ผู้เขียนต้องบอกว่าปี - 2ปี มานี้เป็นโอกาสทองของคนไทยอย่างมาก ที่ภาครัฐเข้ามามีบทบาทในการช่วยเคลียร์หนี้ครัวเรือนของประชาชนในรูปแบบต่างๆ โดยที่บุคลากรภาครัฐร่วมมีส่วนเป็นตัวกลางทำให้การเคลียร์หนี้ระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ มีความยืนหยุ่น รอมชอม แต่ เป็นธรรม เป็นกลาง และต่างยอมรับในข้อตกลงร่วมกันได้ ในฐานะที่ตัวผู้เขียนก็เป็นทั้งผู้ไกล่เกลี่ย , เป็นวิทยากรกระบวนการด้านสิทธิมนุษย์ชน ของกรมคุ้มครองสิทธิ์ , กระทรวงยุติธรรม , เป็นทนายความ และ มีประสพการณ์ตรงเคยทำงานด้าน Finance , Leasing , Loan มาก่อน นับรวมประสพการณ์ด้านหนี้ก็ราว 20 ปีได้ จึงอยากจะ #รีวิววิธีเคลียร์หนี้ เพื่อเป็นอีกแนวทางหนึ่ง ให้เพื่อนๆได้เลือกตัดสินใจนำไปใช้กับกรณีของตน #รีวิววิธีเคลียร์หนี้โดยกูรูสายตรง ก่อนอื่นแนะนำว่า ต้องทำเป็นขั้นตอนดังนี้1.รวบรวมบรรดาหนี้สินเข้าเป็นก้อนเดียวกัน ห้ามกระจัดกระจายหนี้แต่ละก้อน โดยหาสถาบันการเงินที่มีโครงการรวบรวมหนี้และผ่อนตรงกับสถาบันการเงินนั้นแต่เพียงที่เดียว ดอกเบี้ยจะได้เป็นก้อนเดียว จ่ายทีเดียว ครั้งเดียวในแต่ละเดือน จะทำให้เราไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยหลายแหล่ง รวมเงินค่าดอกเบี้ยทุกแหล่งก็จะบานเอา ช่วยลดภาระได้มาก2.เข้ารวมโครงการมหกรรมเคลียร์หนี้ต่างๆของภาครัฐ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมจะเชิญเจ้าหนี้จากหลายๆที่มารวมตัวกันเพื่อร่วมหาข้อแก้ไข อันเป็นที่พอใจของทุกฝ่าย ภายใต้การดูแลของบุคลากรที่เชื่อถือได้ ซึ่งจะจัดขึ้นทุกจังหวัดของประเทศไทย และ สามารถสอบถามข้อมูลได้ตลอด รวมถึง ไกล่เกลี่ยหนี้ Online ผ่านทางระบบ E-Mediation โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ https://emediation.rlpd.go.th หรือ โทร.ปรึกษาได้ที่ 1111 กด 77 หรือ ศูนย์ไกล่เกลี่ยภาคประชาชน ทุกภาคทั่วประเทศไทย ซึ่งถ้าเจ้าหนี้เป็นฝ่ายขอให้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย ต้อง ย้ำลูกหนี้ เลยว่า ต้องถามให้แน่ใจว่า มีกรมคุ้มครองสิทธิ์กระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ไกล่เกลี่ยใช่หรือไม่ อย่าตกลงเอง ร่วมตกลงด้วยกัน 3 ฝ่าย เจ้าหนี้ ลูกหนี้ ผู้ไกล่เกลี่ยของกรมคุ้มครองสิทธิ์กระทรวงยุติธรรม จะดีกว่า เพราะผู้ไกล่เกลี่ยมีอำนาจไกล่เกลี่ยตาม พรบ.การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท 2562 3.ถ้าตกลงกันตามข้อ 2 ไม่เป็นที่พอใจ ซึ่งการไกล่เกลี่ยหนี้ในแบบนี้เป็นการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องตาม พรบ.การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท 2562 นั่นเป็นไปได้ 2 กรณีกรณีที่ 1 ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงกันไม่ได้ หาทางออกร่วมกันไม่ได้เลยจริงๆ ก็จะเป็นขั้นตอนของการส่งฟ้องศาลกรณีที่ 2 มูลหนี้ที่พิพาท เกินกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ใน พรบ.การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท 2562 ก็ต้องส่งฟ้องศาลทั้ง 2 กรณี เมื่อเกิดขึ้นแล้ว อย่าตกใจ ขอให้ลูกหนี้ไปศาลมีหมายเรียกมาทุกคน ย้ำ ต้องไปตามหมายเรียก จะเป็นประโยชน์ต่อลูกหนี้อย่างมาก ในชั้นนี้ ศาลจะมีผู้ประนอม ซึ่งจะทำหน้าที่ไกล่เกลี่ย อีกครั้งหนึ่ง 4. เมื่อครบทุกขั้นตอนตามนี้แล้ว หนี้ก็จะถูกรวบรวมเป็นก้อนเดียวกันและได้รับเงื่อนไข ส่วนลดต่างๆ หลายสิ่งหลายอย่าง จากเจ้าหนี้ ที่เป็นการบรรเทา รอมชอมต่อกัน ทำให้ทุกฝ่ายยิ้มได้ และลูกหนี้ก็จะได้รับเงื่อนไขดีๆ มากมาย จะได้บรรเทาค่าใช้จ่าย จ่ายเพียงทางเดียว ก้อนเดียว ในอัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่าในกรณีที่เป็นหนี้นอกระบบ ก็ยังคงต้องทำตามข้อ 1 ลงมา แต่ ***ย้ำหนักมาก*** ต้องเชิญเจ้าหนี้เข้าหารือร่วมกับศูนย์ไกล่เกลี่ยภาคประชาชน ซึ่งมีทั่วทุกจังหวัดของประเทศไทย เป็นยุติธรรมทางเลือกที่ทางราชการบริการให้แก่ประชาชน หรือ โทร.ปรึกษาได้ที่ 1111 กด 77 เราทุกคนย่อมมีสิทธิและเสรีภาพและได้รับความคุ้มครองในฐานะประชาชนของประเทศ เพื่อนๆก็จะยิ้มได้ไม่แพ้ หนี้ในระบบเลย ส่วนถ้าจะกู้สินเชื่อเพื่อการลงทุนทำการค้าต่างๆใหม่ แนะนำ ควรเป็น SME Bank เพราะ ที่นี่ให้มากกว่าธนาคารของรัฐ ให้ความรู้ในการประกอบการการลงทุนใหม่ หลายด้าน มีการจัดอบรมให้แก่ผู้ประกอบการใหม่ด้วย เรียกว่าเจ้าหนี้ไม่ทิ้งลูกหนี้ว่างั้นเลย 😊ให้กู้แล้วยังให้ความรู้ ให้โอกาสอีก ยังมีกระทรวงอุตสาหกรรมอีก ที่จัดอบรมความรู้ให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กหน้าใหม่ๆทุกปี โครงการดีๆเหล่านี้มีแต่ที่นี่ ประเทศไทย โอ้ประเทศไทยเรานี้แสนดีหนักหนา มีแต่สิ่งดีๆ เงินทองกำลังจะเติบโต เน๊อะ! ว่ามั๊ย#รีวิววิธีเคลียร์หนี้ #ย้ำ #ย้ำลูกหนี้ #ไกล่เกลี่ยเครดิตภาพ ภาพปก ทำและออกแบบโดยผู้เขียน ภาพประกอบบทความ ภาพที่ 1 โดย Minzy จาก pixabay.com ภาพประกอบบทความ ภาพที่ 2 , 3 ถ่ายและออกแบบโดยผู้เขียน ภาพประกอบบทความ ภาพที่ 4 โดย AlexanderStein จาก pixabay.com ภาพประกอบบทความ ภาพที่ 5 โดย nattanan23 จาก pixabay.com เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !