กู๊กๆกู๋ มาต่อกันค่ะสำหรับการรีวิว AMERICAN HORROR STORY Part 2 ในซีซั่นอื่นๆต่อมา หลังจากที่เราได้รีวิวไปก่อนหน้านี้แล้ว ใครยังไม่ได้อ่านสามารถเข้าไปตามอ่านกันได้เลยนะคะ ที่นี่ สำหรับวันนี้ใครที่ยังหลอนไม่พอ มาเติมความสยองด้วยกันต่อเลยค่ะ เตรียมใจไว้ให้พร้อม อ่านรีวิวเสร็จกดเปิด Neflix แล้วรีบดูพร้อมๆกันต้อนรับฮาโลวีนนี้ได้เลย เริ่มต้นกันกับ Season 6 "Roanoke" ออกมาในแนวๆสารคดี มีการเล่าเรื่องเหมือนสัมภาษณ์ในรายการสารคดี เนื้อเรื่องก็ว่าด้วย แชลบี้ และ แม็ตต์ คู่รักที่ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางเมืองหลวง ในขณะที่ทั้งคู่โดนเดินไปชมละครเวที แม็ตต์กับถูกอัตพาลทำร้ายอาการสาหัส ขณะที่เขาฟื้นตัวจากอาการโคม่า แชลบี้ก็เกิดสภาวะเครียดจัด ทำให้เธอแท้งลูก หลังจากที่เธอและแม็ตต์อาการดีขึ้นทั้งคู่ตัดสินใจ จะหนีจากเมืองหลวงไปสู่ชีวิตชนบท และแล้วทั้งคู่ก็ได้พบกับบ้านกลางป่าหลังใหญ่ และราคาถูก พวกเขาตัดสินใจซื้อบ้านหลังนั้น โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่า มีสิ่งที่น่ากลัวและสยดสยองอยู่ในป่าข้างบ้านของพวกเขา สำหรับซีซั่นนี้ถือว่าแหกทุกกฎของความสยองขวัญเลยก็ว่าได้ มีการสร้างมิติใหม่ที่ไม่จำเจ มีการฆ่าตัวละครทิ้งแบบไม่สนใจใยดีๆเลย และเป็นซีซั่นที่มีการโยงจักรวาลสยองขวัญมาอย่างเต็มรูปแบบใหม่ ถือว่าเป็นซีซั่นที่แปลกใหม่ ไม่ตายตัวเลย ดูแล้วเดาทางไม่ค่อยได้ ไม่เหมือนกับซีซั่นก่อนๆของ AHS มีการหักมุมของเนื้อเรื่องตลอด นี่จึงเป็นจุดที่ทำให้ซีซั่นนี้สนุกมากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องความสยองไม่ต้องพูดถึงก็แน่นอนว่าจัดเต็ม ตามสไตล์ผู้กำกับอย่างเมอร์ฟี่ เอาเป็นว่า ใครอยากลองความสยองแบบใหม่ ควรดูซีซั่นนี้เลย(คะแนน : 7/10) สำหรับซีซั่นนี้มาในธีม "Cult" ซึ่งแปลว่าลัทธิ หรือกลุ่มความเชื่อของเล็กๆของคนกลุ่มหนึ่งที่ยังไม่แพร่หลายหรือมีองค์ประกอบครบถ้วนจนถึงขั้นเป็นศาสนาได้ เรื่องราวของการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2016 ซึ่งมีผู้ท้าชิงคนสำคัญคือฮิลลารี คลินตัน และโดนัลด์ ทรัมป์ และหลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของอเมริกา เรื่องราวชุลมุนก็เกิดขึ้น เหล่าวายร้ายที่สวมหน้ากากตัวตลก ได้ออกไปสร้างความหลอนกับบ้านทุกหลัง และก่อเหตุฆาตกรรมไปทั่ว ใครจะไปรู้ว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะผู้ชายคนเดียวที่หมกมุ่นเรื่องการเมืองนับตั้งแต่ ทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดี ในซีซั่นนี้ค่อนข้างจะแตกต่างกับซีซั่นอื่นๆเพราะจะเข้าไปเล่นกับความกลัวในจิตใจจริงๆของมนุษย์ พร้อมกับเสียดสีประเด็นทางสังคมต่างๆได้อย่างแยบยล เรียกว่าเป็นซีซั่นแจ้งเกิดของ Evan Peters เลยทีเดียว นักแสดงหลักในซีซั่นนี้สุดยอดฝีมือมากๆ แสดงปล่อยของกันอย่างเต็มที่จริงๆ มันคลั่งกันจริงๆอะ เนื้อหาบทสุดยอดมากๆจริงๆ ต้องปรบมือให้จริงๆในช่วงแรกอาจจะต้องอดทนนิดนึง เพราะมีความปูเนื้อหาค่อนข้างเยอะ อาจทำให้คนเบื่อได้ แต่รับรองว่าหลังจากนี้ไปเตรียมตัวรอรับความคลั่งแบบเต็มพลังกันได้เลย(คะแนน : 8/10) ซีซั่นที่แปดนี้คือ "Apocalyse" ในซีซั่นนี้จะเป็นการ Cross over กันระหว่างหลายๆซีซั่นไม่ว่าจะเป็น Murder House หรือ Coven โดยหลักๆเป็นเรื่องการปะทะกันระหว่างแม่มดและซาตาน โดยได้ใช้การเล่าเรื่องผ่านเหตุการณ์วันสิ้นโลกที่ต้องไปอาศัยอยู่ในฐานลับเพื่อเอาชีวิตรอด แต่เมื่อยิ่งอยู่ไปนานๆก็ยิ่งก่อให้เกิดความเครียดในฐานลับ และในขณะเดียวกันก็มีการกลับมาของแม่มด ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายและสยดสยองตามมา ใครที่ยังไม่เคยดู ซีซั่น 1 และ ซีซั่น 3 มาก่อน แนะนำว่าให้ดูก่อนแล้วค่อยมาดูซีซั่นนี้ เพื่อเพิ่มความสนุกยิ่งขึ้น แต่ถ้ายังไม่ได้ดูซีซั่นอื่นมาก่อน ก็ยังสามารถเข้าใจเนื้อหาในซีซั่นได้ ซีซั่นนี้เป็นตอนที่เอาใจแฟนสุดๆ ใครคิดถึงตัวละครไหนในซีซั่นก่อนหน้านี้ ควรกลับมาดูซีซั่นนี้ สนุกจริงๆ มีการพูดถึงพระเจ้า ศาสนาด้วย ส่วนตัวเราเองไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือชอบซีซั่นนี้มากเท่าไหร่ แต่ประทับใจการเอาตัวละครกลับมาเพราะจะได้เจอตัวละครที่ไม่เคยมานานแสนนาน อย่างป้าแลงก์ จากซีซั่น 4 หรือ แม่มดจากซีซั่น 3(คะแนน : 7/10) และซีซั่นต่อมาคือ "1984" หรือ "แคมป์สยองขวัญกับฆาตกรฆ่าเฉือนหู” ซีรีส์ในซีซั่นนี้จะหยิบเอาแรงบันดาลใจมาจากหนังแนวฆาตกรรมแนว Slasher มาเป็นธีมหลัก เป็นแนวสยองขวัญยุค 80 เต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นเรื่องราวของ บรุก หญิงสาวไร้เดียงสา ที่ได้ไปร่วมค่ายกับเพื่อนๆที่เต้นแอโรบิกด้วยกัน โดยไปอาสาเป็นพี่เลี้ยงที่ Red wood camp ที่ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุการณ์สยองขวัญและเหตุสุดสะพรึงมากมาย และยังรวมถึงพลังของซาตานต่างๆที่คอยแทรกเข้ามาตลอดทั้งซีซั่นนี้ ใครที่อยากสัมผัสความสยองขวัญในยุคของ 80s แบบเน้นๆอย่างนี้ไม่ควรพลาดเลยจริงๆ พูดถึงความสยองในซีซั่นก็เรียกได้ว่าจัดเต็ม ถึงขั้น ถึงจิต สะใจคนชอบแนวเลือดสาดสุด ๆ ต้องขอชื่นชมผู้กำกับและทีมงานจริงๆเพราะทำออกมาได้ครบสมบูรณ์มากจริงๆ ทั้งภาพ แสง สีเสียง และที่ดีใจอีกอย่างหนึ่งคือซีซั่นนี้ ก็ได้ Emma Robert กลับมาอีกครั้ง ก็ได้แต่หวังว่าชีจะไม่ตายเพราะเท่าที่ผ่านมาหลายๆซีซั่นชีตายตลอด 5555 แต่ก็แอบเสียใจที่ไม่มีป้า Sarah กับ ป้าแลงก์มาร่วมในซีซั่นนี้ แต่โดยรวมคือซีซั่นนี้สนุกมาก เพื่อนหลายๆคนโดย AHS ตก จนตามไปดูซีซั่นอื่นๆ ก็เพราะซีซั่นนี้แหละ (คะแนน : 9/10) ส่วนซีซั่น 10 คือ Double Feature ว่าด้วยเรื่องราวของ แฮร์รี การ์ดเนอร์ ดอริส ภรรยาที่ตั้งครรภ์ของเขา และอัลมา ลูกสาวของพวกเขาเดินทางจากนิวยอร์กซิตี้ไปยังโพรวินซ์ทาวน์ รัฐแมสซาชูเซตส์ เป็นเวลาสามเดือน ในเมืองนี้มีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้นอยู่ และเมื่อแฮร์รี่ได้เข้าไปสัมผัส ก็เกิดเรื่องวุ่นวายที่จะพลิกโฉมชีวิตเขาไปตลอดเขา สำหรับในซีซั่นนี้เป็นเรื่องล่าสุดที่เพิ่งออกมา แต่ส่วนตัวเรายังดูไม่จบเลยยังรีวิวไม่ได้ แต่ดูไปประมาณ สี่ ตอน ก็สัมผัสได้ว่ามีความสยองตามสไตล์ AHS จริงๆ เดี๋ยวไว้ถ้าดูจบแล้วจะกลับมาเขียนรีวิวให้ทุกคนได้ติดตามชม สำหรับ AMERICAN HORROR STORY ก็เป็นซีรี่ส์ชุดสยองขวัญที่เราชอบมาก เป็นผลงานของเมอร์ฟี่ ที่สุดยอดมากที่สุดอีกหนึ่งผลงาน ใครที่อยากลองติดตามผลงานของผู้กำกับคนนี้ และเป็นสายสยองขวัญเหมือนกัน ก็ไม่ควรพลาด AMERICAN HORROR STORY เพราะมันบ้าคลั่งสมกับความสยองจริงๆ เอาเป็นว่าลองเปิด Netflix แล้วมาสยองพร้อมๆกันในช่วงฮาโลวีนนี้เลย รีวิวซีรีส์ชุด AMERICAN HORROR STORY รวมสุดยอดความสยอง ต้อนรับฮาโลวีน (halloween) Part 1ขอบคุณรูปภาพปก American Horror Storyรูปภาพประกอบ 1,2,3,4,5 จาก American Horror Storyเปิดประสบการณ์ความบันเทิงสุดหลากหลาย บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !