Movie ReviewRide On ควบสู้ฟัด (2023)ในฐานะแฟนเดนตายนี่คือหนัง "เฉินหลง" ที่สนุกที่สุดสำหรับงานในช่วงหลังและยังมาพร้อมหัวใจที่เชิดชูและถวิลหาสำหรับผู้เขียนเองที่โตมากับการดูหนังขายยาที่ลานวัดสามารถนับได้ว่าเป็นแฟนเดนตายของสุดยอดนักแสดงอย่างเฉินหลงที่ปัจจุบันคนดูหนังรุ่นใหม่อาจไม่รู้จักชื่อนี้แต่รู้จักในนามแจ็คกี้ ชาน เพราะในหนังเรื่องล่าสุดที่ท่านกำลังจะได้อ่านบทความนี้ไม่ได้ใช้ชื่อเฉินหลงบนโปสเตอร์แล้วและที่ผู้เขียนกล้าบอกว่าเป็นแฟนเดนตายของเฮียก็เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมาดูหนังของเฮียทุกเรื่องเรื่องละไม่รู้กี่รอบดูเมื่อไหร่ก็สนุก ทว่าในช่วงหลังการดูหนังในโรงกลายเป็นข้อจำกัดของผู้เขียนแต่ก็ยังติดตามดูงานของเฮียเรื่อยมาแม้ว่าในช่วงหลังงานหนังของเฮียชักจะเสื่อมมนต์ขลังลงไปอาจเพราะยุคสมัยที่คนดูหนังต้องการอะไรมากกว่าความบันเทิงเต็มพิกัดตามแบบฉบับกังฟูปนตลกของเฮีย ทำให้มีหนังหลายเรื่องในช่วงหลังที่ไม่สามารถดึงดูดการดูซ้ำแต่ไม่ว่ายังไงก็ดูและแน่นอนว่าเรื่องนี้ผู้เขียนไม่มีโอกาสได้ดูในโรงที่โดยปกติจะรอจนลืมแต่เรื่องนี้ไม่ เพราะผู้เขียนเฝ้ารอว่าจะลงจอสตรีมมิ่งค่ายไหนและไม่ยอมดูแบบไม่ถูกลิขสิทธิ์จนวันนี้ก็ได้สมใจกับงานล่าสุดของเฮียที่อาจไม่ใหม่ในความเป็นหนังแต่ใหม่ในความเป็นหนังของเฮียหลัวจื้อหลง (เฉินหลง) หรือที่คนในวงการเรียกขานว่าปรมาจารย์หลัวสตั๊นท์แมนวัยชราที่ใช้ชีวิตในโรงถ่ายกับม้าหนึ่งตัวชื่อว่าเจ้ากระต่ายแดงด้วยความผูกพันปานบิดากับบุตร ปรมาจารย์หลัวดำรงชีพด้วยการหาเงินเล็กน้อยกับนักท่องเที่ยวแต่วันหนึ่งหมายศาลก็มาพร้อมกับการจะยึดม้ากระต่ายแดงของเขาไปประมูลเพราะเป็นหนึ่งในทรัพย์สินของเพื่อนที่ล้มละลายให้เขามา เมื่อไม่มีเงินจ้างทนายเขาจึงบากหน้าไปขอความช่วยเหลือจากหลัวเป่าเอ๋อ (หลิวเฮ่าฉุน) หรือเสี่ยวเป่าลูกสาวที่ตัดขาดเขาจากกองมรดก ทว่าเลือดย่อมข้นกว่าน้ำเสี่ยวเป่าจึงมาหาปรมาจารย์หลัวเธอจึงพบว่าพ่อของเธอใช้ชีวิตอย่างไรและเขากับม้าของเขาตระเวนรับงานแสดงแทนที่เสี่ยงตายทั้งคนทั้งม้าอย่างไร เสี่ยวเป่าจึงเข้ามาจัดการชีวิตพ่อพร้อมกับให้แฟนที่เป็นทนายเข้ามาสะสางเรื่องการฟ้องร้องและระหว่างนั้นเสี่ยวเป่าก็ได้พบความจริงที่เธอมองไม่เห็นในช่องว่างระหว่างเธอกับพ่อ ทว่าแม้จะยึดยื้อยังไงก็ไม่มีทางยื้อไหวกฎหมายจึงพรากม้ากระต่ายแดงไปจากปรมาจารย์หลัวแล้วเขาจะอยู่อย่างไรเพราะกระต่ายแดงไม่ใช่แค่ม้าแม้บทหนังโดยรวมจัดว่ากระท่อนกระแท่นแต่ก็มีทิศทางที่ชัดซึ่งก็ไม่เป็นไรเพราะหนัง "เฉินหลง" ก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ถ้าว่ากันที่บทภาพยนตร์ยังคงเป็นปัญหาสำหรับหนังที่ตั้งหน้ามาบันเทิงแบบนี้แล้วยิ่งเรื่องนี้ถ้าไม่นับว่าเป็นหนังเฉินหลงก็คือหนังตามสูตรเรื่องความผูกพันของมนุษย์กับสัตว์เลี้ยง แล้วยังมีดราม่าเรื่องของช่องว่างระหว่างพ่อกับลูกสาวที่เพิ่มเข้ามาแต่ที่เป็นคือการเชื่อมโยงทั้งสองเรื่องมีปัญหา เพราะทั้งสองส่วนออกมากระท่อนกระแท่นเต็มทีคือเหมือนมีอาการเครื่องสะดุดหยุดเป็นพักๆนั่นคือขาดความสมูธในการเล่าเรื่องทำให้เหมือนโดดไปมา แต่เมื่อเป็นหนังเฉินหลงจึงต้องเอาบันเทิงมาก่อนหน้าทำให้ไม่มีปัญหาอะไรเพราะแต่ไหนแต่ไรหนังเฉินหลงก็จะเป็นแบบนี้ที่ต่อให้บทหนังออกมาดูดีแต่ก็ยังมีอาการแบบนี้เสมอๆไม่เชื่อลองกลับไปดูงานดีๆอย่าง Thunderbolt เร็วฟ้าผ่า (1995) หรือ The Myth ดาบทะลุฟ้า ฟัดทะลุเวลา (2005) ที่เป็นหนังแอ็กชันดราม่าชั้นดีของเฮีย และเรื่องนี้ก็ออกมาประมาณนั้นคือดีเท่าที่จะดีได้แล้วในความเป็นหนังเฉินหลงที่มีทิศทางมีเป้าประสงค์ที่ดีเป็นหนังที่มีพร้อมในความเป็นหนัง "เฉินหลง" เพราะมาทุกองค์ประกอบอยากจะฟัดก็จัดให้ แต่ถ้าจะลงลึกจริงๆหนังเรื่องนี้กลับมาความสมดุลในทางแอ็กชันคอมมิดี้ดราม่าที่ไม่มีส่วนไหนล้นจนออกนอกหน้าแม้ว่าในส่วนของความสัมพันธ์พ่อกับลูกจะดูเหมือนรวบๆยัดๆ นั่นเพราะทิศทางและเป้าประสงค์ที่ดีดังว่าคือจะพาคนดูไปสู่ความลึกของหัวใจของคนกับม้ามากกว่าทำให้เรื่องคนกับคนเลยดูเหมือนเป็นแค่ตัวประกอบ แต่ทุกอย่างที่ต้องการพาคนดูไปกลับกลายเป็นความลงตัวเพราะสามารถมอบให้ทุกอย่างทั้งจับใจในความเป็นดราม่า หรือจะตลกขบขันชวนฮาตามประสาหนังเฉินหลงก็มีและที่ต้องมีความความสนุกความมันส์แบบกังฟูคอมมิดี้ที่เป็นเอกลักษณ์ของเอกบุรุษที่เรียกกันว่าฟัด หรือจะเรียกให้ชัดคือการเอาตัวตนของหนังเฉินหลงยุคเก่ามาใส่ลงในสูตรสำเร็จของหนังแนวดราม่าคนกับสัตว์เลี้ยงที่จะมีความซาบซึ้งจับใจอยู่เป็นทุน นั่นหมายความว่าต่อให้เห็นเป็นหนังตามสูตรอยู่ในทีแต่เรื่องนี้ก็ยังเป็นหนังเฉินหลงที่แฟนเดนตายใฝ่หาเพราะในช่วงหลังหนังของเฮียเริ่มเข้ารกเข้าพงเพราะสังขารก็คงไม่ผิดทั้งยังมาพร้อมหัวใจที่อาจเป็นของใหม่ในงานของเฮียด้วยเจตนามาในอารมณ์เชิดชูและถวิลหา ส่วนที่ผู้เขียนชอบมากในหนังเรื่องนี้คืออารมณ์เชิดชูสตั๊นท์แมนที่อยู่เบื้องหลังความดังของนักแสดงมากมาย ซึ่งแฟนเดนตายต่างรู้ดีว่าในยุดรุ่งเรืองหรือตอนหนุ่มๆเฮียเล่นเองเจ็บเองมานักต่อนักและแน่นอนเฮียแกผ่านความสูญเสียมาก็มี เมื่อออกมาเป็นหนังเรื่องนี้จึงเห็นอาการหมองโศกอยู่บ้างเมื่อเหมือนกับการรำลึกถึงยุครุ่งโรจน์ของเฮียหรือจะเป็นหนังแอ็กชั่นกังฟูคอมมิดี้ก็ไม่ผิดนัก หรือจะเอาให้ชัดก็ไม่ต่างจากการเล่าชีวประวัติของตัวเฮียเองที่มาพร้อมฟุตเตจจากหนังเรื่องเก่าๆที่แฟนเดนตายอย่างผู้เขีนนเห็นปู๊บก็จำได้ ยังไม่รวมคอสตูมในการถ่ายหนังในเรื่องที่มีให้นึกถึงหนังเรื่องต่างๆที่ผ่านมาของเฮียอีกมากหลายจนกลายเป็นมีอารมณ์ถวิลหาอดีตเต็มที่ และสิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้หนังมีหัวใจมีความต่างออกไปจากสูตรสำเร็จอย่างที่ว่ามาข้างต้นเพราะนี่คือหัวใจของหนังเรื่องนี้ที่เล่าเกี่ยวกับหัวใจของความเป็นสตั๊นท์แมน อย่างที่ตัวละครของอู๋จิงกล่าวไว้ว่า "กระโดดไม่ยากแต่เดินลงยากกว่า" และชีวิตสตั๊นท์แมนจะมีแค่ "แอ็กชัน กระโดด และเข้าโรงพยาบาล"แม้บทจะมีโดดๆแต่ "เฉินหลง" ยังเป็น "เฉินหลง" ที่ให้ความบันเทิงในแบบของเขาและเขาสามารถเล่นดราม่าได้ดี หากย้อนรำลึกกลับไปเฉินหลงก็ไม่ต่างจากแอ็กชันสตาร์ทุกคนที่จะดูดีในฉากแอ็กชันแต่ถ้าเป็นดราม่าก็สอบตก กระนั้นอาจต้องยอมรับว่าในวัยห้าวเป้งของเฮียหนังแอ็กชันในแบบของเฮียมาขายความมันส์ระห่ำลืมตายที่มาพร้อมความฮาทำให้เรื่องดราม่าไม่ค่อยสำคัญนัก แต่สำหรับแฟนเดนตายที่ดูหนังของเฮียซ้ำๆอย่างผู้เขียนก็พอนึกได้ว่าที่ผ่านมาถ้าจะดราม่าเฉินหลงก็ทำได้แม้จะไม่เนียนแต่ก็พอจับใจได้ และกับเรื่องนี้ที่เล่าเรื่องของสตั๊นท์แมนวัยโรยราซึ่งเหมาะกับเฮียอย่างที่สุดและคงต้องยกย่องเฮียเลยว่าเรื่องดราม่าเฮียก็ดีพอตัว ทำให้เรื่องนี้เฉินหลงไม่โดนใครขโมยซีนเพราะถ้าจำได้จะมีช่วงหนึ่งที่เฮียแกมักจะเอานักแสดงดังๆรุ่นหลังมาประกบทำให้บางครั้งถูกขโมยซีนไปบ้างจากเบ้าหน้าของนักแสดงคนนั้นๆแม้ว่าการแสดงเฮียจะยังเอาตัวรอดได้ ทำให้เฉินหลงในวัยอาวุโสโอเคยังคงมอบความบันเทิงอย่างที่เฉินหลงคนเก่าเคยมอบให้และเป็นความบันเทิงที่มีหัวใจเสียด้วยแม้จะไม่ใช่หนังในระดับยอดเยี่ยมในความเป็นภาพยนตร์สักเรื่องแต่ถ้าว่ากันที่หนัง "เฉินหลง" ในช่วงหลังนี่คือหนังดี ในฐานะแฟนเดนตายนี่คือเฉินหลงแม้ว่าคนรุ่นลูกรุ่นหลานจะไม่รู้แล้วว่าเฉินหลงก็คิอแจ็คกี้ ชานหนังเรื่องนี้คือหนังดีที่ชอบที่สุดถ้าว่ากันที่หนังของเฮียในช่วงหลัง เพราะมันเป็นสัจธรรมและเฮียก็ได้บอกกับคนดูในหนังเรื่องนี้แล้วว่าสตั๊นท์แมนอาจไม่ตายไปจากวงการหนังแต่เมื่อโลกเปลี่ยนวิถีก็เปลี่ยนเหมือนฉากที่เฮียขี่เจ้ากระต่ายแดงวิ่งผ่านฉากที่เป็นซีจี และตัวเฮียเองในช่วงหลังก็เล่นหนังที่เน้นซีจีหลายเรื่องจนกลายเป็นหนังที่ควรถูกลืมเพราะเป็นร่างกายที่ไร้วิญญาณความเป็นหนังเฉินหลง แต่เรื่องนี้คือความลงตัวแม้บทหนังยังมีปัญหาอยู่บ้างก็ช่างมันปะไรเมื่อสิ่งที่เฉินหลงต้องการบอกกับแฟนๆได้ถูกเล่าอย่างเข้ากลางใจไปแล้ว และที่สนุกที่สุดสำหรับผู้เขียนคือการได้รำลึกถึงอดีตกับภาพของหนังฟัดเก่าๆและคิดตามว่าเฮียจะรำลึกถึงหนังเรื่องไหนอีกบ้าง รวมถึงนักแสดงรับเชิญอีกเป็นกระบุงที่ต้องไปดูเอาเองว่าเป็นใครบ้างที่ก็ดังๆคุ้นหน้าคุ้นตากันทั้งนั้นทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดูสนุกและแฟนเดนตายของเฮียต้องดูซ้ำเพราะใครจะไปคิดว่าจะมีวันนี้ที่เสียน้ำตาในหนังเฉินหลงดูไปบ่นไปhttps://www.youtube.com/watch?v=sYsrkS1rrZM&ab_channel=MajorGroupขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 1 จาก Facebook Major Groupภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 จาก Facebook SF CinemaVDO ตัวอย่าง จาก YouTube Major Group ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้https://entertainment.trueid.net/detail/2mbbQMAlY8qmhttps://entertainment.trueid.net/detail/a7QQKj9Qbpj7https://entertainment.trueid.net/detail/Wm2Dj32Bv1bZเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !