ปัจจุบันเรามักได้ยินได้ฟังเรื่องราวการล่มสลายของสถาบันครอบครัว การหย่าร้าง และปัญหาอีกร้อยแปดพันเก้าของครอบครัวแต่ละครอบครัวอยู่บ่อยครั้ง การล่มสลายของครอบครัวย่อมส่งผลกระทบต่อสังคมด้วย ละคร เรื่อง "สามีสีทอง" เป็นละครดีที่คนมีคู่ควรดูนะคะ เพราะเนื้อหาสะท้อนแง่คิดในการใช้ชีวิตคู่ การปฏิบัติตัวต่อกันในฐานะสามีภรรยา และชี้นำแนวทางว่าทำอย่างไรครอบครัวถึงจะไม่ล่มสลาย เรื่องนี้เป็นละครแนวดราม่าสะท้อนปัญหาครอบครัวค่ะ ออกอากาศทางช่อง Amarin TVHD34 เมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 ในเรื่องนำเสนอเรื่องราวของครอบครัว 3 ครอบครัว คือ เจียด - ลิเภา, ยล - นีรา, คำหลวง - ทองพันครอบครัวของเจียดและลิเภา มีลูก 2 คน ลิเภาเคยทำงานเป็นเลขานุการแต่เมื่อแต่งงานกับเจียดเธอก็กลายมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว เธอดูแลบ้าน สามีและลูก ขณะที่เจียดทำหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัว เขามีตำแหน่งหน้าที่การงานดี เงินเดือนสูง เมื่ออยู่ที่ทำงานเขายอมก้มหัวให้กับเจ้านาย ลูกค้า หรือใครก็ได้ที่มีผลประโยชน์ต่อหน้าที่การงานของเขา แต่เมื่อกลับบ้านเขากลับปฏิบัติแบบตรงกันข้าม โดยเฉพาะกับภรรยา เขากดขี่ข่มเหงผ่านทั้งการกระทำ และคำพูดดูถูกดูแคลน ไม่เคยให้เกียรติ และเขามักอ้างเสมอว่าเป็นเพราะเขาจึงทำให้ครอบครัวมีฐานะ ส่งลูกเรียนโรงเรียนดี ๆ ได้ ส่วนลิเภาไร้คุณค่าเพราะลิเภาไม่มีรายได้ เจียดไม่เคยเห็นความสำคัญของคนใกล้ตัว จนสุดท้ายลิเภาทนไม่ไหวจึงลุกขึ้นปฏิวัติโดยการออกหางานทำเพื่อสร้างคุณค่าให้ตนเอง พร้อมกับยังคงดูแลบ้านไปด้วยครอบครัวของยลและนีรา ครอบครัวนี้มีลูกสาว 2 คน ยลมีฐานะร่ำรวย มีหน้ามีตาในสังคม พวกเขาพยายามสร้างภาพครอบครัวอบอุ่นให้กับสังคมเห็นเสมอ แต่ในความเป็นจริงยลไม่เคยจะหยุดมีเมียน้อย นีราสร้างภาพให้คนในสังคมเห็นว่าครอบครัวอบอุ่นรักใคร่ โดยที่ยลคอยปรนเปรอเงินให้ตามที่นีราต้องการ ด้วยความที่ยลเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย มีแม่ตามใจ เขาจึงคิดเสมอว่าเงินซื้อทุกอย่างได้ ลูกมีความสำคัญกับยลมากแต่เป็นในฐานะเครื่องประดับครอบครัวเท่านั้น ไม่ใช่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องดูแล ยลจึงรับผิดชอบลูกทุกคน ไม่ว่าลูกคนนั้นจะเกิดกับเมียคนใดก็ตาม แต่เมื่อได้ลูกมาเขาก็ไม่เคยดูแลแต่กลับผลักภาระให้กับนีราคอยดูแลแทน นีราไม่มีสิทธิ์มีเสียงมากพอจะทำให้ยลปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เธอถูกยลกดขี่เอาไว้ด้วยเงินจำนวนมหาศาล แต่สุดท้ายเงินมากมายก็ไม่สามารถเอาชนะความรู้สึกของนีราได้ครอบครัวคำหลวงและทองพัน ครอบครัวนี้ใช้ชีวิตแบบวัยรุ่น ไม่มีลูก คำหลวงติดเที่ยวเตร่เสเพล ส่วนทองพันทั้งสนุกและทุกข์ทนกับการออกไล่ล่าสามีตามผับตามบาร์เกือบทุกคืน เมื่อคำขอร้องให้สามีเลิกเที่ยวไม่เคยเป็นผล และเมื่อรู้ว่าสามีไปติดผู้หญิงทำให้ทองพันหมดความอดทนและขอหย่าขาดจากสามีเรื่องราวของทั้ง 3 ครอบครัว เป็นภาพแทนครอบครัว 3 ประเภทในสังคมปัจจุบัน คือ ครอบครัวของเจียดและลิเภา ที่มีลักษณะครอบครัวแบบสามีเป็นใหญ่ กดขี่ภรรยา มีแนวคิดล้าสมัยว่าผู้หญิงต้องเป็นแม่บ้าน เพราะผู้หญิงไม่มีคุณค่า เขาวัดคุณค่าของคนที่เงิน ผู้หญิงไม่มีคุณค่าเพราะว่าไม่สามารถหาเงินมาจุนเจือครอบครัวได้ และการที่สุดท้ายลิเภาซึ่งเป็นตัวแทนของผู้หญิงที่อยู่ในครอบครัวชายเป็นใหญ่ลุกขึ้นเรียกร้องและสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง สะท้อนให้เห็นว่าคนทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง การลดคุณค่าของคนโดยการไม่ให้เกียรติกัน นำไปสู่การล่มสลายของสถาบันครอบครัวเสมอ เรื่องราวของครอบครัวนี้สะท้อนระบบคิดแบบคู่ตรงข้ามกับปิตาธิปไตยที่ยึดผู้ชายเป็นใหญ่ การที่ลิเภาของหย่าจึงถือเป็นการลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิของผู้หญิงในฐานะคน ๆ หนึ่ง ซึ่งมีสิทธิในฐานะมนุษย์ที่เท่าเทียมกันครอบครัวของยลและนีราสะท้อนให้เห็นว่าการดำเนินชีวิตในปัจจุบันเงินมีความสำคัญก็จริง แต่เงินไม่สามารถซื้อความรู้สึกดี ๆ และความจริงใจได้ สถานะทางสังคมเป็นเพียงองค์ประกอบที่ทำให้คนมีคุณค่า แต่ไม่ใช่ทั้งหมด การอยู่เป็นครอบครัวต้องรับฟังกัน ใส่ใจความรู้สึกกัน และที่สำคัญ 'เงิน' ซื้ออะไรก็ได้ แต่ซื้อความรู้สึกของคนไม่ได้ครอบครัวของคำหลวงและทองพันเป็นภาพแทนของครอบครัวที่ผู้ชายยังมีนิสัยรักสนุก ไม่รู้จักพอ พฤติกรรมนี้นำไปสู่การล่มสลายของสถาบันครอบครัวเสมอผู้หญิงที่นำเสนอในละครได้แสดงให้เห็นว่าทุกคนพยายามทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุด โดยเฉพาะหน้าที่ของภรรยาในการดูแลบ้านตามแบบฉบับของระบบปิตาธิปไตยที่ครอบคลุมระบบคิดของคนไทยมาช้านาน แต่ผู้ชายก็ไม่เห็นคุณค่า ผู้หญิงจึงเป็นเหมือนคนใช้ (ลิเภา) เหมือนเครื่องประดับ (นีรา) เหมือนของเล่น (ทองพัน) ไม่ใช่คู่ชีวิตแบบที่ควรจะเป็น การเรียกร้องสิทธิของสตรีจึงเกิดขึ้นในตอนท้าย คือ เมื่อความกดดันของภรรยาสิ้นสุดลง จึงนำไปสู่ความแตกหัก และล่มสลายของสถาบันครอบครัว แม้ตอนท้ายเรื่องสามีจะคิดได้ และพยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผู้หญิงเหล่านี้เปลี่ยนใจ เพราะพวกเธอมองเห็นคุณค่าในตัวเอง เห็นความสามารถว่าผู้หญิงไม่ได้ด้อยค่าไปกว่าผู้ชาย และปัจจุบันหมดยุคที่ผู้หญิงจะต้องถูกกดขี่ข่มเหงแล้ว"สามีสีทอง" นับว่าเป็นละครอีกเรื่องที่น่าดู ให้ข้อคิดแก่ทั้งผู้หญิงและผู้ชายในการใช้ชีวิตคู่ในฐานะสามี ภรรยา นอกจากนี้ยังเป็นการชี้นำสังคมให้สตรีมองเห็นคุณค่าในตัวเอง เรียกร้องสิทธิสตรีในฐานะมนุษย์ที่ควรมีความเท่าเทียมกัน...ขอขอบคุณภาพปกจาก Amarin TV HD ปรับแก้ไขโดยใช้โปรแกรม Canva โดยผู้เขียนบทความ / ภาพประกอบที่ 2 จาก Chang2561 / ภาพประกอบที่ 3 จาก Change2561 / ภาพประกอบที่ 4 จาก Change2561