี้ที่เป็นซีรีส์ NETFLIX Original ที่สร้างเพื่อลงจอสตรีมมิ่งไม่ได้ออกอากาศทางโทรทัศน์ แรกเลยคือผู้เขียนทำใจล่วงหน้าแล้วว่าเรื่องนี้จะไม่เหมือนงานซีรีส์กาหลีที่คุ้นเคย หนึ่งคือจำนวนตอนที่น้อยเพียงหกตอนจึงไม่ต่างจากงานซีรีส์ตะวันตกที่มาในรูปแบบ Limited Series และที่เห็นมาหลายครั้งกับงานแบบนี้เรื่องมักจะถูกเล่าเป็นเกาหลีอินเตอร์ นั่นคือมีความเป็นเกาหลีที่บทยังมีความโดดเด่นเชิงดราม่าและใช้การแสดงชั้นยอดมาเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อน เพียงแต่ การลดจำนวนตอนลงจากมาตรฐานซีรีส์เกาหลีก็ทำให้หลายอย่างถูกตัดออกไป จนคล้ายเป็นการเล่าเรื่องแบบตะวันตกมากกว่าและเรื่องนี้ก็เป็นเช่นนั้นเมื่อการเล่าเรื่องจากจุดเริ่มต้นไม่ได้เริ่มบนที่สูงมากมายแต่เริ่มที่จุดที่พอรับได้ แล้วพาคนดูไปมีส่วนร่วมกับเรื่องที่ต้องการจะเล่าโดยค่อยๆนวดอารมณ์คนดูด้วยดราม่าย่อยในแต่ละเคสการตามหาทหารหนีทัพ นั่นหมายความว่าอัตราความเร้าใจจะค่อยๆทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อผ่านจำนวนตอนไปเรื่อยๆและไปสู่จุดสูงสุดในตอนท้าย ที่ได้อธิบายทุกอย่างของเหตุผลของคนที่หนีทหาร ซึ่งก่อนหน้านั้นก็ได้ฝังเมล็ดพันธุ์ทางความคิดให้คนดูได้คิดต่อว่าทำไมพวกทหารหนีทัพจึงตัดสินใจแบบนั้นด้วยความที่ไม่ได้เร่งตั้งแต่แรกแต่ค่อยๆนวดเพราะทุกคนล้วนมีเหตุผลของตัวเองแต่...เมื่อเป็นงานเกาหลีที่เล่าแบบตะวันตกที่จำนวนตอนน้อย สิ่งที่ตามมาคือคนที่ดูเกาหลีมามากหน่อยจะรู้สึกว่าบางอย่างถูกละเลยหรือไม่อธิบายมากกว่านี้ เพราะอย่างที่บอกคือ เจตนาให้เมล็ดพันธุ์ทางความคิดของคนดูงอกขึ้นในสมอง อันจะทำให้ผู้ชมคิดต่อไปว่าเหตุใดคนที่เป็นฝ่ายกระทำไม่ถูกลงโทษบ้าง เหตุใดปัญหานี้ถึงไม่ถูกแก้ไขทั้งที่ก็น่าจะมีอะไรได้เป็นข่าวมาบ้างก่อนหน้านี้ซึ่งอาจมองได้ว่าเป็นงานด้านบทที่ไม่เรียบร้อย แต่หากมองให้ลึกบทได้ชี้ปัญหาทางโครงสร้างอย่างแยบยล เมื่อระดับนายพลที่มุ่งหวังแต่การเลื่อนขั้นจนทำได้ทุกอย่างเพื่อปิดความผิดพลาดของตัวเองและความมืดมนของกองทัพเกาหลีจนกระทั่งจะเอาชีวิตคนหรือตำรวจสายสืบที่ยังคงใช้อารมณ์ความเป็นรุ่นพี่ที่เคยเข้ากรมมาก่อนมาตัดสินการกระทำของทหารหนีทัพ ซึ่งมันคืออคติและการตัดสินใจที่ไม่เป็นธรรมและมันคือเจตนาที่จะเปิดช่องให้คนดูคิดต่อมากกว่าจะอธิบายให้ละเอียด และดูไปบ่นไปมองว่ามันคืองานด้านบทที่ยอดเยี่ยมในแบบของมัน เป็นแนวที่คนดูซีรีส์เกาหลีอาจไม่คุ้นเมื่อดราม่าแฝงที่มีได้บอกเล่ามาแบบต้องคิดตาม แต่นั่นคือการเอาสมองคนดูไปเป็นตัวประกันเพื่อที่คนดูจะได้รับรู้ถึงรากเหง้าของปัญหาผ่านกระบวนการคิดจนเหมือนมีส่วนร่วมไปกับปัญหานั้น ด้วยความหดหู่เหลือประมาณเมื่อมนุษย์ทำกับมนุษย์ด้วยกันเช่นที่เห็น และเห็นว่าไม่ว่าจะต้องแลกมากับอีกกี่ชีวิตปัญหาเหล่านี้อาจไม่มีทางที่จะถูกแก้ไขการแสดงที่ไม่เคยทำให้ผิดหวังสำหรับนักแสดงเกาหลีเมื่อบทเด่นดราม่าไม่ได้ถูกเล่าแบบเกาหลีแต่สิ่งที่ยังคงเป็นเอกลักษณ์ของเกาหลีที่เชิดหน้าชูตาได้เสมอคือการแสดง ด้วยความที่ตัวละครอันจุนโฮคือคนที่มีปัญหาครอบครัวแล้วต้องไปแบกรับความกดดันในเรื่องความรุนแรงในค่ายทหาร ทั้งการถูกกระทำหรือการได้เห็นผ่านสายตาเลยเถิดไปถึงมีแผลในใจเรื่องของปฏิบัติการที่กลายมาเป็นบาดแผล การได้รับรู้เรื่องราวหรือเหตุผลและพื้นฐานของอารมณ์ของทหารหนีทัพผ่านการอ่านทางหนีทีไล่ของพวกเขา ซึ่งต้องคิดวิเคราะห์พฤติกรรมรอบข้างอันนำมาซึ่งมิติข้างในที่ไม่ต่างจากการเล่าเรื่อง คือเริ่มต้นแบบทั่วไปด้วยการเปิดบาดแผลแล้วค่อยๆสูงมีมิติขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงขีดสุดข้างในจิตใจ และสุดท้ายก็ตัดสินใจแบบที่เห็นในตอนจบซึ่ง มันยืนยันสิ่งที่เป็นมาตลอดเรื่องในเรื่องของการเปิดช่องให้ผู้ชมได้คิดต่อ และถ้าจะบอกว่าจองแฮอินรับผิดชอบตัวละครที่แบกโลกไว้ทั้งหมดได้อย่างไม่มีที่ติก็อาจไม่เกินเลยไปนัก เพราะทุกอย่างที่ตัวละครอันจุนโฮต้องรับทราบและรับมาแบกไว้ข้างในไม่ใช่เรื่องที่จะรับมือง่ายและมันมีผลต่อใจแน่นอนไม่ว่าจะเป็นใคร ที่ส่งผลให้การกระทำบางอย่างออกมาอย่างที่เป็นจองแฮอินทำให้คนดูเชื่อได้ เพียงแต่ในสายตาผู้เขียนเขายังไม่ถึงกับเป็นเดอะแบก เมื่อหลายครั้งถูกตัวละครฮันโฮยอลของกูคโยฮวานขโมยซีนได้ อาจเป็นเพราะตัวละครฮันโฮยอลดูผ่อนคลายและลื่นไหลกว่าแล้วมาตรฐานการแสดงของนักแสดงเกาหลีก็อย่างที่ทราบ คือใครก็ตามที่ได้ขึ้นจอในระดับนี้ไม่มีระดับธรรมดาแน่นอน