สำหรับใครที่เป็นแฟนนวนิยายลึกลับ คงคุ้นหูกับชื่อนามปากกา ปองวุฒิกันอยู่ไม่มากก็น้อย ซึ่งผลงานเล่มล่าสุดของนักเขียนผู้นี้ ที่มาอยู่ในมือของผู้รีวิวก็คือ สลักบุหลันนั่นเอง เรื่องราวความลึกลับและตื่นเต้นจนน่าสะพรึงกลัว เปิดฉากเริ่มต้น ด้วยกล่องไม้สลักรูปจันทร์เสี้ยวใบนั้น...เรื่องย่อหญิงสาว สวย รวย เก่ง เป็นเจ้าของบริษัทไอทีที่หลาย ๆ คนให้การยอมรับ เธอมีชีวิตที่ผิดหวังกับความรักทำให้มุ่งอยู่แต่กับงานเป็นหลัก อยู่มาวันหนึ่ง เธอได้รับการติดต่อจากพ่อของแฟนเก่า ว่าจะยกบ้านริมแม่น้ำในต่างจังหวัดให้ฟรี ๆ เธอจึงตกปากรับคำ โดยที่ไม่รู้ว่ามีอะไรรอเธออยู่ เมื่อเดินทางมาถึง เธอสำรวจสถานที่และพบว่ามีกล่องไม้รูปจันทร์เสี้ยววางอยู่ เมื่อแสงจันทร์เสี้ยวสาดส่องต้องประกายกับกล่องไม้ มันดึงเธอเข้าไปสู่ในโลกกลับหัวที่เต็มไปด้วยวิญญาณคนตาย และสิ่งน่ากลัวเกินคาด โชคดีที่เธอได้พบกับชายหนุ่มผู้อารีย์ เขาช่วยชีวิตเธอจนกลับมาสู่โลกปัจจุบันอีกครั้งได้แต่นั่น เป็นแค่จุดเริ่มต้นของความน่าสะพรึงกลัวทั้งหลายทั้งปวงสำหรับหนังสือนวนิยายเล่มนี้โดดเด่นด้วยความตื่นเต้นและลึกลับ ทำให้ผู้อ่านคาดเดาไม่ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างสำหรับตัวละครที่ทำสิ่งต่าง ๆ ลงไป บวกกับพล็อตที่ไม่เคยอ่านเจอที่ใดมาก่อน เช่นการหลงเข้าไปในโลกที่ทุกสิ่งทุกอย่างกลับหัว บวกกับการที่จะหนีออกจากโลกกลับหัวที่เต็มไปด้วยปิศาจ ก็จะต้องเปิดประตูที่มีอยู่ให้เลือกในโลกใบนั้นหลายต่อหลายประตูเลยทีเดียว สิ่งนี้จัดได้ว่าเป็นชั้นเชิงการเขียนที่โดดเด่นของปองวุฒิอย่างหาตัวจับยาก การดึงผู้อ่านให้หลงไปในโลกที่นักเขียนสร้างเอาไว้นั้นทำไม่ได้ง่าย ๆ แต่ทว่าปองวุฒิก็ทำได้อย่างน่าอัศจรรย์ความรู้สึกที่มีต่อเรื่องราวและพล็อตของเรื่องผู้รีวิวชอบการคิดพล็อตที่แปลกใหม่ของปองวุฒิมากค่ะ อย่างเรื่องกล่องไม้ประหลาดที่มีรูปจันทร์เสี้ยวถือว่าเป็นมิติใหม่ของวงการนวนิยายลึกลับของนักเขียนไทยเลยก็ว่าได้ ที่สำคัญคือบ้านร้างที่นางเอกได้รับจากพ่อของคู่หมั้นเก่า ผู้เขียนชอบการใช้ภาษาบรรยายมาก ก่อนหน้านี้ผู้เขียนเคยเห็นบ้านร้างรีโนเวทในกระทู้พันทิป เป็นบ้านร้างที่อยู่ริมแม่น้ำแควของจังหวัดกาญจนบุรี เวลาอ่านถึงบ้านร้างในนวนิยาย รู้สึกและจินตนาการไปถึงบ้านหลังนี้เลยค่ะ เป็นบ้านร้างที่ทั้งลึกลับ ทั้งน่ากลัว ใหญ่ ดูสวยในอดีตที่ผ่านมาเมื่อนานแล้ว ปัจจุบันมีแต่ความเปลี่ยวร้างและโดดเดี่ยว ลึกลับจนน่าหวั่นเกรง ภาษางานเขียนของเรื่องนี้ จะใช้ภาษากระชับและเหมาะสมกับคนที่ชอบนวนิยายที่เดินเรื่องเร็ว ๆ ค่ะ ตัดฉากได้ไม่สับสน แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่เยิ่นเย้อ อืดอาด และทำให้รู้สึกอยากตามต่อในเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะว่าในนวนิยายมีการกล่าวถึงโลกกลับหัวที่ตัวเอกหลงเข้าไป โลกกลับหัวนี้เป็นโลกที่น่ากลัวและมีคนซึ่งตายไปแล้ว ฟื้นคืนชีพ ความประทับใจที่มีต่อนวนิยายเรื่องนี้ก็คือ การกล้าฉีกแนวนวนิยายลึกลับเรื่องเก่า ๆ ของวงการหนังสือไทย ส่วนมากถ้าเป็นนวนิยายลึกลับ ส่วนมากจะเป็นการแก้แค้นของวิญญาณ หรือผีเจ้าที่เสียมากกว่า หรือบางทีถ้าเปิดเรื่องมาด้วยบ้านร้างริมแม่น้ำ ก็ต้องเป็นผีสิงที่บ้านร้าง แต่เล่มนี้ เป็นอีกหนึ่งพล็อตที่ต่างออกไปนั่นเองแม้เล่มจะหนา แต่ใช้เวลาอ่านไม่นานเพราะความสนุกตื่นเต้นนั่นเองค่ะ เมื่ออ่านจบก็บังเกิดความรู้สึกอยากรีวิวหนังสือเล่มนี้ให้หลาย ๆ คนที่ชอบนวนิยายแนวลึกลับได้ลองอ่านดูบ้าง ภาพโดยผู้เขียนภาพ1จาก pixabay.com โดย shutterbug75ภาพ2จาก pixabay.com โดย free-photos ภาพ3จาก pixabay.com โดย nicktaylor2020