สวัสดีค่ะ วันนี้ Stn จะมาเปิดเงื่อนไข ช้อปดีมีคืน ปี 2566 ที่คนเสียภาษีทุกคนควรรู้ ช้อปสนุก ได้เงินคืน ก็ต้องช้อปดีมีคืนนี่แหละค่ะ ช้อปดีมีคืน ปี 2566 กำหนดให้ใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 15 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นระยะเวลารวม 46 วัน ซึ่งเราสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 40,000 บาทค่ะ บอกไว้ก่อนเลยว่า 40,000 บาทนี้ไม่ใช่ส่วนของภาษีที่เราจะได้คืนจากรัฐนะคะ หลายๆคนอาจจะเข้าใจผิด จริงๆแล้วมันคือส่วนที่เราเอาไว้ยื่นลดหย่อนภาษีจากรายได้รวมประจำปีของเราค่ะ เช่นรายได้รวม 350,000 บาท และเราลดหย่อนด้วยช้อปดีมีคืนไป 40,000 บาท เราเอาไปหักจากรายได้ จะเหลือรายได้สุทธิ 310,000 บาท จากนั้นค่อยเอารายได้สุทธิตรงนี้ไปคำนวณภาษีตามที่รัฐกำหนดค่ะ อีกอย่างนึงก็คือช้อปปีนี้ ลดปีหน้านะคะ เพราะสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ในรอบปี 2566 หรือก็คือที่เราจะต้องยื่นเสียภาษีตอนช่วงต้นปี 2567 นั่นเองค่ะ เก็บใบกำกับภาษีกันไว้ดีๆนะคะ ระวังหาย 555 มาที่เงื่อนไขกันบ้างค่ะ จริงๆก็ไม่ซับซ้อนเท่าไร ไปดูกันเลยเป็นผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ก็คนอย่างเราๆนี่แหละค่ะ ไม่รวมคณะบุคคล และห้างหุ้นส่วนต่างๆ เมื่อซื้อสินค้า และบริการจากผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หนังสือ หรือ E-book (ไม่รวมนิตยาสาร และหนังสือพิมพ์นะคะ) และสินค้า OTOP ที่ได้ลงทะเบียยกับกรมพัฒนาชุมชนแล้วการซื้อสินค้า 30,000 บาทแรก ใช้ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบหรือใบรับ ได้ทั้งแบบกระดาษ หรือ e-Tax Invoice, e-Receiptการซื้อสินค้าไม่เกิน 10,000 บาท ใช้ได้เฉพาะใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ e-Tav Invoice, e-Receipt เท่านั้น ตรงเงื่อนไขที่ 3 และ 4 อธิบายง่ายๆแบบนี้ค่ะ คือเราสามารถลดหย่อนด้วยใบกำกับภาษีแบบกระดาษเพียง 30,000 บาทเท่านั้น แต่สำหรับใบกำกับภาษีแบบอิเล็กทรอนิกส์จะลดหย่อนได้ถึง 40,000 บาทเลย เช่น ถ้าเราซื้อมือถือ 40,000 บาท แล้วขอใบกำกับภาษีแบบกระดาษ เราจะลดหย่อนภาษีได้แค่ 30,000 บาทเท่านั้นค่ะ แต่ถ้าเราขอเป็นใบกำกับภาษีแบบอิเล็กทรอนิกส์ เราจะสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้เต็ม 40,000 บาทค่ะ อันนี้เพื่อนๆต้องระวังนะคะ ถ้าซื้อสินค้าที่มูลค่าเยอะๆให้ขอเป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ไว้ก่อน อีกอย่างคือร้านที่ออกแบบอิเล็กทรอนิกส์ให้ได้ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกร้านใหญ่มากๆเท่านั้น สรุปคือถ้าร้านไหนออกได้ ให้รีบขอแบบอิเล็กทรอนิกส์ไว้ก่อนเลย ถึงมูลค่าสินค้าจะไม่เยอะมากก็ตาม ในส่วนของสินค้าและบริการที่ไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้ มีดังนี้ค่าสุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือค่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือค่าบริการหนังสือพิมพ์ และนิตยาสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ค่าบริการจัดนำเที่ยว และมัคคุเทศก์ค่าที่พักในโรงแรมค่าสาธารณูปโภค น้ำประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ตค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการ และผู้รับบริการสามารถใช้บริการดังกล่าวนอกเหนือจากระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ ( 1 มกราคม - 15 กุมภาพันธ์ 2566) ตัวอย่างของเงื่อนไขข้อนี้ เช่น แพคเกจรายปีร้านสปา อันนี้จะใช้ลดหย่อนไม่ได้นะคะ เนื่องจากเป็นรายปี แต่ถ้าเป็นร้านสปาที่จด VAT และเราใช้บริการภายในเวลาที่กำหนดของช้อปดีมีคืน ก็สามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้เช่นกันค่ะค่าประกันวินาศภัย พวกเบี้ยประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ ประกันรถยนต์ พวกนี้ใช้ไม่ได้นะคะ นอกจากสินค้าและบริการด้านบนแล้ว ทองคำแท่ง ค่ารักษาพยาบาล และค่าทำศัลยกรรม ก็ไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้เช่นกันค่ะ แต่รอบนี้เติมน้ำมันรถใช้สิทธิ์ได้นะคะ พนันเลยว่าคิวเติมน้ำมันช่วงปีใหม่นี้ต้องยาวเลยออกไปนอกปั๊มแน่ๆ 😂 เพิ่มเติมอีกนิดนึงค่ะ ใครที่สนใจและคิดจะช้อปกระจายสัก 40,000 รับปีใหม่ อาจจะต้องกลับมาที่จุดเริ่มต้นก่อน ช้อปดีมีคืนเอาไว้สำหรับลดหย่อนภาษีใช่มั้ยคะ ซึ่งตามที่กฎหมายกำหนด เราจะมีการเสียภาษีด้วยอัตราแบบขั้นบันได และผู้ที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 150,000 บาทจะได้รับการยกเว้นภาษี นอกจากนี้ก็มีพวกค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่สามารถลดหย่อนได้ 60,000 บาท ค่าลดหย่อนพ่อ-แม่ ที่อายุเกิน 60 ปี อีกคนละ 30,000 บาท ดังนั้นถ้าใครที่รายได้ต่อปีเกิน 150,000 มาไม่เยอะ พอหักส่วนลดหย่อนแล้วมีรายได้สุทธิไม่ถึง 150,000 บาท ก็เป็นกลุ่มบุคคลที่ไม่ต้องเสียภาษีนะคะ หรือบางคนพอหักส่วนลดหย่อนภาษีทั้งหมดแล้วมีรายได้สุทธิ 170,000 บาท เราอาจจะช้อปเพิ่มแค่ 20,000 บาท ก็มีค่าเท่ากับช้อป 40,000 บาทแล้ว ตรงส่วนนี้เพื่อนๆอาจจะต้องไปคำนวณรายได้รวม และรายได้สุทธิของตัวเองกันก่อน เพราะบางคนใบกำกับภาษีช้อปดีมีคืนที่ขอไว้อาจจะไม่ต้องใช้เลยก็ได้ จะได้ไม่ต้องต่อแถวยาวๆ แถมเก็บรักษามาเป็นอย่างดีทั้งปีไปอีก 😂 ภาพประกอบภาพที่ 1 และ 3 โดย Stnภาพที่ 2 โดยกรมสรรพากรภาพที่ 4 โดย stevepb จาก Pixabay7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์