คิดว่าจะเงียบไร้กระแส แต่ทางฝั่งเกาหลีเปิดตัวตอนแรกด้วยเรตติ้งสูงถึง 4.191% สำหรับ Lost หรือ No Longer Human ซีรีส์ชุดพิเศษที่จัดทำขึ้นในวาระครบรอบ 10 ปีของช่อง jtbc ความจริงด้วยเนื้อเรื่องที่มาแนวเมโลดราม่าจึงอาจจะไม่ถูกจริตผู้ชมในบ้านเรามากสักเท่าไร แต่หลังดูจบตอนแรกต้องบอกว่าค่อนข้างเซอร์ไพรส์ จึงอยากมาแนะนำให้ลองเปิดใจรับชม เพราะบางทีเรื่องขื่นขมในชีวิตมันอาจจะไปกระทบจิตใจของเราอยู่บ้างก็เป็นได้ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงไปรู้จักเรื่องนี้กันแบบรวบรัด ซีรีส์ Lost เล่าเรื่องมนุษย์หญิงชายซึ่งเป็นปุถุชนคนธรรมดา ผ่านการใช้ชีวิตมาด้วยความพยายามทุกวิถีทางอย่างหนัก เพียงเพราะอยากจะทำให้ตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้น ดิ้นรนเพื่อแสวงหาความสุขในชีวิต หรืออะไรก็ตามที่ทำให้แต่ละวันที่ยืนอยู่บนโลกนี้ดำเนินไปอย่างมีคุณค่า อีบูจอง (รับบทโดย จอนโดยอน) นักเขียนเงาวัย 40 ที่กำลังล้มเหลวกับทุกอย่างในชีวิต อาชีพ ครอบครัว ฐานะทางการเงิน เธอรู้สึกสูญเสียทุกอย่างแม้กระทั่งเหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป ในขณะที่ อีคังแจ (รับบทโดย รยูจุนยอล) หนุ่มวัย 27 ที่ใช้เรือนกายสร้างฐานะทางสังคมผ่านอาชีพบริการ แม้ชีวิตกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นแต่บางสิ่งบางอย่างกลับทำให้เขายิ่งรู้สึกหลงทางยิ่งกว่าเดิมในอีพีแรกเราได้เห็นการปูพื้นตัวละครแบบคร่าว ๆ พระเอกทำอาชีพขายบริการ ประมาณว่าเป็นเด็กเอนฯ รับงานผ่านแอปพลิเคชันโดยมีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคุณหญิงคุณนายสาวเปลี่ยวทั้งหลายแหล่ ทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำแถมยังได้ของฝากของขวัญเป็นสินค้าแบรนด์เนมอีกต่างหาก ดูเหมือนชีวิตจะกำลังรุ่งสุด ๆ แต่ฝ่ายนางเอกซึ่งคำอธิบายตัวละครจากเว็บไซต์ของช่องบอกว่าเธอมีอาชีพเป็นนักเขียนเงา แต่อีพีแรกกลับเปิดตัวด้วยการเป็นแม่บ้านทำความสะอาดห้องหรูของดารา ถูกถากถางจากลูกบ้านในตึกเดียวกัน แล้วยังกลับมาทะเลาะกับแม่สามีเพราะหมายเรียกจากสถานีตำรวจจากการที่เธอคอมเมนต์ด่าใครบางคนบนโลกโซเชียล ชีวิตนางเอกกำลังล้มเหลวจนไม่มีแรงยืนต่อ ก่อนที่เธอจะได้เจอกับพระเอกบนรถเมล์ในขณะที่กำลังร้องไห้อย่างหนักแม้ซีรีส์จะบอกว่าชายหญิงสองคนที่ชีวิตต่างขั้วแต่กำลังหลงทางจะมาเยียวยาซึ่งกันและกัน แต่สิ่งที่ต้องลุ้นต่อคือมันจะเป็นความสัมพันธ์แบบไหนกันแน่ แม้กระทั่งในทีเซอร์พระเอกยังพูดกับนางเอกว่า "ถ้าครั้งหน้าเราบังเอิญเจอกันที่ไหนอีก คุณอยากตายไปพร้อมกับผมไหม" ฟังแค่นี้ก็ขนลุกแล้วแต่เท่านั้นยังหนักหน่วงไม่พอ เพราะยังมีประเด็นเรื่องอายุที่ต่างกันกว่า 13 ปีของทั้งสองคน และที่สำคัญคือตัวนางเอกดันแต่งงานมีครอบครัวอยู่แล้ว โดย จินจองซู (รับบทโดย พัคบยองอึน) ผู้เป็นสามีก็ดูจะเข้าอกเข้าใจเธอเป็นอย่างดี แค่เรื่องเหล่านี้ก็น่ากลัวพอจนไม่กล้าคาดเดาต่อว่าสุดท้ายเนื้อเรื่องมันจะไปสุดที่ตรงไหนหลังดูจบตอนแรกทำให้รู้ว่าสิ่งที่ซีรีส์นำเสนอผ่านตัวละครหลักทั้งสองกลายเป็นการสะท้อนมุมมืดของสังคมได้อย่างเฉียบขาด ชีวิตครอบครัว อาชีพ ฐานะทางสังคม เศรษฐกิจ เพศ ประเด็นทางจิตวิทยา สิ่งเหล่านี้ถูกขยี้ครบทุกมิติผ่านมู้ดแอนด์โทนของเรื่องที่ดูหม่นหมอง ทุกองค์ประกอบมันดำทะมึนไปหมด แสง สี ดนตรีประกอบฉากที่ชวนเหงา ตัวละครที่มีความเทา ๆ ถูกเล่าออกมาแบบจับต้องได้ ไม่ฉากใดฉากหนึ่งต้องกระทบใจคนดูอยู่บ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งต้องบอกว่างานโปรดักชั่นของเรื่องนี้ดีเกินซีรีส์ไปมาก อารมณ์เหมือนดูหนังรางวัลที่ช้า ๆ เนิบ ๆ แต่เต็มไปด้วยพลังบางอย่างที่ตรึงเอาไว้ให้ดูต่อจนจบ ต้องยกความดีความชอบให้ ผู้กำกับฮอจินโฮ (One Fine Day Spring, 2001 / Forbidden dream, 2016) ซึ่งเชี่ยวชาญการกำกับภาพยนตร์อยู่แล้ว กับเรื่องนี้พูดได้เต็มปากว่ามาเปลี่ยนประสบการณ์การดูซีรีส์ให้แปลกใหม่กว่าเดิมเยอะเลยอีกอย่างที่โดดเด่นของเรื่องนี้คือบทพูดที่คมคาย ต้องใช้ประสบการณ์ส่วนบุคคลในการตีความ เฉพาะอีพีแรกก็ได้ยินหลายประโยคที่ชวนจุกอกอยู่พอสมควรอย่าง "ถ้าฉันมีเงินสักสองก้อนใหญ่ แม้ข้างในจะรู้สึกว่างเปล่า ฉันก็คงไม่อยากตายหรอก" หรือฉากที่นางเอกเปิดใจกับพ่อว่า "หนูว่าหนูล้มเหลวแล้วล่ะ" ประโยคที่ออกจากปากเพียงสั้น ๆ แต่มันกลับมีพลังจนแทบจะฉุดคนดูให้ดิ่งลงเหวตามเธอไปได้ง่าย ๆ เลยทีเดียว สิ่งที่ทำให้น่าดูขึ้นไปอีกคือคู่พระนางที่เป็นการกลับมารับงานซีรีส์ในรอบ 5 ปีของ จอนโดยอน ตัวแม่ที่ฝีมือไม่ต้องสาธยายอะไรเยอะ เอารางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังเมืองคานส์เป็นประกัน ประกบคู่กับ รยูจุนยอล นักแสดงหนุ่มที่กลับมาครั้งนี้ทีมซอกตึกในตำนานคงหายคิดถึงสมใจ แม้ตอนนี้จะยังไม่เห็นเคมีของหนุ่มสาวต่างวัยว่าเข้ากันขนาดไหน แต่เดาได้ว่าคงจะมีฉากเยียวยาหัวใจให้เราได้ผ่อนคลายกันได้บ้างถึงตรงนี้คงต้องพูดกันตรง ๆ ว่า Lost เป็นซีรีส์ดราม่าที่เน้นผู้ชมเฉพาะกลุ่มจริง ๆ ด้วยความที่เล่าเรื่องแบบอินดี้ ย่อยยาก ดาร์กนำมาตั้งแต่ต้นเรื่องเลย อัดทั้งปมทั้งดราม่ามาแบบเน้น ๆ จนเดาไม่ออกว่ามันจะจบลงด้วยดีได้อย่างไร แต่ในทางกลับกันความเรียลในเรื่องก็เป็นเสน่ห์บางอย่างที่สะกดจิตให้เราดูต่อจนจบได้อย่างน่าประหลาด เอาเป็นว่าสายดราม่าหนัก ๆ ชอบซีรีส์สะท้อนสังคมที่เดินเรื่องเนิบ ๆ น่าจะถูกใจไม่น้อย แต่กับผู้ชมที่ไม่ได้มาสายนี้ตั้งแต่แรกก็สามารถดูได้แต่ต้องเตรียมภูมิคุ้มกันทางใจเอาไว้ล่วงหน้า ถ้าดูแล้วรู้สึกหดหู่ก็ขอให้พักไปก่อน เพราะบางฉากบางคำพูดอาจจะทำให้รู้สึกหม่นหมองจนฝันร้ายได้เลยเรื่องย่อ ซีรีส์เกาหลี Lost (ตอนล่าสุด)https://youtu.be/p8lcNs4uAuYYoutube: iQIYI Thailandสัมผัสความเรียลแบบอาร์ต ๆ เสพติดความโดดเดี่ยว เจ็บปวด หม่นหมองไปด้วยกันในซีรีส์ Lost ออกอากาศทั้งหมด 16 ตอน อัปเดตตอนใหม่ทุกคืนวันเสาร์และวันอาทิตย์ เวลาประมาณ 20.30 น. รับชมบรรยายไทยถูกลิขสิทธิ์ได้ทางแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ iQIYI เท่านั้นรูปภาพประกอบบทความจาก Official Instagram: @jtbcdramaภาพหน้าปก | ภาพประกอบที่ 1 | ภาพประกอบที่ 2 | ภาพประกอบที่ 3 | ภาพประกอบที่ 4 | ภาพประกอบที่ 5 | ภาพประกอบที่ 6 บทความแนะนำจากผู้เขียน- รีวิวซีรีส์ Hometown Cha-Cha-Cha | คิมซอนโฮ × ชินมินอา คู่รักลักยิ้มพร้อมแจกความสดใส เยียวยาหัวใจให้อารมณ์ดี- ส่องผลงานสุดประทับใจของ คิมซอนโฮ (Kim Seon-ho) พระเอกจอมทะเล้นจากซีรีส์ Hometown Cha-Cha-Cha- 5 เหตุผลที่อยากให้ดู The Devil Judge ผู้พิพากษาปีศาจ ซีรีส์กฎหมายตีแผ่บ้านเมืองแบบถึงพริกถึงขิง- ตามเก็บ 5 ผลงานเด็ดของ จองแฮอิน (Jung Hae-in) พระเอกยิ้มละมุนจากซีรีส์ D.P. หน่วยล่าทหารหนีทัพอัปเดตข่าว ดูหนัง ฟังเพลง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี!