เพิ่งเข้าฉายอย่างเป็นทางการทาง Netflix ไปเมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2022 กับ The Sandman ผลงานซีรีส์ดาร์กแฟนตาซี ที่สร้างจากหนังสือ comic ในชื่อเดียวกันจาก DC comics แต่งโดย Neil Gaiman นักเขียนชาวอังกฤษ เจ้าของผลงานหนังสือชื่อดังอย่าง Coraline, Good Omens, Stardust โดยซีรีส์ The Sandman นำแสดงโดย Tom Sturridge ที่หลาย ๆ คนอาจจะคุ้นเคยจากภาพยนตร์โรแมนติก-ดราม่าย้อนยุค เรื่อง Far from the Madding Crow สุดปลายทางรัก เรื่องย่อ The Sandmanจะเกิดชึ้นอะไรกับโลกมนุษย์ เมื่อเทพเจ้าแห่งความฝัน หายตัวไปจากดินแดนแห่งนิมิตไปนับร้อยปี? เป็นเรื่องราวที่เริ่มต้นขึ้นในปี 1916 เมื่อ Dream (นิมิต) จ้าวผู้ปกครองดินแดนแห่งความฝัน ได้ถูกอัญเชิญมาในพิธีกรรมของมนุษย์ผู้ใช้มนตร์ดำด้วยความผิดพลาด และถูกจองจำไว้ภายในกรงขังห้องใต้ดินกว่า 100 ปี ภายในคฤหาสถ์ของ Roderick Burgess มหาเศรษฐีใจเหี้ยมผู้ประสงค์จะทำข้อต่อรองกับเทพเจ้าแห่งความตายให้ฟื้นคืนชีวิตบุตรชายผู้วายชนม์ของตน และกว่าที่ Dream จะสามารถหลบหนีจากกรงขังออกมาได้สำเร็จ อาณาจักรแห่งความฝันอันไร้ซึ่งผู้ปกครองมานับศตวรรษนั้น ก็มิอาจคงอยู่และรุ่งเรืองได้อย่างที่เคย Dream จึงต้องออกเดินทาง เพื่อตามหาเครื่องมือเสริมพลังของตนที่ถูกช่วงชิงไปทั้ง 3 ชิ้น ได้แก่ ถุงทราย, ทับทิม, และ หน้ากาก และฟื้นฟูดินแดนแห่งความฝันให้กลับมาทรงอำนาจอีกครั้งความรู้สึกหลังการรับชมThe Sandman เป็นซีรีส์ที่หยิบเอาแนวคิดนามธรรมอย่าง 'ความฝัน' มาเป็นจุดยืนของเรื่อง โดยนำมาต่อยอดและแต่งเติมให้เกิดเป็นโลกนิมิตเหนือจินตนาการออกมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจและชวนฝัน ซึ่งแน่นอนว่าก็ต้องยกความดีความชอบให้กับด้านโปรดักชั่น ที่สามารถถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ของ Neil Gaiman จากฉบับ comic ออกมาเป็นฉบับซีรีส์ได้อย่างวิจิตรบรรจง แต่นอกจากความน่าชื่นชมในด้านภาพ แสง สี และดนตรีของซีรีส์แล้วนั้น เนื้อหาที่เล่นกับประเด็น 'ความฝัน' โดยนำเอาตำนานที่เล่าขานกันมาอย่างช้านานของ Sandman ที่มาพร้อมกับทรายวิเศษ บันดาลความฝันให้กับผู้คนโดยเฉพาะเหล่าเด็ก ๆ มาปรับเปลี่ยนให้เป็นเทพเจ้าแห่งดินแดนนิมิตใน The Sandman ก็นับเป็นจุดสำคัญที่สุดที่ทำให้ผู้ชมไม่สามารถละความสนใจจากซีรีส์ไปได้ตั้งแต่ต้นจนจบนั่นเองค่ะอีกจุดที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยก็คือ ความสยองขวัญ เพราะนอกจากผู้ชมจะได้จับใจไปกับความงดงามของธีมแฟนตาซีตระการตาแล้ว The Sandman ยังพาผู้ชมไปสำรวจกับความดำมืดในจิตใจอันคดเคี้ยวของมนุษย์ได้อย่างน่าสะพรึงกลัว ทั้งความเห็นแก่ตัว คำโกหก และการหลงผิด อีกทั้งฉากชวนเขย่าขวัญในแต่ละฉากก็ทำออกมาได้แสนดาร์กและเข้มข้น สามารถเอาใจคอหนังสยองขวัญได้อย่างไม่มีข้อกังขาอย่างแน่นอน"จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อความฝันถูกพรากไป?" คือคำถามสำคัญของ The Sandman อิทธิพลของความฝันนั้นแตกต่างกันออกไปตามแต่ละบุคคล สำหรับบางคน ความฝันคือสิ่งน่าสังเวช เป็นเหมือนการลวงหลอกตัวเองไปวัน ๆ เพื่อพาตัวเองหนีออกจากโลกความเป็นจริง แต่สำหรับบางคนนั้น ความฝันคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เป็นดั่งแรงใจให้ลุกขึ้นและก้าวเดินต่อไปในแต่ละวัน แต่จะก้าวเดินไปในทางที่ถูกที่ควรหรือไม่ ก็ไม่ใช่สิ่งที่เทพนิมิตจะสามารถดลบันดาลหรือแทรกแซงได้ทั้งหมด แต่เป็นสิ่งที่แต่ละคนต้องครุ่นคิดและตัดสินใจด้วยตนเองในท้ายที่สุด The Endless เทพอนันต์โดย The Sandman ในซีซั่น 1 ก็ได้กล่าวถึงเหล่าเทพอนันต์ หรือ The Endless เหล่าพี่น้องของ Dream ผู้ซึ่งครอบครองพลังเหนือธรรมชาติที่แตกต่างกันเอาไว้ ซึ่งตามฉบับ comic นั้น The Endless จะมีด้วยกันทั้งหมด 7 องค์ แต่สำหรับซีรีส์ซีซั่นแรก ได้ปรากฏให้เห็นแล้ว 4 องค์ ได้แก่ Dream (นิมิต) เทพแห่งความฝัน, Death (มรณะ) เทพแห่งความตาย, Desire (ปรารถนา) เทพแห่งแรงปรารถนา, และ Despair (สิ้นหวัง) เทพแห่งความสิ้นหวัง ส่วนอีก 3 องค์ที่เหลือ ก็ต้องมารอลุ้นกันต่อในซีซั่น 2 ค่ะซีรีส์: The Sandman: เดอะ แซนด์แมนโปรดักชั่น: 9.5/10 การจัดวางองค์ประกอบศิลป์ในแต่ละฉาก การให้แสง สีในภาพ งาน CGI การใส่ดนตรีประกอบที่ดึงอารมณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม และดีไซน์ตัวละครที่น่าจดจำ เนื้อเรื่อง: 8/10 เป็นการนำตำนานโบราณของ Sandman มาต่อยอดได้อย่างทรงคุณค่าและน่าประทับใจความน่าติดตาม: 8.5/10 ใน 6 ตอนแรกของเรื่องนั้น สามารถถ่ายทอดความแปลกใหม่ของซีรีส์ออกมาได้น่าติดตามเป็นอย่างมาก ถึงแม้ 4 ตอนท้ายจะน่าติดตามน้อยลง แต่ก็ยังสามารถคงแก่นของเรื่องเอาไว้ได้อย่างดีคะแนนรวม: 8.7/10 The Sandman คือส่วนผสมของการนำเรื่องราวแฟนตาซี สยองขวัญ และปรัชญา มาคลุกเคล้าเข้าด้วยกันได้อย่างกลมกล่อม ถ้ามีใครกล่าวว่า "The Sandman เป็น 1 ในซีรีส์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดตั้งแต่ที่เคยมีการสร้างมา" ตัวผู้เขียนเองก็ไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ เลยค่ะสำหรับคำกล่าวนี้ สำหรับช่องทางการรับชม The Sandman สามารถรับชมได้ผ่านทาง Netflix โดยมีให้เลือกรับชมทั้งแบบซับไทยและพากย์ไทย จำนวนทั้งหมด 10 ตอนด้วยกันค่ะ บทความเกี่ยวกับภาพยนตร์และซีรีส์ จาก Moon Libraรีวิวหนัง Prey (2022) กลับมาอีกครั้งกับจักรวาลนักล่าพันธุ์ดิบ Predatorรีวิวหนัง The Princess องค์หญิงบู๊ระห่ำ จากค่าย 20th Centuryรีวิวซีรีส์ Resident Evil 2022 ความดันทุรังสานต่อจักรวาลที่ควรไปต่อหรือไม่? ผู้เขียน: Moon Libraเครดิตภาพประกอบ:ภาพหน้าปก 1 จาก Twitter: Netflix_Sandmanภาพหน้าปก 2 จาก Instagram: thesandmanofficialภาพประกอบ 1, 2, 3, 4 จาก Instagram: thesandmanofficial*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 11 สิงหาคม 2565