หลังจากที่เราปักหมุดแล้วว่าอยากจะไปเที่ยวเยอรมัน เนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย หลากหลาย แล้วเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์มากมาย เราก็ต้องเริ่มที่จะวางแผนเที่ยวเยอรมัน อันดับแรกของการเที่ยวของเราเลยก็คือ การกำหนดเวลาเที่ยวค่ะ เนื่องจากเรารับราชการ ก็ต้องดูวันลา ซึ่งก็มักจะพยายามลาในช่วงเวลาที่มีวันหยุด ข้อจำกัดหนึ่งของการทำงานของเราคือแต่ละเดือนเราต้องทำงานให้ครบกำหนดขั้นต่ำ 15 วันทำการ ทำให้การวางแผนจะเที่ยวยาวๆ อาจจะเป็นไปได้ยาก อ่ะ พอเราได้วันเวลาที่เราพร้อมแล้ว เราก็จะเริ่มหาตั๋วเครื่องบิน บางคนอาจจะวางแผนเที่ยวก่อน แต่ด้วยความที่เราจำกัดเรื่องเงินด้วย การได้ตั๋วถูก ว่าจะต้องลงเครื่องที่ไหนสำคัญกว่า 555 อ่ะ พอได้ตั๋วเครื่องบิน ก็เหมือนว่าต้องได้ไปแน่ๆ ก็จะเริ่มวางแผนเที่ยว ว่าจะอยากไปเมืองไหนบ้าง จะเช่ารถขับหรือจะนั่งขนส่งสาธารณะ จริงๆ เยอรมันก็จะมีจุดแข็งของเส้นทางสายโรแมนติกที่เหมาะสำหรับการขับรถมากๆ แต่ด้วยความโลภของเราที่อยากไปเที่ยวหลายที่ (ซึ่งอันนี้แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน) เราเลยเลือกจะใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ซึ่งหลักๆ ก็คือรถไฟค่ะ แล้วเราเลือกซื้อเป็น german pass นะคะ เพราะว่าจะได้เดินทางสะดวกแบบไม่ต้องกังวลอะไร หลังจากที่ลงหลักปักฐานว่าอยากเที่ยวที่ไหนบ้างแล้ว วางแผนการเดินทาง จองเที่ยวบิน จองโรงแรม (ซึ่งบางคนก็อาจจะเลือกแบบ free cancel เพื่อความปลอดภัย) เรียบร้อย ก็ถึงเวลาไปขอวีซ่าค่ะ ซึ่งวีซ่าเยอรมันจะเป็นวีซ่าเชงเก้น สามารถเลือกทำได้ที่สาขา กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต ซึ่งการขอวีซ่านี้เราสามารถยื่นความจำนงผ่านศูนย์บริการ VFS โดยสถานเอกอัครราชทูตฯได้ทำสัญญาร่วมงานกับศูนย์ให้บริการ VFS GLOBAL บริษัท VFS GLOBAL (www.vfsglobal.com/Germany/Thailand)รายละเอียดที่ตั้งแต่ละสาขา ศูนย์ VFS กรุงเทพฯจามจุรีสแควร์ ชั้น 4ถนนพญาไท เขตปทุมวันกรุงเทพฯ 10330ศูนย์ VFS เชียงใหม่191 อาคารศิริพานิชย์ ชั้น 6บีถ.ห้วยแก้ว ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ 50200ศูนย์ VFS ภูเก็ตชั้น 5 อาคารซีซีเอ็ม คอมเพล็กซ์เลขที่ 77/77 หมู่ 5ถ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต 83000รอบนี้เราก็เลือกที่สาขากรุงเทพฯ คือที่จามจุรีสแควร์ค่ะ เอกสารที่ท่านต้องแสดงในการยื่นคำร้องขอวีซ่าในการยื่นคำร้องขอวีซ่า ท่านต้องแสดงเอกสาร/หลักฐานดังต่อไปนี้หนังสือเดินทางฉบับจริงที่ยังมีอายุการใช้ โปรดตรวจสอบว่าหนังสือเดินทางของท่าน- มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้า- เป็นหนังสือเดินทางที่ออกมานานไม่เกิน 10 ปี- ยังมีอายุใช้ได้อย่างน้อยอีก 3 เดือนนับจากวันเดินทางออกนอกประเทศสมาชิกเชงเกนหนังสือเดินทางเล่มเก่า (ถ้ามี)หลักฐานการเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล (ถ้ามี)รูปถ่ายแบบไบโอเมตริก 2 ใบแบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าเชงเกนที่กรอกข้อความครบถ้วน 1 ฉบับ แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าเชงเกน สามารถกรอก online ได้ทางนี้เลยค่ะ https://videx.diplo.de/videx/visum-erfassung/#/videx-kurzfristiger-aufenthaltข้อมูลตามมาตรา 13 และ 14 ระเบียบข้อบังคับ (สหภาพยุโรป) 2016/679 (ระเบียบข้อบังคับพื้นฐานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูล)ใบยืนยันรับทราบระเบียบข้อบังคับพื้นฐานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลลงนามรับทราบข้อกำหนดตามกฎหมายการพำนักในเยอรมนีมาตรา 54 วรรค 2 ข้อ 8 และมาตรา 53ข้อกฎหมายที่ต้องทราบในการยื่นวีซ่าตามมาตรา 54 วรรค 2 ข้อ 8 และมาตรา 53 ของกฎหมายว่าด้วยการพำนักPDF / 501 KBหลักฐานการประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ ระหว่างการเดินทางตลอดระยะเวลาที่ขอพำนัก วงเงินความคุ้มครองไม่ต่่ำกว่า 30,000.-- เหรียญยูโร และต้องรวมบริการนำตัวกลับประเทศในกรณีเจ็บป่วยด้วยดูรายชื่อบริษัทประกันในประเทศไทยที่สามารถให้บริการประกันแก่ท่าน หรือท่านจะทำประกัน ดังกล่าวกับ บริษัทประกันในประเทศเยอรมนีก็ได้เช่นกันปล. ตอนเรายื่นเอกสารเราใช้เอกสารที่แปล เนื่องจากเคยแปลไว้แล้ว แต่พอไปยื่นกับ vfs เค้าบอกว่าของเยอรมัน เน้นนะคะว่าของเยอรมัน หากเรายื่นเอกสารแปล ต้องยื่นคู่กับเอกสารจริง เราเลยยื่นสำเนาของภาษาไทยแทนค่ะ คือแบบดีนะ สำหรับคนไม่เคยแปล ก็ยื่นภาษาไทยได้ค่ะ การกรอกแบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าผ่าน www.videx.diplo.de สามารถลงข้อมูลได้ที่ละคนนะคะ แต่เราสามารถกรอกให้คนอื่นได้ ค่ะ เน้นว่ากรอกเป็นภาษาอังกฤษและภาษาเยอรมันนะคะ เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จก็ให้ไปลงนัดหมายเพื่อไปยื่นเอกสารและทำ biometric ค่ะ ขั้นตอนการไปยื่นเอกสารที่ VFS global กรุงเทพฯ ที่จามจุรีย์สแควร์ ชั้น 4 นะคะ 1. ให้ไปก่อนเวลาที่เรานัดหมายประมาณ 15 นาที นะคะ เค้าจะให้เข้าตามรอบเวลา และจะอนุญาตให้เข้าก่อนเวลาไม่เกิน 15 นาทีค่ะ 2. พอไปถึงก็ยื่นใบนัดหมายเวลาให้เจ้าหน้าที่ที่ประตู ก็ทำการสแกนข้าวของ เค้างดเปิดเสียงโทรศัพท์ ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปนะคะ แต่เอามือถือ chat คุยเล่นได้ แต่ห้ามเสียงดังค่ะ 3. หลังจากผ่านการสแกนตัวและข้าวของแล้ว ก็ไปเคาเตอร์มุมด้านขวามือ เพื่อรับบัตรคิว เค้าก็จะบอกให้เราไปรอหน้าเคาเตอร์ของแต่ละประเทศค่ะ 4. รอการเรียกคิว หลังจากนั้นก็ยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ5. หากต้องการให้ส่งไปรษณีย์ก็ทำการจ่าหน้าซองถึงตัวเองค่ะ (ส่วนนี้เจ้าหน้าที่จะเตรียมซอง ส่ง EMS ให้เราแล้วค่ะ )6. จ่ายค่าธรรมเนียม และค่าวีซ่าค่ะ 7. ระหว่างรอเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจเช็คความถูกต้องของเอกสารอีกครั้ง อยากจะบอกว่า เจ้าหน้าที่มีแก้ความถูกต้องให้เราด้วย เพราะเราใส่ที่อยู่เยอรมันผิด เค้าก็พิมพ์ใหม่ แก้ให้เราใหม่8. พอเอกสารเรียบร้อย ก็ให้ไปทำ biometric ก็คือการถ่ายรูป (มองจากกล้องวงจรปิด) และสแกนนิ้ว ตรงเคาเตอร์เลย เป็นอันเสร็จพิธีรวมขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาประมาณ ครึ่งชั่วโมงก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ ช่วงค่ำ ก็ได้ email มาเอกสารได้ถูกนำส่งไปสถานทูตแล้ว หลังจากนี้ก็รอลุ้นผลกันค่ะ หวังว่าเราจะได้ไปเที่ยวเยอรมันกันค่าาาาหลังจากรอมาประมาณ 13 วันทำการ ก็มีเมลล์มาบอกว่าได้ส่งเล่มกลับมาแล้ว ละก็ได้วีซ่าละค่ะ ถึงแม้เยอรมันจะให้เท่าวันเดินทางเลย แต่ก็ดีใจที่ให้เราได้ไปเที่ยวนะคะ ไว้เจอกันจ้าเยอรมันบทความและรูปภาพ By Psychiartistเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !