หลายคนคงจะได้ยินกันมาบ้างแล้วสำหรับนโยบายการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่ 3 เพื่อเป็นบูสเตอร์โดสให้กับบุคลาการทางการแพทย์ที่เป็นแนวหน้าในการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด และในวันนี้เราจะมารีวิวการฉีดวัคซีนไฟเซอร์สำหรับบุคลากรด่านหน้ากันค่ะ รีวิวการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่ 3 ของบุคลากรด่านหน้า ทุกคนคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าการระบาดของโควิด 19 นั้นอยู่กับเรามานานเกือบ 2 ปีแล้ว การพัฒนาวัคซีนเพื่อป้องกันโรคระบาดนี้ก็ประสบความสำเร็จเป็นที่เรียบร้อย ในปัจจุบันจึงมีวัคซีนป้องกันโควิดมากมายจากหลายประเทศ ซึ่งในประเทศไทยนั้นมีวัคซีนซิโนแวคและแอสตร้าเซเนก้าเป็นวัคซีนหลัก บุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นด่านหน้าในการตรวจหาเชื้อ ช่วยเหลือและรักษาผู้ป่วยโควิดทั้งแพทย์ พยาบาลก็เริ่มได้รับวัคซีนกันตั้งแต่เมื่อหลายเดือนก่อน และล่าสุดก็มีนโยบายในการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เป็นวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันโควิดให้กับบุคลากรด่านหน้าอีกด้วย วัคซีนไฟเซอร์เป็นวัคซีนชนิด mRNA ซึ่งแตกต่างจากวัคซีนหลักของประเทศไทยอย่างซิโนแวคและแอสตร้าเซเนก้าที่เป็นวัคซีนเชื้อตาย บุคลากรทางการแพทย์ส่วนมากจะได้รับวัคซีนครบทั้งสองโดสแล้ว ซึ่งวัคซีนที่ได้รับอาจแตกต่างกันไปทั้งซิโนแวคทั้งสองโดส แอสตร้าเซเนก้าทั้งสองโดส หรือซิโนแวคและแอสตร้าเซเนก้าอย่างละโดสก็ได้ และในการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 นี้ก็จะเป็นวัคซีนไฟเซอร์นั่นเอง สำหรับการรีวิวในวันนี้จะเป็นการรีวิวจากคุณแม่ที่เป็นพยาบาลที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบสองโดสและได้รับวัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 3 ไปเรียบร้อยแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งระยะเวลาห่างจากการฉีดซิโนแวคเข็มที่ 2 ประมาณ 3 เดือนค่ะ ขั้นตอนการรับวัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 3 จะเริ่มจากการลงทะเบียน ซึ่งเป็นการลงทะเบียนผ่านหน่วยงานคือโรงพยาบาลที่สังกัดอยู่ โดยหน่วยงานจะให้กรอกข้อมูลแสดงความจำนงเพื่อรับวัคซีนเข็มที่ 3 ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าวัคซีนที่เป็นบูสเตอร์โดสนี้จะรับเป็นวัคซีนไฟเซอร์หรือแอสตร้าเซเนก้าก็ได้ โดยคุณแม่ได้เลือกเป็นวัคซีนไฟเซอร์ไป เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยก็รอจนกว่าจะมีการจัดสรรวัคซีนมาที่หน่วยงาน เมื่อวัคซีนถูกจัดสรรมาให้หน่วยงานก็จะแจ้งเวลาและสถานที่ในการฉีดวัคซีนมาให้เรา เราก็ไปตามสถานที่และเวลาที่หน่วยงานได้แจ้งไว้ ขั้นตอนในการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 นี้จะไม่ต่างกับการฉีดวัคซีนสองเข็มแรกมากนัก เริ่มด้วยการเข้าไปรับบัตรคิวก่อน แล้วเราจะได้ใบบันทึกการฉีดวัคซีนมา ก็กรอกข้อมูลของเราลงไปในใบบันทึกที่ได้รับมาโดยใบบันทึกการฉีดวัคซีนของเข็มที่ 3 นี้จะเป็นคนละใบกันกับวัคซีนสองเข็มแรก เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยก็มาลงทะเบียนซึ่งในขั้นตอนนี้จะต้องใช้บัตรประชาชนในการลงทะเบียน เมื่อลงทะเบียนเสร็จก็เข้าไปวัดความดัน ชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูง และเราจะได้ใบบันทึกความดันมาเพื่อให้กับเจ้าหน้าที่ต่อไป ขั้นตอนถัดมาจะเป็นการซักประวัติ เจ้าหน้าที่จะถามถึงโรคประตัวและประวัติการแพ้ยาของเรา หากเป็นการฉีดวัคซีนในเข็มที่ 2 และ 3 เจ้าหน้าที่จะถามถึงวัคซีนเข็มก่อนหน้าที่เราฉีดและอาการแพ้หรือผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นหลังจากฉีดวัคซีนเข็มก่อนหน้าด้วย ซึ่งคุณแม่ไม่มีอาการแพ้ใดๆเลย มีเพียงการปวดกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อซักประวัติเรียบร้อยก็มาถึงในส่วนของการฉีดวัคซีน เจ้าหน้าที่จะพาเราไปนั่งรอที่เก้าอี้ที่จัดไว้เป็นแถว เมื่อถึงเวลาก็จะมีเจ้าหน้าที่มาฉีดวัคซีนให้เรา พอฉีดเสร็จเราก็จะได้สำลีมากดบริเวณที่ฉีดวัคซีนไว้และจะได้สติ๊กเกอร์บาร์โค้ดที่ระบุเลขขวด ระบุlot และวันหมดอายุของวัคซีนแปะมาในใบบันทึกที่เรากรอกไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งควรเก็บใบบันทึกการฉีดนี้ไว้หรือถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานเผื่อกรณีที่เรามีอาการข้างเคียงหลังการฉีดขึ้นมาจะได้สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ค่ะ เมื่ฉีดเรียบร้อยเราจะต้องนั่งรอเพื่อสังเกตอาการต่อไปอีก 30 นาที ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเขียนเวลาบอกไว้ให้ตรงหัวแถวและเมื่อครบเวลา 30 นาทีทั้งแถวนั้นจึงจะสามารถกลับได้ แต่เราก็ควรจะสังเกตอาการตัวเองต่อไปอีกอย่างน้อย 1 เดือนจะดีที่สุดค่ะ ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากที่ฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่ 3 ไปคุณแม่ยังไม่มีอาการใดๆหลังฉีด รวมทั้งไม่ปวดกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเหมือนตอนฉีดสองโดสแรกด้วย แต่ก็ยังต้องเฝ้าสังเกตอาการกันต่อไปค่ะ เครดิตภาพ Pixabay : ภาพที่1 โดย x3 ,ภาพที่3 โดย HaticeEROL ภาพโดยผู้เขียน : ภาพที่ 2 , ภาพที่ 4 - 5 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !