เอาจริงๆผมได้ดูเรื่องนี้มาสองรอบแล้วก็เพิ่งมานึกเขียนรีวิวเพราะการที่รีวิวหนังจักรวาลมาร์เวลมันไม่ใช่ง่ายๆเลยนะที่จะรีวิวโดยที่ไม่หลุดสปอยล์มากจนเกินไป พอมาดูรอบสองก็พอจับจุดที่สามารถเอามาเขียนรีวิวแบบยาวๆได้นะครับ Doctor Strange in The Multiverse of Madness เนื้อเรื่องจะต่อยอดจากซีรีย์ WANDAVISION และ SPIDER-MAN: NO WAY HOME ตรงๆเลย เมื่อหมอแปลกได้เห็นสิ่งผิดปกติที่เกี่ยวกับมัลติเวิรส์ที่กำลังจะทำให้ทุกจักรวาลเปลี่ยนไปตลอดกาล จนหมอแปลกต้องไปเพิ่ง วานด้า หว่อง และ อเมริกัน ซาแวซ เพื่อให้ไปหยุดเหตุวิปโยคของพหุจักรวาลก่อนที่จะสายเกินแก้...(เล่าเนื้อเรื่องได้แค่นี้แหละ ฮ่าๆ) ความรู้สึกส่วนตัว - การที่ดึงผู้กำกับ แซม เรมี่ มากำกับเรื่องนี้ มันทำให้เกิดรสชาติใหม่ๆอย่างที่แฟนๆมาร์เวลไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งมุมกล้องที่แปลกใหม่ บรรยากาศด้านโทนสีลึกลับและชวนอึดอัด รวมถึงความสยองที่เสิร์ฟมาก็ทำได้ถึงใจจนไม่เชื่อว่าเป็นหนังเรท PG-13 ปกติมาร์เวลเรื่องอื่นๆถ้าผกก.ไม่มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน ก็จะถูกความเป็นเควิน ไฟกี้ครอบงำเพื่อคุมส่วนที่เหลือเพื่อให้เดินต่อได้ แต่ครั้งนี้เควิน ไฟกี้ ถูกคำภีย์ผีอมตะของ เซม เรมี่ เข้าสิงก็เลยกลายออกมาเป็นแบบนี้นี่เอง ส่วนอีกสิ่งที่เรียกว่าเป็นตัวชูโรงเลยกลับไม่ใช่หมอแปลก แต่เป็นสการ์เล็ต วิช ที่เป็นเดอะเบกสุดๆของเรื่องนี้รับบทโดย อลิชาแบธ โอเซ่น ครั้งนี้เธอมอบการแสดงอันยอดเยี่ยมที่สุดของเธอ ทั้งสีหน้า แววตา และความรู้สึกที่เธอมีต่อกับเรื่องราวทั้งหมด ถ้าคนดูติดตามตัวละครของเธอมาตลอดก็จะทำให้คนดูอินและเอาใจช่วยเธอตั้งแต่ต้นจนจบเลยทีเดียว ส่วนในด้านหมอแปลกถึงแม้จะโดนแม่มดแดงกลบแสง แต่ก็ยังมีประเด็นที่ค้างคาในใจที่สามารถส่งต่อเรื่องราวของเขาไปยังภาคต่อๆไปได้อย่างสวยงาม ส่วนด้านเพลงประกอบที่ได้ Danny Elfman มือประพันธ์ขาประจำของแซม เรมี่ ถือว่าทำได้โอเคเลย เน้นความเพื้ยนพิลึกแปลกๆ อลังยิ่งใหญ่อยู่ดีๆ มีซาวน์กีตาร์ขึ้นมาเฉยงงมาก ฮ่าๆ ถือว่าเป็นการบิ้วหนังที่บ้าบอใช้ได้เลย ส่วนในด้านข้อเสียของเรื่องนี้คือ ด้วยความที่หนังเรื่องนี้มีความยาวแค่ 2 ชั่วโมง 6 นาที การเดินเรื่องมันจะไวมาก แบบตู้มๆๆจบแล้ว ฮ่าๆๆ ทำให้ประเด็นบางจุดมันดูขาดๆไปไม่เต็มที่พอจะเล่าให้หมดได้ ถ้าจะให้คิดอีกที 2 ชั่วโมงก็ถือว่าโอเคแล้วนะ เพราะว่าถ้ายาวกว่านี้กลัวจะออกมาเนือยย้วย ข้อนี้ก็เลยเหมือนจะข้อเสียในข้อดีในข้อเสียอีกทีนึง อีกข้อหนึ่งที่น่าเสียดายมากๆคือด้วยความที่เป็นหนังในจักรวาลมาร์เวลถ้าไม่ได้ตามให้ระเอียดมากๆอาจจะไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวละครให้ชัดเจนโดยเฉพาะ ซีรีย์ Wandavision ถ้าไม่เคยดูคนดูจะไม่เข้าใจปมวานด้าชะนิดเลย และอีกข้อนึงที่เป็นข้อดีในข้อเสียอีกทีนึงเหมือนกัน ด้วยความที่หนังเรื่องนี้จะมีความเป็นหนังของแซม เรมี่ มากกว่าที่จะเป็นหนังมาร์เวล คนดูบางกลุ่มที่ไม่ได้เป็นแฟนคลับหรือติดตามผลงานของ แซม เรมี่ มากนักก็จะไม่ชินกับโทนเรื่องนี้ พร้อมกับช่องโหวของบทที่หนังสยองขวัญชอบมีประจำ แฟนๆอาจถึงขั้นไม่ชอบหนังเรื่องนี้เลยก็ได้ โดยเฉพาะฉากหลังเครดิตอันที่ 2 ที่มีกระแสด้านลบเยอะพอสมควรโดยไม่รู้ว่าฉากขำๆเอาฮาก็เรฟมาจากผลงานก่อนๆของแซม เรมี่ เหมือนกัน ถือว่าเป็นข้อเสียใหญ่ๆสำหรับแฟนคลับมาร์เวลเลยก็ได้ สรุป - Doctor Strange in The Multiverse of Madness อาจจะไม่ใช่ผลงานสมบูรณ์แบบสำหรับแฟนคลับมาร์เวล แต่กลับกันก็กลายเป็นอีกผลงานชิ้นโบว์แดงสำหรับแฟนคลับ แซม เรมี่ และคอหนังสยองขวัญแดนตาย ที่เต็มไปด้วยความดาร์ก ความสยองกับฉากที่ชวนสะพรึง พร้อมกับปมดราม่าที่ชวนสะเทือนอารมณ์เอามากๆ จนกลายเป็นหนังชุปเปอร์ฮีโร่จักรวาลมาร์เวลรสชาติใหม่ที่ควรไปลองของในโรงอย่างยิ่งDoctor Strange in The Multiverse of Madness เข้าฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ รีบไปดูก่อนโดนสปอยล์!!! เครดิตภาพ MarvelThailandภาพปก, ภาพที่ 1, ภาพที่ 2, ภาพที่ 3, ภาพที่ 4, ภาพที่ 5, ภาพที่ 6จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !