เราไม่สามารถติดปีกให้ลูก ๆ ได้ มาตอนนี้ก็อย่ากลายเป็นภาระของพวกแกเลยประโยคที่แฮนัมพูดกับด็อกซุลผู้เป็นสามี หลังจากรู้ว่าสามีของตัวเองที่มีอายุเข้าเลข 7 แอบไปเรียนบัลเลต์ ลองจินตนาการดูว่า ถ้าคุณหลงใหลในเรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้วกล้าที่จะลงมือทำ แต่คนที่คุณรักกลับพูดราวกับว่าสิ่งคุณทำนั้นผิดมหันต์ คุณจะรู้สึกอย่างไร คุณเพียงต้องการทำในสิ่งที่รักเท่านั้น ทำไมคนรอบข้างถึงคิดว่าสิ่งที่คุณทำมันคือภาระที่จะตกไปอยู่ที่ใครสักคนหนึ่งในครอบครัว ? ถ้าถามว่าเราได้อะไรจาก Navillera คำตอบคือความอิ่มเอมใจ ความเชื่อและความศรัทธาของคนในครอบครัวที่มีให้กัน ในช่วงแรกเราอาจจะรู้สึกไม่ชอบใครสักคนในเรื่องนี้ แต่สุดท้ายเราจะเข้าใจว่าสิ่งที่คน ๆ นั้นทำ ทำไปเพื่ออะไร เราชอบที่ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้ฉายภาพให้เราเห็นเพียงมุมเดียว แต่เลือกที่จะสะท้อนความคิดของตัวละครผ่านสถานการณ์ต่าง ๆ ซึ่งแต่ละคนก็มีมุมมองและความคิดต่างกัน ทุกคนมีประสบการณ์และเหตุการณ์ฝังใจที่ต่างกัน ทำให้เราค่อย ๆ เข้าใจสาเหตุของการกระทำนั้น ๆ ชื่อเรื่อง : Navilleraช่อง : tvNสามารถดูได้ที่ : Netflixจำนวนตอน : 12 ตอน เรื่องย่อ (ฉบับเราเอง)ชิมด็อกชุล รับบทโดย พัคอินฮวัน ชายวัย 70 ปี ที่ใช้ชีวิตหลังเกษียณจากการเป็นบุรุษไปรษณีย์กับภรรยา แต่ใครจะรู้ว่าคุณตาหรือคุณปู่ในสายตาคนอื่นจะมีความฝันอันยิ่งใหญ่ที่บอกใครไปคงจะถูกหัวเราะกลับมา ความฝันของคุณด็อกชุลคือการเต้นบัลเลต์ วันหนึ่งบังเอิญไปเจอ อีแชรก รับบทโดย ซงคัง ที่กำลังเต้นบัลเลต์อยู่ จึงเกิดแรงบันดาลใจในการเรียนบัลเลต์ ทว่าครั้งแรกที่เข้าไปสอบถามกลับถูกปฏิเสธ แต่ถึงอย่างนั้นคุณด็อกชุลก็ได้พิสูจน์ตัวเองให้แชรกได้เห็น และยอมเป็นครูสอนบัลเลต์ให้ตน พ่วงด้วยตำแหน่งผู้จัดส่วนตัวที่ครูของแชรกมอบหมายให้คุณด็อกชุลคอยดูแลแชรกอย่างใกล้ชิด แรก ๆ ความสัมพันธ์ระหว่างครูและลูกศิษย์คู่นี้ไม่ค่อยดีนัก แต่เมื่อนานวันเข้า ผ่านอุปสรรคและเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ทั้งเรื่องครอบครัว เพื่อน และความกดดันจากสังคมรอบข้าง ทั้งสองต่างก็เป็นแรกผลักดันให้กันและกัน จนในที่สุดก็ได้ทำตามความฝันที่แต่ละคนตั้งไว้สำเร็จรีวิว (มีการสปอยส์เนื้อหา)เราประทับเรื่องนี้มากค่ะ สารภาพก่อนว่าสาเหตุที่ตัดสินใจดูเรื่องนี้เพราะรู้ว่าซงคังเป็นนักแสดงนำ หลังจากที่เราอกหักมาจาก Love Alarm เราก็เลยมาดูซีรีส์เรื่องนี้ย้อมใจเพราะเห็นโปสเตอร์แล้วคิดว่าซีรีส์น่าจะเป็นแนว Feel good พอได้ดูจริง ๆ ก็คือร้องไห้หนักมาก อาจจะเพราะเราเป็นคน sensitive เลยอินกับเรื่องนี้มาก ๆ คงเพราะซีรีส์จับเรื่องครอบครัวเป็นประเด็นใหญ่พอสมควร เพราะมันเชื่อมโยงกับการทำตามความฝันของตัวละครในเรื่อง ซึ่งเราคิดว่าเกาหลีเป็นประเทศที่จับประเด็นครอบครัวได้ดี ด้วยสภาพสังคมและวัฒนธรรมของเกาหลีที่สะท้อนออกมาผ่านความคิดและความเชื่อของตัวละคร มันเลยทำให้เราอินกับเรื่องนี้และเข้าใจได้ว่าการที่ตัวละครคิดแบบนั้นหรือทำแบบนั้นเป็นเพราะบริบทหรือกรอบสังคมที่ตีให้เป็นแบบนั้น แม้กระทั่งตัวละครในเรื่องยังมีการพูดเชิงเสียดสีสังคมของประเทศตัวเองว่า "สังคมเกาหลีเป็นสังคมแห่งป้ายประดับ" แค่ประโยคนี้ประโยคเดียวก็สะท้อนอะไรหลาย ๆ ของประเทศเกาหลีใต้ได้ดีทีเดียว นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องเพื่อน หรือสังคมการทำงานที่ใครหลาย ๆ คนอาจเคยประสบพบเจอ แค่ดูทีวีอยู่บ้านก็พอ ไม่ก็ไปเดินเล่นแถวบ้าน แค่แก่อย่างสง่างามแบบนั้นก็พอซีรีส์ปูมาว่าด็อกชุลผู้มีความฝันอยากเรียนบัลเลต์ตั้งแต่ยังเด็ก แต่ด้วยฐานะทางบ้านและปัจจัยอื่น ๆ ทำให้เขาไม่ได้ทำตามฝัน แต่แล้ววันหนึ่งเขาเลือกที่จะทำตามความฝันของตัวเองโดยการไปขอร้องให้เด็กหนุ่มคนหนึ่งผู้ที่มีใจรักในการเต้นบัลเลต์เหมือนกัน ทว่าการเรียนบัลเลต์ของด็อกชุลในวัย 70 เป็นเรื่องที่คนในครอบครัวไม่เห็นด้วย สิ่งหนึ่งที่เราสัมผัสได้จากซีรีส์เรื่องนี้ คือ ความโหดร้ายของสังคมที่กำหนดให้คน ๆ นึงต้องเป็นแบบนั้น ต้องเป็นแบบนี้ เมื่อคุณอายุมากขึ้น "...กิจกรรมที่ทำต้องเป็นแบบนี้สิ ถ้าไม่ทำแบบนี้จะสร้างภาระให้คนอื่นนะ...." เราเชื่อว่าในทุก ๆ สังคมล้วนตีกรอบทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว แล้วกรอบ ๆ นี้ก็ทำลายความฝันและความศรัทธาของใครต่อใครมานักต่อนักแล้วเหมือนกันถ้าให้กำลังใจกันไม่ได้ ก็อย่าเหยียบย้ำกันสิเราชอบประโยคนี้มาก ๆ เรารู้สึกว่าแรงขับเคลื่อนสำคัญของการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งคือ "กำลังใจ" ถ้าคุณไม่คิดจะให้กำลังใจกันตั้งแต่ทีแรก ก็อย่ามาทำร้ายจิตใจกันเลย...นอกจากนี้แล้วยังมีอีกประเด็นใหญ่และเป็นประเด็นสำคัญที่เป็นจุดเริ่มต้นของการตัดสินใจเรียนบัลเลต์ของคุณปู่ด็อกชุล บอกเลยว่าเราช็อคมาก เพราะเราแทบไม่ได้สังเกตเลยว่าพฤติกรรมนี้ของคุณปู่ด็อกชุลมีอะไรแอบแฝงอยู่ และกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเรื่องนี้เลย เราจะเห็นพัฒนาการของตัวแชรกได้อย่างชัดเจนตั้งแต่ต้นจนจบ "มิตรภาพ ความรัก ความห่วงใย" ที่เราสัมผัสได้ ทำให้เรารู้สึกว่า Navillera เป็นซีรีส์ที่ทำให้เราเห็นคุณค่าของการใช้ชีวิตมากขึ้น ทำให้เห็นเราเห็นคุณค่าและยืนหยัดในการทำตาม "ความฝัน" ของตัวเองชมตัวอย่าง : ขอบคุณภาพปก : tvN 드라마(Drama) (1) (2)ภาพประกอบ : ภาพที่ 1.1, ภาพที่1.2 , ภาพที่ 2, ภาพที่ 3, ภาพที่ 4, ภาพที่ 5, ภาพที่ 6วิดีโอประกอบบทความ : Netflix Thailand เกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ๆ App TrueID โหลดฟรี!