สวัสดีค่ะทุกคน ทุกคนน่าจะรู้จักดอยหลวงเชียงดาวหรือเคยได้ยินชื่อนี้มากันบ้างแล้ว ซึ่งที่นี่เป็นสถานที่สำหรับสายปีนเขา เดินป่า ชอบการสัมผัสธรรมชาติ บอกเลยว่าเป็นอีกพิกัดที่ต้องมาสักครั้ง โดย ดอยหลวงเชียงดาว นั้นเป็นดอยที่สูงอันดับ 3 ในประเทศไทยเลยทีเดียว ใครที่สนใจเดินเขาแนะนำให้ทำการจองมาก่อน เพราะเขารับจำนวนจำกัดต่อรอบ เพียง 100 คนต่อรอบเท่านั้น ซึ่งทางเรานั้นก็มาแบบไม่ได้แพลนเลยทำให้พลาดการเดินเขาไป แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะเราก็จัดสถานที่เที่ยวรอบๆเชียงดาวมาแบบจัดเต็มบทความนี้เราเลยจะมารีวิวทริป แจกพิกัดที่เที่ยว พร้อมคำแนะนำในการเดินทาง ที่พัก รวมถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมด มาเริ่มทริปไปด้วยกันเลยค่ะDay 1 เราเริ่มออกเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ โดยเราเดินทางด้วยรถยนต์(รถเก๋ง) ปักหมุดไปยังที่พักของเรา “บ้านลีซูโฮมสเตย์” จากนั้นก็ขับไปตามทางได้เลย ระหว่างทางก็จะมีร้านผัดไทชื่อดัง บ้านอะลาดิน ให้ได้แวะฝากท้องก่อนเข้าไปยังที่พัก ก่อนที่จะเข้าสู่ที่พักจะมีด่านเข้าอุทยาน โดยจะมีค่าเข้าสำหรับคนไทย คนละ 30 บาท แล้วเราก็มาถึงหมู่บ้านของชาวบ้านที่นี่ บรรยากาศดีมากๆ วิวสวยตั้งแต่ริมข้างทางจนเข้ามาถึงตัวหมู่บ้าน พอเข้ามาตรงนี้มีโฮมสเตย์ให้เลือกพักเยอะมากและส่วนมากต้องจองมาก่อนเพราะที่พักที่นี่ส่วนมากเต็มมาถึงเราก็นำรถจอดบริเวณหน้าที่พักได้เลย เข้าไปเช็คอิน ที่พักที่เราจองมาเป็นแบบเตนท์ คืนละ 1,600 บาท ต่อ 2 คน โดยทางที่พักมีชุดเครื่องให้เรียบร้อย พร้อมอาหารเย็น-เช้า ส่วนวิวจากที่พักเรานั้น มองเห็นดอยหลวงเชียงดาวได้แบบชัดเจนมาก ตกกลางคืนมามองเห็นดาวชัดเจนมากเพราะว่าหลังจากช่วง 3 ทุ่มก็จะไม่มีไฟฟ้าแล้ว เหมาะแก่การมาพักผ่อนจริงๆ ส่วนตอนเช้ามาก็ตื่นมาเจอกับทะเลหมอกหน้าเตนท์เลย รับรองว่า ฟินสุดๆDay 2หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จเราก็พร้อมเริ่มต้นทริป จุดแรกที่เราไปก็คือ ถ้ำเชียงดาว โดยถ้ำเชียงดาวจะตั้งอยู่ในวัดถ้ำเชียงดาว เมื่อเข้ามายังในถ้ำจะมีถ้ำที่ต้องมีไกด์ชาวบ้านนำทาง มีค่าบริการ 200 บาท และถ้ำที่สามารถเข้าไปเดินชมเองได้ บอกเลยว่าคุ้มมาก หินย้อยที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติสวยงาม และเป็นรูปร่างต่างๆ ในถ้ำมีเรื่องราวประวัติความเป็นมา พี่ไกด์เล่าได้สนุกมาก เหมือนได้ผจญภัยไปในตัวอีกด้วย ที่นี่เคยเป็นที่พักของพระและฤาษีในสมัยก่อนทำให้ที่นี่ค่อนข้างศักดิ์สิทธิ์จากนั้นเราก็ไปต่อกันที่ น้ำพุร้อนเชียงดาว ที่นี่เป็นน้ำพุร้อนแบบธรรมชาติ ไม่มีค่าเข้า น้ำพุร้อนที่นี่จะเป็นพื้นที่เล็ก โดยจะมีอ่างน้ำร้อนสำหรับแช่ แล้วก็มีลำธารเป็นน้ำเย็นจากธรรมชาติแล้วเราก็ไปต่อกันที่ ดอยกุ๊บกั๊บ(ห้วยกุ๊บกั๊บ) ซึ่งเป็นการไปแบบไม่ได้วางแผน ปักหมุดแล้วไปเลย พอไปถึงชาวบ้านบอกว่าเราไม่สามารถนำรถเก๋งขึ้นไปได้ เนื่องจากทางที่นี่เป็นทางลูกรัง ดังนั้นเราต้องหารถชาวบ้านขึ้นไป โชคดีของเราที่เจอรถของที่พักบนดอยกุ๊บกั๊บกำลังพาคนขึ้นไปพอดีเลย เราเลยติดรถขึ้นไปด้วย คนละ 100 บาท โดยจุดประสงค์ที่เราจะมาก็คือมา เดินเขา!ดอยที่เรามาเดินคือ ดอยสามเหลี่ยม โดยเราเริ่มเดินจากหมู่บ้าน ซึ่งปกติแล้วเราสามารถจ้างไกด์ชาวบ้านนำทางได้ หรือเดินเองก็ได้เช่นกัน ระยะทางทั้งหมดประมาณ 4 กม. ไปยังยอดดอย ดอยจะค่อนข้างชัน วิวตามทางสวยงามมาก มีทางที่เป็นหินให้เราได้นั่งพักเป็นช่วงๆ พอมาถึงบนยอดดอยแล้วบอกเลยว่าวิวสวยมาก สามารถมองเห็นวิวแม่แตงชัดเจนมาก ยิ่งช่วงเวลาพระอาทิตย์ตก เป็นอะไรที่สวยเกินคำบรรยายไปมากๆ อย่างที่บอกว่าเราขอติดรถคนอื่นขึ้นมาทำให้ตอนลงนั้นต้องหารถกลับเช่นกัน ตอนเราเดินลงมาเจอกับพี่เจ้าของที่พัก มีนาโฮมสเตย์ เราเลยขอพี่เขาไปส่งเรา ก่อนกลับก็ได้ทานอาหารเย็นจากทางโฮมสเตย์ เป็นมื้อที่อิ่มอร่อยมาก ที่พักวิวสวยสุดๆเพราะอยู่บ้านบนสุดของดอยก่อนจะเป็นเส้นทางเดินเขา จากนั้นเราก็เดินทางกลับเชียงใหม่กันค่า นี่ก็เป็นทริปเชียงดาวของเรา ไปแบบ 2 วันแต่คุ้มค่ากับประสบการณ์มากๆ สนุก ได้พักผ่อนเต็มที่ค่าใช้จ่ายค่าที่พัก 1,600 บาทค่าน้ำมัน 500 บาทค่าผ่านอุทยาน 60 บาทค่าเข้าถ้ำ 60+200= 260 บาทค่าอาหาร 200 บาทค่ารถห้วยกุ๊บกั๊บ 200+400 =600 บาทรวม 3,220 บาทต่อ 2 คน (1,610 บาทต่อคน)Facebook : https://www.facebook.com/journeyyymeYouTube : Journeyyy-meบทความ True ID : https://creators.trueid.net/@Journeyyymeภาพถ่ายและภาพถ่ายหน้าจอโดยผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !