สวัสดีทุกคน เนื่องจากช่วงนี้จะเข้าใกล้เทศกาลบั้งไฟพญานาคกันเเล้ว ซึ่งปีนี้เทศกาลจะจัดวันที่ 21 - 23 ตุลาคม 2564 โดยวันตรงของเทศกาลคือวันออกพรรษา นั่นคือ วันที่ 21 ตุลาคม 2564 หรือวันขึ้น 15 คํ่า เดือน 11 นั่นเองโดยจะต้องมีมาตรการโควิดเคร่งครัดก่อนที่จะสามารถไปชมงานได้ สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดหนองคายที่เราจะมาเเนะนําให้ผู้อ่านทุกคนได้ชมกันคือ วัดพระธาตุบังพวน ตั้งอยู่ในเขตอําเภอเมือง จังหวัดหนองคาย ก่อนอื่นเราจะมาอธิบายลักษณะคร่าว ๆ ของวัดพระธาตุบังพวนกันก่อนนะ วัดพระธาตุบังพวนเป็นสถานที่เก่าเเก่ เป็นที่สักการะของชาวหนองคายมาอย่างยาวนาน องค์พระธาตุเดิมทํามาจากเจดีย์ดินเผา ลักษณะเจดีย์เป็นรูปสถูปเเบบอินเดียเหมือนขององค์พระปฐมเจดีย์ พระธาตุองค์ปัจจุบันมีฐานทักษิณ 5 ชั้น ความกว้าง 17.20 เมตร ความสูงถึงยอดฉัตร 34.25 เมตร รูปปรางค์สี่เหลี่ยมต่อกันเป็นบัวปากระฆังโดยอีก 2 ชั้นจะเป็นชั้นรูประฆังควํ่าเเละชั้นรูปดาวปลี ตามลําดับ และเหนือชั้น 7 จะเป็นที่ตั้งฉัตรและบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ สําหรับใครที่นึกภาพองค์พระธาตุไม่ออก เราจะมีภาพที่เราได้ถ่ายไว้ เผื่อได้มองภาพได้ชัดขึ้นครับต่อไปจะเป็นโบราณสถานกลุ่มหนึ่งที่ตั้งอยู่บริเวณพระธาตุบังพวน คือ สัตตมหาสถาน เป็นสถานที่จําลองเหตุการณ์หลังจากการตรัสรู้เเล้วของพระพุทธองค์ 7 เเห่งโดยตั้งตามคติทางพระพุทธศาสนา โดยเราได้ยกสัตตมหาสถานมาทั้งหมด 2 ที่ นั่นคือ อนิมิสเจดีย์ เป็นโบราณสถานที่อยู่ใกล้กับตัวพระธาตุบังพวนโดยอยู่ตรงข้ามกับทางเข้าพระธาตุบังพวน สัตตมหาสถานอีกที่นึงคือ มุจลินทเจดีย์ ตั้งอยู่บริเวณข้าง ๆ กับสระพญานาค โดยจะอยู่ทางทิศตะวันออกของสระพญานาค สถานที่ต่อไปถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจในวัดพระธาตุบังพวน คือ สระพญานาค หรือในอีกชื่อหนึ่ง 'สระมุจลินท์' มีความหมายว่า 'สระมังคละนํ้าเที่ยงหมัน' มีที่มาจากเหตุการณ์สายนํ้าพุ่งออกมาจากพื้นดินในขณะที่ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าในองค์พระธาตุ สมเด็จพระไชยเชษฐาได้โปรดเกล้าสร้างพระพุทธรูปนาคปรก 9 เศียรไว้ในบริเวณสระพญานาค ในปัจจุบันนี้ สระพญานาคเป็นสระนํ้าที่สําคัญของจังหวัดหนองคาย นําไปใช้ในพิธีสรงมูรธราชาภิเษก, พิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาและพิธีศักดิ์สิทธิ์สำคัญ ๆ สถานที่สุดท้ายในวัดพระธาตุบังพวนที่เราจะรีวิวคือ สถานที่สักการะพระบรมสารีริกธาตุเเละหลวงพ่อพระเจ้าใหญ่องค์ดําเป็นโถงกลางที่มีหลังคาปิดไว้อยู่ ตั้งอยู่กลางวัดพระธาตุบังพวน สามารถไปสักการะได้ตลอดเวลาในช่วงที่วัดเปิดบริการ โดยมีความเชื่อว่าการสักการะพระธาตุที่เป็นสถานที่เก็บพระบรมสารีริกธาตุไว้จะส่งผลให้มีความสุข ความเจริญต่อผู้ที่มาสักการะ ความประทับใจของเราที่ได้มาเที่ยวสถานที่นี้ คิดว่าเป็นความสงบนะ เพราะบางครั้งที่เราได้มาเที่ยววัดพระธาตุบังพวนช่วงที่ไม่ใช่เทศกาล อากาศจะร่มรื่นมาก เเต่ครั้งไหนที่มีเเดดออก ก็ต้องเตรียมร่มกันเเดดไปด้วยนะครับ โดยส่วนตัวเราชอบสระพญานาค เพราะมีโครงสร้างสถาปัตยกรรมที่ดี สามารถรองรับปริมาณนํ้าในบ่อได้, มีพระพุทธรูปนาคปรก 9 เศียรที่ตั้งโดดเด่นอยู่บนสระพญานาคเเละอีกอย่างนึงที่เราชอบคือ สีของสระพญานาคที่เป็นสีเขียวมรกตที่สวยงาม เพราะไม่ค่อยมีวัดทีี่มีสระนํ้าสีมรกตอยู่ภายในวัด จบไปเเล้วสําหรับรีวิวครั้งนี้นะครับ วัดพระธาตุบังพวนถือว่าเป็นศูนย์ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนหนองคายเลยก็ว่าได้เเละเป็นโบราณสถานที่เล่าเรื่องตั้งเเต่ในอดีต ซึ่งเป็นสถานที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวที่สนใจในเรื่องโบราณสถาน รวมถึงพุทธศาสนิกชนที่เดินทางไปสักการะบูชาอีกด้วย จุดเด่นของวัดพระธาตุบังพวน คือ สัตตมหาสถาน โบราณสถานทั้งเจ็ดที่ยังเหลืออยู่ครบถ้วน เเห่งเดียวในโลก นอกจากจะเที่ยวชมสัตตมหาสถานเเล้วยังสามารถไปบูชาองค์พระธาตุเเละชมสระพญานาคได้ การเดินทาง : วัดพระธาตุบังพวนตั้งอยู่ที่ 172 หมู่ 3 ตำบลพระธาตุบังพวน อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย สามารถเดินทางได้โดยรถยนต์ส่วนตัวจะสะดวกมากที่สุด ใช้ทางหลวงหมายเลข 211 ไปทางอําเภอท่าบ่อ ซึ่งถ้ามาจากเเยกหนองสองห้อง วัดพระธาตุบังพวนอยู่กิโลเมตรที่ 10 ทางขวามือของถนนหมายเลข 211 สําหรับตําเเหน่ง GPS ในการค้นหาสถานที่คือ 17.743996, 102.681348 ถ้าไม่รู้ว่าเทศกาลบั้งไฟพญานาคปีนี้จะไปท่องเที่ยวที่ไหนในจังหวัดหนองคาย เราเเนะนําวัดพระธาตุบังพวนไว้ให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกของผู้อ่านนะ อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองหนองคายมาก ได้มาสักการะบูชาเเละยังได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ความเป็นมาของวัดพระธาตุบังพวนอีกด้วย ช่วงเวลากลางวัน เหมาะสําหรับการท่องเที่ยววัดเเห่งนี้ โดยถ้ามาก่อนเที่ยง อากาศก็ยังไม่ร้อนมาก ทําให้เดินได้อย่างสะดวกสบาย วันนี้ขอลาไปก่อนนะครับ สวัสดีครับ อ้างอิงรูปภาพ รูปภาพปก โดยนักเขียน รูปภาพ 1 - รูปภาพ 5 โดยนักเขียน อัปเดตบทความท่องเที่ยวตามสถานที่อันหลากหลาย โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !