Hospital Playlist หรือ Wise Doctor Life เพิ่งลาจอไปสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา (ปี 2020) ลาไปแบบปังมากด้วยเรตติ้ง 14.142 % ถือเป็นเรตติ้งสูงสุดอันดับ 9 ของประวัติศาสตร์ซีรีส์ที่ออกอากาศทางเคเบิ้ลทีวีของเกาหลีเลยทีเดียว มีคนรีวิวซีรีส์เรื่องนี้ไว้หลายคนแล้ว ลองไปอ่านดูกันได้จากลิงก์นี้ หรือลิงก์นี้ได้ ส่วนตัวเป็นคนชอบดูซีรีส์ให้จบก่อนค่อยมานั่งรีวิว เลยรีวิวช้ากว่าคนอื่นไปบ้าง เพราะบางเรื่องดีมาตลอด ดันมาตายตอนจบ แต่เรื่องHospital Playlistนี่ถือว่าทำได้ดีไม่มีตายตอนจบ (เพราะมีภาคสองต่อ รอดูกันได้ในปี 2021 ฉะนั้นในภาคแรกนี้ก็ยังไม่ถือว่าจบเลยทีเดียว)Hospital Playlist เป็นซีรีส์เซตเดียวกันกับ Prison Playbook ที่เคยรีวิวไปแล้ว คือเป็นซีรีส์เกี่ยวกับการใช้ชีวิต ถ่ายทอดด้านที่สวยงามของชีวิตออกมามากกว่าด้านที่หม่นหมอง ซีรีส์จะออกโทนเดียวกันคือ มีความอบอุ่น ละมุน ความฮา (แต่ฝั่ง Prison Playbook จะออกฮาด้านมืด ในขณะที่ฝั่ง Hospital Playlist จะฮาแบบอบอุ่น ใส ๆ ไร้เดียงสามากกว่า)Plotตัวเรื่องเกาะติดชีวิตการทำงานของกลุ่มหมอเพื่อนรัก 5 คน พวกเขารู้จักและคบกันมากว่า 20 ปี เป็นทั้งเพื่อนสมัยเรียนและเพื่อนร่วมงานในปัจจุบัน ทุกคนอายุ 40 ปี ถือเป็นช่วงเวลาที่กำลังทำงานหนักและได้รับความเคารพตามสายงานของตน หมอทั้ง 5 คนทำงานในแต่ละแผนกที่แตกต่างกัน อีอิกจุนเป็นศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านตับและทางเดินน้ำดี, อันจองวอนเป็นกุมารแพทย์, คิมจุนวานเป็นศัลยแพทย์ทรวงอก, ยางซอกฮยองเป็นสูตินารีแพทย์ และแชซงฮวา สาวหนึ่งเดียวของกลุ่มเป็นศัลยแพทย์ด้านระบบประสาท ทั้ง 5 คนเคยร่วมตั้งวงดนตรีสมัยเป็นนักศึกษา และปัจจุบันเมื่อได้มาทำงานร่วมกันในโรงพยาบาลเดียวกันพวกเขาจึงรวมตัวกันเล่นดนตรีอีกครั้ง เป็นที่มาของชื่อเรื่อง Hospital Playlist แต่ไม่ได้เล่นจนเก่งแบบมืออาชีพนะ ซอกฮยองผู้เสนอให้รวมตัวกันตั้งวงอีกครั้งแค่อยากให้พวกเขามีกิจกรรมที่ทำร่วมกันกับเพื่อนรักแค่นั้นเองพล็อตหลัก ๆ ของซีรีส์จะเน้นความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร ความน่ารัก ความฮา มีการหยิบจับประเด็นเล็ก ๆ ที่สวยงามในชีวิตมนุษย์มาเล่าเรื่อง ถือเป็นซีรีส์แพทย์ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับเรื่องการผ่าตัดค่อนข้างน้อยถ้าเทียบกับซีรีส์แพทย์เรื่องอื่น ๆ แต่เน้นการบอกเล่าชีวิตของหมอมากกว่า แถมซีรีส์เรื่องนี้ยังไม่มีคลิเช่ (cliché) เดิม ๆ อย่างเรื่องการเมืองในโรงพยาบาล หรือโรคแทรกซ้อนระหว่างผ่าตัดมาให้คนดูปวดหัวอีก เรียกได้ว่าเรื่องนี้ดูแล้วอบอุ่นหัวใจมากกว่าจะไปนั่งเครียดพล็อตรองของเรื่องจะเป็นชีวิตรักของตัวละครแต่ละคน ซึ่งมีตัวหลักคือกลุ่มหมอ 5 คนเป็นตัวเดินเรื่อง และเนื่องจากมีตัวหลักตั้ง 5 คน จะดำเนินเนื้อเรื่องของแต่ละคนได้เลยต้องต่อไปภาคสองเลย ภาคเดียวไม่จบจุดเด่นของเรื่องคือการหาความสุขบนเรื่องเล็ก ๆ ในสายตาของคนทั่วไปแล้วนำมาถ่ายทอดให้เห็นว่าความสุขเหล่านั้นเป็นสิ่งหล่อเลี้ยงหัวใจ และทำให้ชีวิตน่าอยู่มากขึ้นแค่ไหน ทำให้เห็นว่าเรื่องสุข หรือทุกข์ก็ล้วนแล้วแต่เป็นประสบการณ์ชีวิตที่หล่อหลอมให้เราอยู่ได้อย่างเข้มแข็งและมีความสมบูรณ์ในตัวของมันเอง ยกตัวอย่างเช่น ตอนที่คนไข้ทารกเด็กน้อยของหมออันจองวอนเสียชีวิต จองวอนร้องห่มร้องไห้กับพี่ชายที่เป็นบาทหลวงของเขา พี่ชายคอยปลอบเขาที่อยากจะลาออกจากการเป็นหมอ พี่ชายบอกให้ทนอีกปีหนึ่ง ถึงตอนนี้คนดูจะซึ้งน้ำตาไหล แต่พอภาพตัดกลับย้อนไปเมื่อ 1 ปีที่แล้ว หรือ 2 ปีที่แล้วก็มีเหตุการณ์แบบเดียวเกิดขึ้นกันเป๊ะ ๆ แถมจองวอนยังปรับทุกข์กับพี่ชายเหมือนกัน สถานที่เดียวกันเป๊ะ เรียกได้ว่าเป็น Déjà vu เลยทีเดียว และมีบางครั้งจองวอนที่รักษาคนไข้ให้หายได้ก็ดีใจเป็นอย่างมากที่สุดเช่นกัน ถึงตอนนี้คนดูจะเริ่มน้ำตาไหลพร้อมหัวเราะในความน่ารักของหมอจองวอนไปพร้อม ๆ กันเลยจุดเด่นอีกอย่างของเรื่องที่แสดงออกมาได้ดีโดยต้องชื่นชมนักแสดงทุกคนไม่ว่าจะเป็นตัวหลัก หรือนักแสดงร่วมคือเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและมิตรภาพ แน่นอนว่ามิตรภาพระหว่างเพื่อนหมอทั้ง 5 คนนั้นเป็นเรื่องเด่นและงดงาม แต่ส่วนตัวเห็นว่ามิตรภาพระหว่างตัวละครเล็กตัวละครน้อยในเรื่องก็ล้วนแต่ดีงาม ทำได้ดี น่ารัก ซาบซึ้ง ยกตัวอย่างเช่น ตอนที่กลุ่มของผู้สูงวัยทั้งหลาย (แม่จองวอน แม่ซอกฮยอง ผู้บริหารโรงพยาบาลและหัวหน้าแผนกระบบประสาท) มารวมตัวกันแล้วเล่นเกมส์มาเฟีย คือฮามาก เพราะแต่ละคนมีความน่ารัก ความเจ้าเล่ห์ในแบบของตน เรียกว่าน่ารักไม่แพ้กลุ่มหนุ่มสาวเลยทีเดียวการดำเนินเรื่องของ Hospital Playlist ทำได้ดี ไม่มีสะดุด ถึงจะมีการตัดต่อกลับไป – มา ระหว่างอดีตกับปัจจุบันบ้างแต่ก็เกิดความสับสนน้อยมาก (มีบางทีก็สับสนนะ เพราะตัดกลับไปมาในช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยกันเกินไป ทำให้ไม่แน่ใจว่าเหตุการณ์ไหนเกิดขึ้นก่อน หรือหลัง แต่ไม่เยอะ ไม่ค้างคา) ส่วนใหญ่ในแต่ละตอนจะมีบทเพลงประจำตอนที่สะท้อนให้เห็นแก่นของเรื่องในตอนนั้น ๆ เช่น Aloha, In Front of City Hall at the Subway Station, Oh! What a Shiny Night เป็นต้นผู้กำกับชินวอนโฮ และนักเขียนบทอีอูจองทำหน้านที่ได้ยอดเยี่ยมอีกครั้งในซีรีส์นี้ ทั้งคู่ร่วมงานกันมาตั้งแต่ซีรีส์เซต Reply ทั้งหลาย รวมไปถึงเรื่อง Prison Playbook ด้วย และยังคงจะร่วมงานกันต่อไปถึง Hospital Playlist 2 อีกด้วย ถือว่าเป็นบุญของคนดูที่ได้ดูซีรีส์จากฝีมือทีมนี้ เพราะพวกเขาทำได้ดีทั้งด้านการตัดต่อ การดำเนินเรื่อง และการบอกเล่าความรู้สึก ความขบขัน ความซาบซึ้งของชีวิตผ่านตัวละคร แล้วยังมีของแถมเป็นดารารับเชิญปัง ๆ ทั้งหลายที่เล่นหลายต่อหลายเรื่องก่อนหน้านี้ เช่น เชวมูซองที่เคยร่วมงานกับพวกเขาใน Prison Playbook, โกอารา ที่เคยแสดงนำใน Reply 1988, คิมซองกยูน จาก Reply 1988 (และแสดงนำได้ยอดเยี่ยมใน The Fiery Priest ด้วย) สรุปคือ นักแสดงรับเชิญในเรื่องนี้ยาวเป็นหางว่าว และอยู่ในระดับไม่ธรรมดากันทั้งนั้นCharactersอีอิกจุน แสดงโดย โจจองซอก ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านตับและทางเดินน้ำดี เขาเป็นคนฉลาด หัวดี รักเล่น เหมือนจะเล่นสนุกไปวัน ๆ แต่ว่ากันว่าเขาเก่งแทบทุกอย่าง เล่นเกมส์ก็ชนะตลอด เรียนก็ได้ที่ 1 เสมอ เรียกได้ว่าเก่งทุกอย่าง มนุษยสัมพันธ์ดีเลิศ ขนาดป้าที่ทำงานในโรงอาหารก็ยังเป็นเพื่อนกับเขา ถึงขนาดที่ว่าเขาเวรตักข้าวแทนป้าได้เลย เขาเป็นคุณพ่อลูกติดที่รักลูกมาก และลูกก็รักเขามากเช่นกัน เขาไม่เคยคิดเสียใจที่แต่งงานกับภรรยาเก่า แม้ต้องเลิกรากันทั้งนี้เพราะเขารักลูกชายที่เกิดจากการแต่งงานมากโจจองซอกเป็นนักแสดงมากความสามารถ รับได้ทุกบทบาท ทั้งดราม่าเคล้าน้ำตาอย่างบทบอดี้การ์ดใน King2Hearts บทนักข่าวมากความสามารถใน Jealousy Incarnate หรือบทคนไม่เอาถ่านจากหนังฮิตล่าสุดอย่าง Exit ก็แสดงมาหมดแล้ว (หลัง ๆ พี่เน้นบทฮา ไม่ค่อยเน้นดราม่าเท่าไหร่นะ) ด้วยความว่าเขาเป็นนักแสดงแถวหน้าอย่างเต็มตัวแล้ว ทำให้ค่าตัวค่อนข้างสูง และเขาถึงกับลดค่าตัวลงเกือบ 30 % เพื่อเข้ามารับบทใน Hospital Playlist เพราะเขาอยากร่วมงานกับผู้กำกับชินวอนโฮมาก และถือได้ว่าเขาแสดงความสามารถของเขาให้ผู้ชมได้ทึ่งอีกครั้งในเรื่องนี้ด้วยอันจองวอน แสดงโดย ยูยอนซอก เป็นกุมารแพทย์ที่มาจากครอบครัวร่ำรวย และนับถือศาสนาคริสต์ ครอบครัวของเขามีลูก 5 คน ชาย 3 หญิง 2 จองวอนเป็นลูกชายคนเล็ก ในขณะที่พี่ชายและพี่สาวเลือกที่จะรับใช้พระผู้เป็นเจ้าโดยการเป็นบาทหลวงและแม่ชีทั้งหมด ตัวเขาต้องมาเป็นกุมารแพทย์เพื่อให้แม่สบายใจ ในขณะที่ลึก ๆ แล้วเขาอยากเป็นบาทหลวงเหมือนพี่ชาย เขาเป็นคนที่มีจิตใจดี เห็นอกเห็นใจคนไข้เสมอ จนเกือบจะเป็นข้อเสีย เพราะทุกครั้งที่คนไข้เสียชีวิตเขาจะเสียใจมากมาย แต่ในขณะเดียวกัน หากคนไข้ของเขาอาการดีขึ้นเขาก็จะดีใจสุด ๆ ด้วยยูยอนซอกเป็นนักแสดงที่รับบทมาหลากหลาย รวมทั้งยังเคยร่วมงานกับผู้กำกับชินวอนโฮมาแล้วในเรื่อง Reply 1994 และ Hospital Playlist ก็ไม่ใช่เรื่องแรกที่เขารับบทหมอ เขาเคยรับบทหมอในเรื่อง Romantic Doctor, Teacher Kim มาแล้ว แถมยังเป็นเรื่องที่ส่งให้เขาดังมากในปี 2016 ด้วย แต่ลักษณะนิสัยของเขาในเรื่อง Romantic Doctor, Teacher Kim แตกต่างจากเรื่องนี้มากโขอยู่ จึงถือว่าเป็นการสร้างเอกลักษณ์ตัวละครใหม่เลยทีเดียว ทำให้ผู้ชมเห็นถึงความสามารถที่เล่นได้หลายบทบาทของเขาคิมจุนวาน แสดงโดย จองคยองโฮ ศัลยแพทย์ทรวงอกผู้จริงจังและออกดุร้ายเวลาผ่าตัด เขาเป็นคนหน้าตาดีและออกแนวเพลย์บอย ในกลุ่มเพื่อน 5 คนนี้ มีคนบรรยายไว้ว่าจุนวานและอิกจุน เป็นสองคนที่มีแฟนตลอดเวลา เรียกว่าไม่เคยว่างเลยทีเดียว เขาเหมือนจะไม่ค่อยแคร์ความรู้สึกคนไข้ของตัวเอง แต่ในความเป็นจริงเขาเป็นคนที่พยายามเข้าใจความรู้สึกทุกคนมากกว่าที่ใคร ๆ คิดไว้เยอะจองคยองโฮกลับมาร่วมงานกับผู้กำกับชินวอนโฮอีกครั้ง หลังจากร่วมงานกันมาแล้วใน Prison Playbook และเรื่องนี้พี่ก็ยังแสดงได้ดี ไม่เปลี่ยนแปลง และก็ยังรับบทบาทเป็นแฟนกับน้องสาวของเพื่อนรักเหมือนในเรื่อง Prison Playbook ไม่เปลี่ยนแปลงเช่นกัน แถมในเรื่อง Hospital Playlist ตอนเป็นแฟนกับน้องสาวอิกจุนคือฮามาก เพราะตัวเขารู้ เพื่อนรู้ ทุกคนรู้ แต่อิกจุนผู้ที่ปรกติรู้ดีทุกอย่าง...กลับไม่รู้ (หรือเปล่านะ? บางทีก็รู้สึกว่าอิกจุนรู้ แต่ทำเป็นโง่)ยางซอกฮยอง แสดงโดย คิมแดมยอง สูตินารีแพทย์ผู้ที่มาจากครอบครัวเศรษฐี แต่มีปัญหาทางครอบครัวแบบสุด ๆ หย่าเมีย แม่ป่วย น้องตาย พ่อมีเมียน้อย คือรวมความบัดซบมาไว้ในชีวิต มีตอนหนึ่งหมอซงฮวาถึงกับเอ่ยปากว่าถ้าไม่ใช่ซอกฮยอง ไม่รู้ว่าคนอื่นเจอปัญหาเดียวกันแบบนี้จะทนรับได้ไหม ซอกฮยองเป็นคนที่เหมือนจะไม่เข้าสังคม แต่จริง ๆ แล้วเขาเป็นคนที่อบอุ่นและคิดถึงคนอื่นอยู่เสมอ เรียกว่าเป็นคนดีแต่ไม่แสดงออกคิมแดมยองเป็นนักแสดงที่แสดงได้ดีอีกคนหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่จะรับแสดงหนังมากกว่าซีรีส์ คนเลยไม่ค่อยคุ้นหน้า ก่อนหน้านี้ซีรีส์ที่เขาแสดงแล้วปังมาก คือ Misaeng ในปี 2014 ถ้าพูดไปอาจจะคิดหน้าตาเขายังไม่ค่อยออก ต้องกลับไปดูอีกรอบแล้วจะร้องอ้อแชซงฮวา แสดงโดย จอนมีโด ศัลยแพทย์ด้านระบบประสาทคนเก่ง เป็นหญิงเดียวในกลุ่ม มีคนอ้างถึงเธอว่าเป็นเสาหลักของกลุ่มเลยทีเดียว เธอเป็นนักร้องเสียงเพี้ยน รักการเต้น ชอบออกแคมป์ เป็นคนมุ่งมั่น ถ้าคิดจะทำอะไรแล้วต้องทำให้ได้ ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่เปี่ยมไปด้วยความเข้าอกเข้าใจ ในขณะที่เคยมีแฟนมาแล้วแต่ก็ยังไม่ลงเอยกับใครเสียที ทำให้ต้องเป็นสาวโสดในวัย 40 เรียกว่าเก่ง แกร่ง และโสดไปพร้อม ๆ กันเลยทีเดียวจอนมีโด อาจจะเป็นชื่อที่ไม่คุ้นหูสำหรับแฟนหนังแฟนซีรีส์ แต่ความจริงแล้วนางเป็นนักแสดงละครเพลงที่โด่งดังและเลิศมากในปฐพี เคยได้รับรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมในงาน Korean Musical Awards จาก "Sweeney Todd" ในปี 2017 และรับรางวัลต่อกันเป็นปีที่สองจากเรื่อง "Maybe Happy Ending" ในปี 2018 ด้วย การมารับบทบาทหมอซงฮวาผู้เป็นนักร้องเสียงเพี้ยนในเรื่อง Hospital Playlist จึงถือว่าแตกต่างจากการเป็นนักร้องเสียงเพราะในชีวิตจริงของนางมากสรุปคะแนน : 9/10 เป็นซีรีส์ที่ดีตั้งแต่เนื้อเรื่อง การดำเนินเรื่อง เพลงประกอบ นักแสดง ดีเกือบทุกสิ่งอัน หักคะแนนความจบแบบ Anticlimactic Climactic นิดหนึ่ง คือเหมือนจะจบแบบไม่ไคลแมกซ์ แต่ดันไคลแมกซ์ ถือว่าเป็นจุดดีสำหรับซีรีส์ที่ทำให้คนอยากดูภาคต่อนะ แต่สำหรับคนดูคือมันค่อนข้างค้างคานิดหน่อย ต้องรอปีหน้าถึงจะไม่ค้างคาติดตามชมได้ทาง Netflix หรือ ดู Netflix ผ่าน TrueID TVขอบคุณภาพปก และภาพประกอบที่ 1, 6, 8, 10, 11, 12, 13และ 14จาก 슬기로운 의사 생활 tvN 대표 이미지ขอบคุณภาพประกอบที่ 2, 3, 4, 5, 7 และ 9 จาก 슬기로운 의사 생활 tvN 현장 포토