ทำให้แม้จะดูเหมือนบทฮันโฮยอลเป็นลูกคู่แต่มีเด่นล้ำออกมาเป็นบางครั้ง โดยเฉพาะการตัดสินใจในเคสของฮอชีโดที่หนีทหารมาเพื่อหาเงินพาย่าไปอยู่บ้านพักคนชราที่มองเห็นความเป็นมนุษย์ในตัวเขา และทำให้ตัวละครนี้โดดเด่นไม่แพ้อันจุนโฮ และมิติความเป็นมนุษย์แบบนี้ก็ยังมีให้เห็นในตัวสิบโทพัคบอมกูที่รับบทโดยนักแสดงที่เล่นมาแล้วทุกบทกระมังอย่างคิมซังคยุน หัวหน้าหน่วยที่ดูเหมือนไร้หัวใจ หากแต่ข้างในมีความยืดหยุ่นและมองในมุมที่เห็นใจทหารชั้นผู้น้อยเสมอมา ซึ่งตัวละครที่มีความเป็นมนุษย์เหล่านี้คือตัวแทนของคนที่อยู่ท่ามกลางปัญหาแต่ปัญหาก็ถูกฝังรากจนลึกโดยระบบรุ่นพี่และยิ่งหนักขึ้นไปเมื่อระบบนั้นมีลำดับชั้นยศคอยกำกับ และชี้ให้เห็นว่ามันหนักหนาแม้กระทั่งการลาออกหรือการปะทะกระทั่งชีวิตของใครบางคนที่ต้องเสียสละก็ไม่อาจสั่นคลอนรากที่เน่าได้ และการแสดงของนักแสดงเกาหลีก็ยังไม่เคยทำให้ผิดหวังเพราะด้วยงานด้านบทที่อยู่ในระดับยอดเยี่ยมแม้จะดูแปลกไป แล้วให้การแสดงในระดับเข้มข้นมาเป็นเครื่องยนต์หลักในการดึงอารมณ์คนดูไปเหมือนกับอยู่ในเหตุการณ์ มีส่วนกับการรับรู้เรื่องราวของเหล่าทหารหนีทัพหรือแม้กระทั่งใครก็ตามที่เดินผ่านกล้องไปแบบไม่มีใครสนใจก็ยังดูเป็นธรรมชาติ เรื่องจึงถูกเล่าด้วยการแสดงที่นำบทออกมาถ่ายทอดได้อย่างสมบูรณ์ซึ่งอาจดูแปลกแต่ดีเรื่องนี้อาจไม่ได้ขยี้อารมณ์มากจนรู้สึกได้เหมือนซีรีส์เกาหลีทั่วไป บางอย่างไม่ได้สัมผัสได้ด้วยตาคือบางอย่างไม่มีการบอกเล่าด้วยภาพแต่วางจุดด่างไว้ให้เห็นแล้วให้สมองคนดูคิดต่อ แต่ถ้านับกันที่ภาพรวมโดยมองให้ลึกนี่คืองานที่มีบทที่แน่นและสมบูรณ์ไม่มีอะไรให้กังขา เพียงแต่บางอย่างอาจถูกตีความต่างกันไปเพราะเจตนาของบทเป็นเช่นนั้น คือตั้งใจมาขายการตีแผ่ปัญหาที่อาจไม่มีใครมองเห็นหรือเห็นแต่ไม่กล้าแตะต้อง เพราะบทฉลาดในการรู้ว่าสมองคนดูจะตีความต่างกันไป บางคนก็คิดว่าเป็นปัญหาใหญ่หรือบางคนก็คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา นั่นคือปัญหาความรุนแรงในกองทัพเกาหลีซึ่งผู้เขียนเชื่อว่าในสังคมบ้านเขาก็คงมีมาให้เห็นอยู่เรื่อยๆ แต่ความเป็นกองทัพที่เป็นแดนสนธยาที่ไม่มีใครตรวจสอบได้ทุกสิ่งที่ตามมาก็คือการถูกละเลย จนกระทั่งแผลที่เป็นมันพุพองเป็นหนองนานเข้าเน่าก็ไปถึงข้างในจนกลายเป็นเรื่องปกติ อาจเพราะบริบททางสังคมที่มองระบบอาวุโสเป็นที่ตั้ง ระบบรุ่นพี่ที่ดูไม่ดีนักแต่แข็งแรงยากทำลาย ทัศนคติต่อมนุษย์ด้วยกันแต่คิดไม่เหมือนกันก็แรงซึ่งอย่างหลังคือเรื่องอันตรายเพราะบางทีก็นำมาซึ่งอคติ และความจริงการคิดต่างมิใช่ต้องเป็นศัตรูเสมอไป แต่เรื่องราวเหล่านี้ก็ถูกแฝงไว้อย่างแยบยลในดราม่าย่อยที่เร้าใจขึ้นเรื่อยๆ ไปจนกระทั่งมีใครสักคนที่กระทำบางประการพร้อมกับการกระเทาะเปลือกปัญหาสิ่งที่ชัดเจนออกมาคือความจงชังรังเกียจคนที่กระทำต่อคนโดยไร้ความเป็นมนุษย์ มีบ้างบางคนอาจถึงขั้นอยากให้คนเหล่านี้ถูกกระทำเอาคืน ถูกกฎหมายลงโทษหรือกระทั่งตายตกตามกัน หรือใครจะปฏิเสธว่าไม่สาสมใจเมื่อเห็นรุ่นน้องซ้อมรุ่นพี่แล้วหนีไป หรือตอนท้ายอย่างที่เห็นบทสรุปที่สาแก่ใจกว่าสำหรับรุ่นพี่ มันคือผลของการเอาสมองของคนดูเป็นตัวประกันอย่างที่ว่า และเมื่อสมองคนดูไตร่ตรองอย่างถ้วนถี่ก็ยังมองไม่เห็นว่าคนเหล่านี้มีเหตุผลอะไรในการทำร้ายคนอื่นสิ่งที่คิดได้คือคนเหล่านี้สมควรโดนแล้ว แต่กระนั้นความหมายโดยนัยก็ยังชัด เมื่อถึงที่สุดกฎหมายก็ไม่อาจเอื้อมมือเข้าไปในแดนสนธยาได้จนตอนสุดท้ายคำพูดของพี่สาวทหารหนีทัพที่ต้องตายก็แหลมคมยิ่งว่า “ถ้าเขาเป็นคนดี แล้วคุณทำอะไรบ้างตอนที่เขาถูกซ้อม” นั่นคือที่สุดของทุกอย่างที่เป็นในเรื่องนี้ เพราะหนึ่งชีวิตที่ต้องเสียไป หนึ่งอนาคตที่ต้องเสียไปเมื่อคนดีต้องกลายมาเป็นปีศาจเพราะปัญหาความรุนแรงแบบนี้ทุกคนในสังคมทำอะไรอยู่จึงไม่ถูกแก้ไขสักที เพราะหนึ่งชีวิตไม่ใช่แค่หนึ่งชีวิตยังมีคนข้างหลังของพวกเขาลูกชาวบ้านที่ต้องเช็ดคราบน้ำตาแห่งความสูญเสียอยู่มิใช่หรือ และอาจเป็นงานซีรีส์ที่ให้รสชาตทีดูแปลกไปสำหรับซีรีส์เกาหลีแต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้เช่นกันว่ายังเป็นงานชั้นเยี่ยม ดูไปบ่นไปNETFLIXขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 9 จาก Facebook Netflixภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 / ภาพที่ 10 จาก Instagram netflixkrเกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ ๆ ได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !